ภูเขาไฟ ฟูจิ ตั้งตระหง่านเหนือประเทศญี่ปุ่นด้วยความสูง 3,776 เมตร โดยภูเขาแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นที่รู้จักกันทั่วโลก และยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับคนในประเทศด้วย ถึงแม้จะสูงมาก แต่ภูเขาไฟฟูจิ ก็มีนักปีนเขากว่ามากกว่า 200,000 รวมถึงผู้เริ่มปีนเขา เดินทางมาเยี่ยมเยือนทุกปี คุณไม่จำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญในการปีนเขาเพื่อพิชิตแหล่งมรดกโลกแห่งนี้ แต่คุณก็ควรมีสภาพร่างกายที่แข็งแรง และเตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกเดินทาง

ภูเขาไฟฟูจิ จะเปิดให้ขึ้นปีนเขาตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม จนถึงต้นเดือนกันยายน ละช่วงพีคจะอยู่ ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมไปจนถึงปลายเดือนสิงหาคม และช่วงพีคจะอยู่ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมไปจนถึงปลายเดือนสิงหาคม ในช่วงวันที่ 5 - 15 สิงหาคม เส้นทางหลายแห่งจะมีผู้คนหนาแน่น และอาจปิดบริการเนื่องจากมีฝนตกหรือลมแรง ดังนั้นกำหนดเวลาปีนเขาของคุณให้ดี

นักปีนเขาหลายคนจะเลือกใช้เวลาปีนเขาสองวัน โดยพักที่กระท่อม ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างทางขึ้นเขา ก่อนจะออกเดินทางไปยังยอดเขาอีกครั้งในยามเช้าตรู่ แผนการปีนเขานี้จะทำให้คุณขึ้นไปถึงยอดเขาทันชมภาพพระอาทิตย์อันงดงาม

อย่าลืมใช้ความระมัดระวังระหว่างปีนเขาในความมืด เนื่องจากอาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ นักปีนเขามือใหม่อาจต้องการปีนขึ้นเขาในช่วงกลางวันที่สายกว่าหน่อย เนื่องจากปลอดภัยกว่า อากาศอุ่นกว่า และมีคนน้อยกว่า

สภาพอากาศอาจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากตลอดเส้นทางปีนเขา และมักจะมีพายุฝนฝ้าคะนอง ในช่วงบ่าย อุณหภูมิบนยอดเขาจะอยู่ระหว่าง 5 - 8 องศาเซลเซียส ถึงแม้จะเป็นฤดูร้อนก็ตาม ควร สวมเสื้ออบอุ่นหลาย ๆ ชั้น

การปีนเขาในความมืดจะต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ การวางแผนอย่างรัดกุม เตรียมอุปกรณ์และสภาพจิตใจให้พร้อม เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการปีนเขาอย่างปลอดภัย หากคุณพักค้างคืนบนเขา ก็อย่าลืมจองกระท่อมที่จะพักไว้ล่วงหน้า เนื่องจากในฤดูปีนเขาที่มีคนเยอะ ที่พักอาจเต็มได้

พึงระวังไว้ว่ายิ่งขึ้นไปในระดับที่สูงขึ้นเท่าไหร่ ปริมาณออกซิเจนในอากาศก็จะน้อยลงเท่านั้น อาจจะทำให้คุณรู้สึกวิงเวียนหรือเหนื่อยได้ง่าย การพักค้างคืนจะทำให้ร่างกายของคุณปรับตัวเข้ากับที่สูงได้ การเจ็บป่วยจากการขึ้นที่สูงเป็นสิ่งที่พบได้บ่อยบนภูเขาไฟฟูจิ ดังนั้นคุณจึงควรหาข้อมูลวิธีการป้องกันอาการป่วย ให้ดี คุณควรทราบขีดจำกัดของตนเอง และรู้ว่าควรกลับลงจากเขาเมื่อไหร่ หากคุณรู้สึกไม่สาย สิ่งที่สำคัญเป็นพิเศษ คือ คุณจะต้องเดินด้วยความเร็วที่เหมาะกับตนเอง ดื่มน้ำบ่อย ๆ และเตรียมอาหารให้เพียงพอตลอดทริปปีนเขา

เตรียมรองเท้าปีนเขาที่เหมาะสม หมวก ถุงมือ เสื้อกันฝน แจ็คเก็ต ชั้นในที่แห้งเร็ว ไฟฉายสวมหัว ถุงขยะ ไม้พลอง อาหาร และเงินสำหรับใช้จ่าย ดื่มน้ำอย่างน้อยสองลิตร

กระท่อมบนเขาที่ตั้งอยู่ตลอดเส้นทางขึ้นเขานั้นมีน้ำและสิ่งอื่น ๆ ไว้ให้บริการพร้อมสรรพ ซึ่งรวมถึงไม้พลองปีนเขาและขนมต่าง ๆ ด้วย หากคุณพักค้างคืนที่กระท่อมสักแห่ง อย่าลืมว่าที่นี่ไม่มีน้ำก๊อก และห้องน้ำก็ไม่มีระบบน้ำประปาด้วย ถึงแม้จะอยู่บนที่สูงและขาดสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน แต่คุณจะได้พบเห็นที่ทำการไปรษณีย์สาขาภูเขาไฟฟูจิบนยอดภูเขาไฟฟูจิ คุณจะสามารถส่งไปรษณียบัตรที่ประทับตราไปรษณีย์จริง ๆ จากบนยอดเขาได้

คุณสามารถปีนขึ้น[ภูเขาไฟ ฟูจิ ได้ถึงสี่เส้นทาง โดยเส้นทางที่เป็นที่นิยมที่สุดก็คือ เส้นทางเดินป่าโยชิดะ ที่อยู่ทางฝั่งจังหวัดยามานาชิ ภูเขาแห่งนี้แบ่งออกเป็น 10 “สถานี” และเส้นทางแต่ละสายจะเริ่มต้นจากสถานีที่ 5 ของเส้นทางนั้น ๆ

เส้นทางเดินป่าโยชิดะ อยู่บนเขาฝั่งจังหวัดยามานาชิ เป็นเส้นทางปีนภูเขาไฟฟูจิที่เป็นที่นิยมที่สุด และเข้าถึงได้ง่ายที่สุด โดยมีรถบัสวิ่งตรงจากโตเกียวคอยให้บริการผู้ชื่นชอบการปีนเขา ดังนั้น เส้นทางนี้จึงมีกระท่อมบนเขาและสิ่งอำนวยความสะดวกตั้งอยู่มากมาย เผื่อเวลาหกชั่วโมงไว้สำหรับการปีนเขา และอีกสี่ชั่วโมงไว้สำหรับการลงเขา ซึ่งจะใช้เส้นทางคนละเส้นกัน เส้นทางนี้มักจะใช้เดินทางไปชมภาพพระอาทิตย์ขึ้นอันสวยงามที่ยอดเขา ดังนั้น คนมักปีนเขาด้วยทางสองเส้น แล้วพักค้างคืนที่สถานีที่ 7 หรือ 8

เส้นทางเดินป่าโยชิดะเป็นเส้นทางที่ได้รับความนิยมสูงสุด จึงอาจมีคนหนาแน่นมากในช่วงพีคของฤดูปีนเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสุดสัปดาห์หรือวันหยุดยาว จำนวนคนหนาแน่นทำให้คุณปีนเขาด้วยความเร็วที่พอดีกับตัวเองได้ยาก

เส้นทางเดินป่าโยชิดะ สั้นกว่าเส้นทางเดินป่าโยชิดะ แต่ก็ชันกว่าและเดินยากกว่า ทางเส้นนี้ไม่มีทางลงเขาแยกต่างหาก ดังนั้นคุณจะได้ใช้ทางเส้นเดิมเดินลงเขากลับ การเดินขึ้นเขาจะใช้เวลาประมาณสี่ชั่วโมง ส่วนการลงเขาจะใช้เวลาประมาณสองชั่วโมง

เส้นทางเดินป่าซูบาชิริะ ทางฝั่งตะวันออกของภูเขาจะมีคนหนาแน่นน้อยกว่า แต่ก็มีกระท่อมและสิ่งอำนวยความสะดวกน้อยกว่าเช่นกัน ทางเส้นนี้จะรวมเข้ากับเส้นทางเดินป่าโยชิดะ เมื่อใกล้ถึงสถานีที่ ี่ 8 ในทำนองเดียวกันนี้ เส้นทางเดินป่าโกเท็มบะ เป็นเส้นทางที่ยาวที่สุดโดยมีระยะเวลาตั้งแต่เจ็ดชั่วโมงขึ้นไป โดยเริ่มจากระดับความสูงที่ต่ำกว่าเส้นทางอื่นๆ หลายร้อยเมตร โปรดจำไว้ว่าทางเส้นนี้มีกระท่อมบนเขาเพียงไม่กี่หลังตั้งอยู่ใกล้สถานีที่ 7 และ 8 เท่านั้น

นักปีนเขาที่ช่ำชองจะเพลิดเพลินไปกับการไต่ไปรอบปล่องภูเขาไฟ ฟูจิต่อไปอีกสักหน่อย การเดินรอบปล่องจะใช้เวลาประมาณ 90 นาที โดยการเดินไปรอบ ๆ ปล่องภูเขาไฟจะทำให้คุณได้ชมทิวทัศน์ทั่วญี่ปุ่นแบบ 360 องศา

ที่พักใกล้ทะเลสาบคะวะกุจิโกะ มีอยู่หลายแห่ง โดยสามารถเดินทางไปถึงได้อย่างง่ายดายด้วยรถบัสจากสถานีที่ 5 ของเส้นทางเดินป่าโยชิดะ หากกำหนดการของคุณเอื้ออำนวย ก็ลองใช้เวลาเดินเที่ยวรอบ ๆ ทะเลสาบแห่งนี้ พื้นที่ทะเลสาบฟูจิทั้งห้า ที่อยู่ใกล้ ๆ ซึ่งสถานที่เหล่านี้มีชื่อเสียงในด้านทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม และบ่อน้ำพุร้อนสุดผ่อนคลาย การอาบน้ำในอนเซ็นสักแห่งก็เป็นวิธีคลายความเมื่อยล้าที่ขาหลังปีนเขาอย่างเหน็ดเหนื่อยได้ดี

สำหรับผู้ที่ต้องการกลับเข้าเมืองเร็ว ๆ ก็สามารถมองข้ามที่พักเพิ่มเติมนี้ไปได้แล้วเลือกขึ้นรถไฟหัวกระสุน หรือรถบัสกลับโตเกียวได้

ถึงแม้ว่าจะสามารถเดินทางไปยังภูเขาไฟฟูจิได้หลายวิธี แต่วิธีที่สะดวกสบายที่สุดสำหรับนักปีนเขาที่เดินทางมาจากโตเกียวก็คือ การขึ้นรถบัสที่วิ่งตรงจากสถานีชินจูกุ ไปยังสถานีที่ี่ 5 ของเส้นทาง เดินป่าโยชิดะ การเดินทางจะใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงครึ่ง โปรดจำไว้ว่ารถบัสสายนี้จะมีให้บริการเฉพาะช่วงฤดูปีนเขาเท่านั้น

หากคุณวางแผนจะใช้เวลาท่องเที่ยวในภูมิภาคก่อนมาปีนเขา ก็จะมีรถไฟหัวกระสุนหลายสายคอยให้บริการจากโตเกียว โอซาก้า นาโกย่า และเกียวโต มายังชิซุโอกะ สถานีชินฟูจิ เป็นศูนย์กลางการคมนาคมที่ในการเดินทางไปปีนขึ้นภูเขาฟูจิ ฝั่งชิซุโอกะ

สำหรับการเดินทางไปยังจังหวัดยามานาชิ คุณสามารถขึ้นรถไฟสายชูโอในจังหวัดนะงะโนะ ที่เชื่อมโตเกียวเข้ากับมัตสึโมโตะได้ สถานีคาวางูจิโกะเป็นศูนย์กลางการเดินทางของเหล่านักปีนเขา โดยจะต้องเปลี่ยนสายไปขึ้นรถสายไฟสายชูโอะ ที่สถานีโอสึ

สำหรับนักปีนเขามือใหม่ และผู้ที่ไม่อยากวางแผนมาก ขอแนะนำให้ลองใช้บริการบริษัทท่องเที่ยวในการเดินทางมาปีนขึ้นภูเขาไฟ ฟูจิ ทัวร์เหล่านี้จะช่วยจัดการรายละเอียดต่าง ๆ ของการเดินทางให้ ทั้งบริการรับลูกทัวร์จากโตเกียว ตั๋วรถบัส คู่มือนำทาง อาหาร การจองกระท่อม และอื่น ๆ อีกมากมาย หากคุณต้องการใช้พลังส่วนมากไปกับการสัมผัสประสบการณ์ปีนขึ้นภูเขาไฟฟูจิเท่านั้น ก็ปล่อยให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นคนจัดการเรื่องจุกจิกอื่น ๆ ให้