คู่มือแนะนำ การอาบป่าในญี่ปุ่น (ชินรินโยคุ) มาหาคำตอบกันว่าทำไมนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ถึงเลือกเข้าป่าเพื่อผ่อนคลาย

หากคุณเคยเดินป่าแล้วฟังเสียงนกร้องขับขานและมองแสงอาทิตย์ที่สาดส่องลอดจากใบไม้ แสดงว่าคุณได้ร่วมทำกิจกรรมอย่างหนึ่งที่มีประโยชน์สูงสุดในการรักษาสุขภาพกายและการเยียวยาจิตใจแล้ว แม้แต่แพทย์ชาวญี่ปุ่นก็ยังส่งเสริมให้อาบป่าเป็นเพื่อเป็นการพักผ่อนจากชีวิตในเมืองที่วุ่นวาย

วางโทรศัพท์ของคุณทิ้งไว้ที่โรงแรมเพื่อทำดิจิทัลดีท็อกซ์ แล้วมุ่งหน้าออกไปเดินเล่นชมต้นไม้ในป่าที่ใกล้ที่สุด การอาบป่าไม่จำเป็นต้องเดินจ้ำอ้าวเหมือนเดินป่า วิ่ง หรือปีนเขา คุณสามารถนั่งพักได้หากต้องการ ใช้เวลาชื่นชมและฟังเสียงธรรมชาติรอบตัวคุณ ทั้งเสียงนกร้องเจื้อยแจ้ว เสียงพุ่มไม้เสียดสี เสียงน้ำไหลเอื่อยๆ สูดลมหายใจรับอากาศบริสุทธิ์และสดชื่น และดื่มด่ำทิวทัศน์พื้นผิวดินและรูปทรงใบไม้ที่แผ่กิ่งก้านปกคลุมท้องฟ้าเหนือศีรษะ ลองสัมผัสมอสสีเขียวนุ่มที่ขึ้นปกคลุมหินสีเข้มหรือสัมผัสเปลือกไม้ขรุขระบนต้นไม้ ให้ความเงียบสงบรอบตัวคุณได้เยียวยาสภาพจิตใจของคุณและทำให้คุณลืมชีวิตในเมืองที่พลุกพล่าน ประสบการณ์ทางประสาทสัมผัส

การอาบป่ากลายเป็นส่วนสำคัญของการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันในญี่ปุ่น ผลการวิจัยของญี่ปุ่นได้แสดงให้เห็นว่าการอาบป่าช่วยทำให้คุณภาพการนอนหลับ อารมณ์ ความสามารถในการโฟกัส และระดับความเครียดดียิ่งขึ้น ความเครียดเรื้อรังอาจเป็นสาเหตุให้เกิดโรคต่างๆได้ เช่น โรควิตกกังวล โรคซึมเศร้า และโรคนอนไม่หลับ เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถนำไปสู่ปัญหาทางร่างกาย เช่น ความดันโลหิตสูง กล้ามเนื้อยึดตึง และการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันลดลง การใช้เวลาในธรรมชาติห่างจากเทคโนโลยีสมัยใหม่และเมืองใหญ่ เป็นการลดผลกระทบของความเครียดต่อร่างกาย และทำให้สุขภาพร่างกายและจิตใจของคุณดีขึ้นได้ การอาบป่าในญี่ปุ่นได้รับการยืนยันแล้วว่าสามารถทำให้ผู้คนทุกวัยใช้ชีวิตดีขึ้นและสุขภาพดีขึ้น

การอาบป่าเป็นการบำบัดทางการแพทย์ในญี่ปุ่นในช่วงทศวรรษที่ 1980 ในช่วงเวลานี้ โลกกำลังตระหนักถึงผลกระทบด้านลบของความซึมเศร้า ฟุ้งซ่าน และปวดเมื่อย ผลกระทบเหล่านี้แย่ลงเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป และตอนนี้ก็มีผลกระทบกับเมืองต่างๆ ทั่วโลกเช่นเดียวกัน การผ่อนคลายในเมืองไม่ใช่สิ่งที่ง่ายนักเพราะผู้คนต้องเผชิญสภาพจราจรติดขัด ประชากรหนาแน่น และยังต้องใช้เวลาในออฟฟิศเป็นเวลานาน ความต้องการอสังหาริมทรัพย์ที่สูงขึ้นทำให้หลายเมืองต้องปลูก “ต้นไม้เล็กๆ น้อยๆ” ซึ่งเป็นการปลูกต้นไม้และสร้างสวนสาธารณะเพียงไม่กี่แห่งเพื่อสร้างภาพมายาของธรรมชาติในเมือง

สิ่งนี้ทำให้เห็นความสำคัญของการอาบป่ามากยิ่งขึ้น การอยู่ในป่าและใส่ใจกับสภาพแวดล้อมรอบตัวเรานั้นเป็นการจุดประกายให้ปลดปล่อยความรู้สึกที่อยากจะทำบางสิ่งบางอย่าง แต่ก็มีความสงบมากเพียงพอที่จะทำให้เราเกิดช่วงเวลาแห่งความสงบสุข

ศ. ดร. นพ. ควิง ลี (Qing Li) เป็นแพทย์ประจำโรงเรียนแพทย์นิปปน เมดิคอล สคูล ในกรุงโตเกียว ประธานสมาคมการบำบัดด้วยป่า และผู้แต่งหนังสือ Forest Bathing: How Trees Can Help You Find Health and Happiness เขา ประเมินว่าคนเราใช้เวลา 93 เปอร์เซ็นต์ของเวลาทั้งหมดในบ้าน เขายังระบุไว้ว่าความผิดปกติในการขาดดุลทางธรรมชาติในสังคม ก่อให้เกิดความรู้สึกด้านลบเกี่ยวกับชีวิต แต่สิ่งเหล่านี้สามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นได้อย่างมากโดยการอาบป่าเพียงไม่กี่ชั่วโมง

คุณค่าที่แท้จริงของการอาบป่าคือเป็นวิธีที่ทำได้ง่าย การอาบป่ามีประโยชน์ที่คล้ายคลึงกับการปฏิบัติอื่นๆ ของญี่ปุ่น แต่เป็นวิธีที่ไม่ต้องใช้ความกดดันมากเท่าการทำสมาธิและการเจริญสติแบบเซน ในการทำสมาธิ คุณจะต้องนั่งนิ่งๆ จดจ่อกับความคิดของคุณและปล่อยให้มันไหลผ่านจิตใจของคุณโดยไม่ต้องเข้าไปมีส่วนร่วม ในขณะที่การเจริญสติคือการตระหนักรับรู้ถึงสภาพแวดล้อมและสถานการณ์ในชีวิตของคุณและรับรู้ถึงความรู้สึกของคุณในขณะนั้น อย่างไรก็ตาม การทำสมาธิและการเจริญสติจะเกิดขึ้นโดยธรรมชาติเมื่อคุณอยู่ในป่า เนื่องจากคุณจะปล่อยให้ความรู้สึกของคุณจดจ่อกับการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นอย่างไม่ซับซ้อนรอบตัวคุณ

หากคุณลังเลที่จะลองอาบป่าคนเดียว ที่ญี่ปุ่นมีบริการพิเศษสำหรับคุณ มีศูนย์เชี่ยวชาญฝึกฝนการอาบป่าและจัดทัวร์ตามความต้องการส่วนบุคคลของคุณตั้งอยู่ทั่วประเทศ จะมีมัคคุเทศก์หรือนักบำบัดคอยช่วยเหลือผู้เข้าชมให้ได้เรียนรู้วิธีที่จะหยุดและชื่นชมธรรมชาติรอบตัว หรือแม้กระทั่งเรียนรู้พิธีชงชา และกลับบ้านไปพร้อมความผ่อนคลายและความพึงพอใจ

หากคุณอยากจะไปอาบป่าด้วยตัวเอง ญี่ปุ่นก็มีอุทยานแห่งชาติที่น่าทึ่งซึ่งเป็นสถานที่ที่เหมาะสมต่อการชินริน-โยกุให้คุณได้ลองสัมผัสด้วยตนเอง หากคุณชอบการปีนเขา คุณก็สามารถเดินทางไปที่ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น ได้จากโตเกียว หากคุณสนใจแสวงบุญทางจิตวิญญาณ คุณสามารถเดินทางไปที่ป่าศักดิ์สิทธิ์ในอุทยานแห่งชาติโยชิโนะ-คุมาโนะ ซึ่งตั้งอยู่ที่ คาบสมุทรคิอิ ในทางตอนใต้ของโอซาก้า หากคุณชอบการผจญภัย ให้มุ่งหน้าลงใต้ไปที่ อุทยานแห่งชาติยะคุชิมะ และเดินเล่นในที่ที่เต็มไปด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงด้วยทะเลมาเป็นเวลากว่าพันปี แม้ว่าญี่ปุ่นจะมีชื่อเสียงในเรื่องเมืองขนาดใหญ่มากมายที่ประดับประดาไปด้วยแสงไฟนีออน แต่ประเทศนี้ก็ยังมีทิวทัศน์ธรรมชาติที่ยังสมบูรณ์อยู่สำหรับการอาบป่าซึ่งเป็นสิ่งที่แพทย์ชาวญี่ปุ่นแนะนำ