คู่มือแนะนำ คู่มือการฮันนีมูนในญี่ปุ่นสำหรับแต่ละฤดูกาล เลือกบทเรียนภาษาญี่ปุ่นที่เหมาะกับคุณ แล้วเปิดโลกใบใหม่อย่างมีสไตล์

คุณสามารถใช้คู่มือแนะนำการฮันนีมูนในญี่ปุ่นฉบับนี้เพื่อดูว่าฤดูกาลใดลงตัวที่สุดสำหรับเยี่ยมชมเมืองสมัยใหม่และเมืองโบราณของญี่ปุ่น หรือร่วมกิจกรรมปิกนิกใต้ต้นซากุระ ปีนภูเขาไฟฟูจิ ตลอดไปจนถึงผ่อนคลายตามชายหาดที่งดงามที่สุดในประเทศ นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเจาะลึกเกี่ยวกับช่วงที่ควรไปเยือนศาลเจ้าและวัดในญี่ปุ่นที่ให้พรด้านชีวิตคู่ รวมถึงเวลาที่เหมาะสำหรับหนีความวุ่นวายไปหาอนเซ็นบนภูเขา ไม่ว่าจะเลือกไปฮันนีมูนช่วงฤดูกาลไหนของญี่ปุ่น คุณก็จะได้เริ่มสร้างความทรงจำร่วมกันในฐานะคู่แต่งงานผ่านการสัมผัสที่สุดแห่งอาหารญี่ปุ่นตามฤดูกาล วัฒนธรรม ธรรมชาติ และการให้บริการในระดับที่ไม่มีใครเทียบเคียง

ภาพของฤดูใบไม้ผลิในญี่ปุ่นที่ผู้คนนึกถึงคือดอกซากุระในช่วงที่กลีบดอกสีชมพูแสนบอบบางเหล่านี้เบ่งบานไปทั่วทั้งประเทศ ดังนั้นวิธีที่น่าจดจำวิธีหนึ่งสำหรับเฉลิมฉลองให้กับชีวิตใหม่ที่เพิ่งเริ่มจึงได้แก่การปิกนิกใต้ต้นไม้พร้อมจิบแชมเปญซากุระ

เขตพื้นที่แผ่นดินใหญ่ของญี่ปุ่นโดยมากจะมีสวนสาธารณะและแถบที่ต้นซากุระขึ้นติดกันเป็นกระจุก ไม่ว่าจะเป็นสวนสาธารณะขนาดเล็กในท้องที่ ตลอดไปจนถึงจุดชมดอกซากุระเลื่องชื่อ อาทิ พื้นที่ภายในปราสาทโอซาก้า เจดีย์จูเรโตในจังหวัดยามานาชิ รวมถึงสวนสาธารณะอิโนะกะชิระ และสวนสาธารณะชินจูกุเกียวเอ็ง ในโตเกียว

จุดยอดนิยมหลายที่เปิดไฟช่วงกลางคืน จึงเพิ่มความโรแมนติกให้กับประสบการณ์เที่ยวชมได้อีกเล็กน้อย สถานที่ชมดอกซากุระชื่อดังจะมีผู้คนหนาแน่น ดังนั้นหากต้องการความเงียบสงบและโรแมนติก ให้มุ่งหน้าไปยังจุดในท้องถิ่นที่ผู้คนบางตาจะดีกว่า

การวางแผนฮันนีมูนโดยยึดดอกซากุระเป็นเป้าหมายหลักถือว่ามีความเสี่ยง เนื่องจากเวลาของการผลิบานไม่แน่นอนเหมือนวิทยาศาสตร์ ในช่วงปลายเดือนมีนาคม ดอกซากุระส่วนใหญ่จะบานสะพรั่งในพื้นที่ฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก และจากนั้นจะเคลื่อนไปทางเหนือสู่โตเกียว โอซาก้า และเกียวโตในต้นเดือนเมษายน และไปยังโทโฮคุและฮอกไกโดตั้งแต่กลางเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม การพยากรณ์ดอกซากุระ ของทางการจะประกาศออกมาตอนต้นปี แล้วปรับแก้ไขข้อมูลบ่อย ๆ เมื่อฤดูใบไม้ผลิใกล้จะมาเยือน เนื่องจากการวางแผนฮันนีมูนต้องดำเนินการล่วงหน้าเป็นเวลานาน ดังนั้นให้เล็งช่วงท้ายเดือนมีนาคมไว้หากคุณตั้งใจจะเดินทางไปยังเมืองใหญ่ ๆ เพราะโอกาสที่จะได้ชมดอกซากุระบ้างจะมีค่อนข้างสูง

แม้ว่าฮันนีมูนฤดูใบไม้ผลิของคุณจะคลาดกับช่วงดอกซากุระเบ่งบานที่มีให้ชมเพียงครู่เดียว ฤดูนี้ก็ยังคงเป็นเวลาที่เหมาะสำหรับท่องเที่ยวญี่ปุ่นอยู่ดี เพราะสภาพอากาศจะเย็นสบายและปลอดโปร่งเป็นส่วนใหญ่จนกระทั่งเริ่มฤดูฝนของญี่ปุ่นในเดือนมิถุนายน ทั้งฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วงต่างเป็นช่วงเวลาที่เหมาะลงตัวที่สุดสำหรับออกไปเที่ยวสำรวจเมืองสมัยใหม่และเมืองโบราณทั้งหลายภายในประเทศ

โตเกียว และโอซาก้า คือเมืองที่โลกหมุนเร็วและเป็นบ่อเกิดแรงบันดาลใจ รวมทั้งมีตัวเลือกร้านอาหารและความบันเทิงชั้นยอดส่วนหนึ่งของประเทศให้คุณเลือก สำหรับเหล่านักชิมที่เป็นคู่แต่งงานใหม่ พลาดไม่ได้กับการลิ้มรสซูชิที่สดใหม่กว่าที่ไหน เทปปันยากิชวนน้ำลายสอซึ่งย่างให้ชมแบบใกล้ชิด ตลอดไปจนถึงเทมปุระแป้งบางกรอบ เติมความพิเศษให้ฮันนีมูนของคุณโดยจองเข้าพักโรงแรมสุดหรูที่มีให้เลือกใช้บริการมากมาย หรือจะลองค้างที่บูติกโฮสเทลสักสองสามคืนเพื่อเปิดประสบการณ์แปลกใหม่ก็ได้เช่นกัน ระบบขนส่งที่ยอดเยี่ยมในเมืองต่าง ๆ จะช่วยให้คุณสัญจรไปมาได้สะดวกง่ายดาย ทั้งยังเดินทางสู่ส่วนอื่นภายในประเทศได้ง่ายและรวดเร็วเช่นกัน เนื่องจากสถานีโตเกียวและสถานีชินโอซาก้าต่างก็เป็นศูนย์กลางของรถไฟหัวกระสุน

เกียวโต และนารา คือเมืองหลวงด้านวัฒนธรรมของญี่ปุ่นและเป็นจุดที่คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ซึ่งต่างจากป่าคอนกรีตอย่างโตเกียวและโอซาก้า อาทิ เที่ยวชมเมืองโบราณทั้งสองและไปเยือนแหล่งมรดกโลกยูเนสโกที่มีให้เลือกหลายแห่ง รวมถึงวัดที่ทรงเสน่ห์ต่าง ๆ ของเกียวโต ดื่มชามัทฉะสักถ้วยภายในสวนที่แสนเงียบสงบ เดินท่องไปตามป่าไผ่ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ทางวัฒนธรรมอย่างเช่นพิธีชงชาญี่ปุ่นและการนั่งสมาธิแบบฉบับเซ็น เดินเที่ยวท่ามกลางฝูงกวางที่ไม่ตื่นคนในสวนสาธารณะนารา และเข้าพักที่เรียวคัง (ryokan) แบบฉบับดั้งเดิมเพื่อสัมผัสประสบการณ์แห่งการให้บริการในสไตล์ญี่ปุ่น การเดินทางจากโตเกียวไปยังเกียวโตจะใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงหากโดยสารรถไฟซินคังเซ็น (shinkansen) นอกจากนั้นนารายังตั้งอยู่ติดกับเกียวโตอีกด้วย

*ขอให้ใช้ความรอบคอบเป็นพิเศษหากคุณตั้งใจจะไปฮันนีมูนช่วงปลายเดือนเมษายนจนถึงต้นเดือนพฤษภาคม เนื่องจากช่วงเทศกาลวันหยุดโกลเด้นวีคจะเริ่มขึ้นช่วงเวลานี้ เพราะฉะนั้นการจองสถานที่พักและบริการขนส่งจะยุ่งยากและราคาสูง

ฤดูร้อนในญี่ปุ่นมีสภาพอากาศที่ร้อนและชื้นมาก อีกทั้งช่วงไม่กี่ปีมานี้อุณหภูมิตามเมืองใหญ่ ๆ บางแห่งและในจังหวัดที่ไม่ติดทะเลยังได้ทะลุขึ้นสูงเกินกว่า 40 องศาเซลเซียส ด้วยเหตุนี้ช่วงฤดูร้อนของญี่ปุ่นจึงเหมาะไปใช้เวลาตามพื้นที่ชายฝั่งหรือบนที่สูงมากกว่าเที่ยวสำรวจเมืองเล็กใหญ่ท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าว สำหรับคู่แต่งงานใหม่ที่ต้องการผ่อนคลายบริเวณชายหาดหรือร่วมกิจกรรมเดินป่าแบบเป็นกิจลักษณะ ญี่ปุ่นก็ตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้ทุกข้อ

กลุ่มเกาะกึ่งเขตร้อนชื่อโอกินาวะ ตั้งอยู่ห่างจากโตเกียวไปทางทิศใต้กว่า 1,560 กิโลเมตร อีกทั้งยังเป็นจุดรวบรวมชายหาดที่งดงามที่สุดส่วนหนึ่งของประเทศ พร้อมด้วยทรายขาวทอดตัวยืดยาวและผืนน้ำเขียวครามแสนวิจิตร คู่รักที่มาฮันนีมูนและอยากจะผ่อนคลายควรจองเข้าพักในรีสอร์ทหรู ซึ่งหลายแห่งมีบริการทำสปาเพื่อความสบาย ภัตตาคารอาหารเลิศรส และตัวเลือกกิจกรรมกีฬาทางน้ำมากมายให้ร่วมสนุก

ขณะเดียวกันเกาะที่มีขนาดเล็กลงมาบางส่วนในเขตหมู่เกาะโอกินาวะก็เป็นอีกตัวเลือกให้เหล่าคู่รักได้ผ่อนคลายอย่างเงียบสงบ แม้จะอยู่ค่อนข้างห่างไกลก็ตาม ค้างคืนในที่พักสุดหรูแห่งใดแห่งหนึ่งบนเกาะมิยาโกะจิมะ หรือทอดน่องไปตามชายหาดที่สะกดสายตาของเกาะอิชิงะคิ รีสอร์ทหรูที่ชื่อโฮชิโนยะ ทาเคโตมิเปิดให้บริการบนเกาะทาเคโตมิ

เมื่อใดก็ตามที่คุณเลือกพักในโอกินาวะ อย่าลืมเช่ารถยนต์และออกไปเที่ยวสำรวจวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ไม่เหมือนใครของเกาะโอกินาวะ พายเรือคายัคในป่าชายเลน ลิ้มรสอาหารและเครื่องดื่มประจำถิ่นที่โดดเด่น รวมถึงเผื่อเวลาไว้้บ้างสำหรับเดินเที่ยวไปตามชายหาดและชมภาพดวงอาทิตย์ตกที่แสนตระการตา

สำหรับคู่รักที่มองหากิจกรรมที่ต้องใช้พละกำลังเยอะขึ้นมาหน่อย ห้ามพลาดฤดูกาลสำหรับกิจกรรมปีนภูเขาฟูจิ ฤดูร้อน การเดินทางสู่ยอดเขาที่สูงที่สุดของญี่ปุ่น ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกคือความท้าทายมากความหมายที่รอให้คุณมาพิชิตร่วมกัน นอกจากนั้นทิวทัศน์ตอนดวงอาทิตย์ขึ้นเหนือกลุ่มเมฆก็จะเป็นภาพความทรงจำที่ไม่รู้ลืม หากต้องการผ่อนคลายหลังทริปปีนเขา ให้จองเข้าพักโรงแรมเรียวคัง (ryokan) และอนเซ็นรีสอร์ทภายในเขตพื้นที่เพื่อขจัดความเหนื่อยล้าด้วยน้ำพุร้อนธรรมชาติ เขตพื้นที่ทะเลสาบฟูจิทั้ง 5 และทะเลสาบคะวะกุจิ คือปลายทางยอดนิยม เนื่องจากมีตัวเลือกหลากหลายทั้งกิจกรรมพักผ่อนและประสบการณ์ทางวัฒนธรรม

ฤดูใบไม้ร่วงในญี่ปุ่นมีสภาพอากาศเย็นสดชื่นและปลอดโปร่ง จึงเหมาะกับคู่รักที่ชอบกิจกรรมกลางแจ้ง ฤดูร้อนของญี่ปุ่นมักจะกินเวลายืดไปจนกระทั่งปลายเดือนกันยายน แต่ระหว่างกลางเดือนตุลาคมจนถึงกลางเดือนธันวาคมคือช่วงที่อากาศดี แม้จะท่องเที่ยวสำรวจได้ตลอดปี แต่สภาพอากาศที่ไม่ร้อนไม่หนาวเกินไปก็คือเหตุผลที่ฤดูใบไม้ร่วงเป็นช่วงที่เหมาะไปใช้เวลาทั้งในเมืองและในแถบชนบท

ใบไม้เปลี่ยนสีในญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามมากเป็นพิเศษ อีกทั้งยังมีให้คุณชมเป็นเวลาประมาณหนึ่งเดือนเต็ม ไม่เหมือนกับดอกซากุระที่มาเพียงครู่เดียวแล้วก็เลือนหายไป เกียวโตคือสถานที่ที่มีชื่อเสียงสำหรับการชมใบไม้หลากสี ทั้งแดงสด ส้ม และเหลืองอร่าม ต้นเมเปิลญี่ปุ่นในเขตพื้นที่วัดหลายแห่งของเกียวโตต่างเป็นภาพที่สวยงาม ส่วนต้นโมมิจิในเขตพื้นที่ของวัดโคซังจิ ในแถบหุบเขาทะกะโอะเองก็วิจิตรตระการตามากเป็นพิเศษในช่วงฤดูใบไม้ร่วง

เนื่องจากฤดูใบไม้ร่วงคือช่วงที่ลงตัวที่สุดสำหรับเที่ยวสำรวจญี่ปุ่น คุณจึงไม่ควรพลาดโอกาสตามรอยคู่รักฮันนีมูนคู่แรกของญี่ปุ่น หรือไปเยือนศาลเจ้าบางแห่งเพื่อขอพรให้ชีวิตคู่จากเหล่าทวยเทพ

เรียวมะ ซากาโมโตะ (1836-1867) คือบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ที่ทรงอิทธิพลอย่างยิ่ง รวมถึงมีบทบาทที่มองข้ามไม่ได้ในการปฏิรูปญี่ปุ่นให้เข้าสู่ยุคสมัยใหม่ ผู้คนต่างเชื่อกันว่าเรียวมะ ซากาโมโตะและภรรยาของเขาคือคู่รักฮันนีมูนคู่แรกของญี่ปุ่น ทั้งคู่ได้ไปเยือนคิริชิมะ ที่เกาะใต้อย่างคิวชู ใช้เวลาไปบางส่วนที่ศาลเจ้าคิริชิมะจิงกู รวมถึงปีนภูเขาคิริชิมะ ด้วยเช่นกัน คุณสามารถเดินตามเส้นทางเดียวกันกับที่คู่รักคู่นี้ออกลุยไปพร้อม ๆ กับสร้างความทรงจำใหม่ ๆ ในฐานะคู่รัก

คุณยังมุ่งหน้าไปยังจังหวัดนาราในภูมิภาคคันไซของญี่ปุ่นเพื่อเยี่ยมเยือนวัดไซไดจิ ก็ได้อีกด้วย คู่รักจำนวนไม่น้อยพากันมายังวัดแห่งนี้และขอพรจากราคราชผู้เป็นเทพแห่งความรักตามศาสนาพุทธเพื่อให้ชีวิตคู่ประสบความสำเร็จ พระพุทธรูปองค์นี้ประทับอยู่ในศาลาไอเซ็นโดภายในเขตพื้นที่วัด อีกทั้งยังถือคันธนูและลูกศรเหมือนกับคิวปิด

หากคุณมาเที่ยวแถบคันไซ ให้ไปชมเมโอโตะอิวะ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าหินแต่งงาน จุดนี้ตั้งอยู่ห่างจากศาลเจ้าชินโตหลายแห่งที่มีความสำคัญสูงสุดของญี่ปุ่นอย่างศาลเจ้าอิเสะจิงกู ราว ๆ 10 กิโลเมตร โขดหินกลางผืนทะเลทั้งสองเชื่อมถึงกันด้วยเชือกฟางเส้นหนา ซึ่งผู้คนว่ากันว่าเป็นสัญลักษณ์ที่มีความหมายแทนการแต่งงานระหว่างชายกับหญิง นอกจากนี้ยังมีศาลเจ้าอยู่ใกล้ ๆ ที่คุณสามารถไปขอพรเพื่อชีวิตคู่ที่ยืนยาวและมีความสุขได้เช่นกัน ในฟุคุโอกะที่อยู่บนเกาะคิวชูทางใต้ คุณจะพบหินแต่งงานอีกคู่หนึ่งที่รู้จักกันในชื่อเมโอโตะอิวะ เหมือนกัน

หากต้องการเห็นภาพคู่รักคู่อื่น ๆ ที่กำลังก้าวเดินไปบนเส้นทางชีวิตคู่เหมือนกับคุณ ให้ไปเยือนศาลเจ้าเมจิจิงกู ในโตเกียว ศาลเจ้าแห่งนี้จัดพิธีแต่งงานหลากหมาย แถมเมื่อมาที่นี่ยังมีโอกาสบ่อยครั้งที่จะได้ชมขบวนแห่แสนโดดเด่นของพิธีแต่งงานแบบชินโตในเขตพื้นที่ศาลเจ้าอีกด้วย บรรยากาศที่นี่เหมาะสำหรับเก็บภาพถ่ายที่สวยงาม รวมทั้งยังอาจเป็นสิ่งที่ชวนให้นึกถึงวันสุดพิเศษของคุณเองได้เช่นกัน

แม้ฤดูหนาวในญี่ปุ่นอาจมีอากาศเย็นจัด แต่คุณก็จะได้เพิ่มความอบอุ่นให้หนำใจไปกับอนเซ็นส่วนตัว เล่นสกี รวมถึงเปิดประสบการณ์ชมไฟประดับประจำฤดูหนาว

โรงแรมเรียวคัง (ryokan) แบบฉบับดั้งเดิมของญี่ปุ่นจะเปิดโอกาสให้ผู้เข้าพักได้สัมผัสบริการชั้นสูง และมักตั้งอยู่ห่างไกลท่ามกลางธรรมชาติ ดังนั้นจึงเป็นตัวเลือกที่ลงตัวสำหรับการหนีความวุ่นวายไปฮันนีมูน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูหนาว เรียวคัง (ryokan) หลายแห่งมีให้บริการเสิร์ฟอาหารภายในห้องพัก คุณจึงจะได้ลิ้มรสเมนูอาหารแบบไคเซกิที่รังสรรค์อย่างประณีตโดยไม่จำเป็นต้องละทิ้งความอุ่นสบายไปจากห้อง เรียวคัง (ryokan) หลายแห่งยังมีอนเซ็นส่วนตัวให้บริการอีกด้วย คุณสามารถเปิดประสบการณ์สไตล์ญี่ปุ่นขนานแท้ที่เป็นส่วนตัวได้โดยการแช่บ่อน้ำพุร้อนฟองฟอดเพียงสองต่อสอง นอกจากนี้การจองอนเซ็นส่วนตัวแบบกลางแจ้งจะเปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์สุดวิเศษในช่วงฤดูหนาวที่หิมะโปรยปราย

เรียวคัง (ryokan) และอนเซ็นรีสอร์ทเปิดให้บริการทั่วทั้งประเทศ นอกจากนี้หลายแห่งยังตั้งอยู่ในจุดที่เดินทางจากเมืองใหญ่ของญี่ปุ่นได้สะดวกสบายอีกด้วย คิโนะซะกิอนเซ็น ที่เก่าแก่นี้มีอายุย้อนกลับไปกว่า 1,000 ปี รวมถึงตั้งอยู่ห่างจากเกียวโตเป็นระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น คู่รักฮันนีมูนจะได้เปิดประสบการณ์ทางวัฒนธรรมหลากหลายรูปแบบที่ลงตัวเมื่อมาที่นี่ ทั้งบริการให้เช่าชุดญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมและการขึ้นบอลลูนอากาศร้อน ฮาโกเนะยูโมโตะอนเซ็น ห่างออกไปจากโตเกียวไม่ถึง 2 ชั่วโมง อีกทั้งยังเป็นจุดยอดนิยมที่โดดเด่นด้วยน้ำพุร้อนและสิ่งน่าสนใจทางวัฒนธรรมมากมายหลากหลาย รวมถึงพิพิธภัณฑ์ในร่มและกลางแจ้ง

หากคุณต้องการสัมผัสประสบการณ์ฮันนีมูนที่ต้องใช้พละกำลังมากขึ้น แนะนำให้เดินทางไปยังสกีรีสอร์ทของญี่ปุ่น สกีรีสอร์ทของญี่ปุ่น ตั้งแต่จุดต่าง ๆ ที่ขึ้นชื่อของนิเซะโกะ ในฮอกไกโด และฮาคุบะ ในนะงะโนะ ตลอดไปจนถึงสกีรีสอร์ทในแถบที่เป็นที่รู้จักน้อยลงทั่วทั้งประเทศจะกลายเป็นแหล่งรวมกิจกรรมลุยหิมะเมื่อฤดูหนาวมาเยือน โรงแรมเรียวคัง (ryokan) แบบฉบับดั้งเดิมหลายแห่งเปิดให้บริการในเขตพื้นที่ภูเขา ดังนั้นเท่ากับว่าคุณสามารถผสมผสานประสบการณ์เข้าพักเรียวคัง (ryokan) แบบฉบับดั้งเดิมรวมกับกิจกรรมสนุกบนลานสกีได้อีกเช่นกัน

-ชมกรุงโตเกียวจากมุมสูงโดยจองทัวร์ชมเมืองบนเฮลิคอปเตอร์แบบเป็นส่วนตัว ทั้งนี้เส้นทางทัวร์บางเส้นอาจออกไปไกลได้ถึงภูเขาฟูจิ

-แต่งกายด้วยชุดกิโมโนญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมในเกียวโตและทอดน่องไปตามถนนหิน รวมถึงบริการถ่ายภาพจากช่างภาพมืออาชีพเพื่อเก็บใส่อัลบั้มภาพแต่งงาน

-เต็มอิ่มกับอาหารระดับโลกโดยไปเยือนภัตตาคารที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ นอกจากนี้ภัตตาคารหลายแห่งยังติดดาวมิชลินด้วยเช่นกัน

-แช่กายลงในอนเซ็นโบราณขนาดเล็กสำหรับสองคนที่สึโบะยุในจังหวัดวากายะมะ ซึ่งตำนานกล่าวขานว่าโอกาสในการตั้งครรภ์ของคู่รักที่ลงไปแช่น้ำพุร้อนแห่งนี้จะสูงมากขึ้น

-เฉลิมฉลองอนาคตของคุณด้วยค็อกเทลที่ชั้นบนสุดของหนึ่งในตึกสูงระฟ้าแห่งโตเกียว นิวยอร์กบาร์ของพาร์คไฮแอทโตเกียวคือจุดที่ห้ามพลาด

-โดยสารรถไฟหัวกระสุนเพื่อเปิดประสบการณ์การเดินทางความเร็วสูงในสไตล์ญี่ปุ่นขนานแท้ จองที่นั่งในชั้นแกรนคลาสของโฮคุริคุรถไฟซินคังเซ็น (shinkansen) เพื่อสัมผัสประสบการณ์ระดับเฟิร์สคลาส

-ร่วมทริปรถไฟสุดหรูไปกับรถไฟสำราญเซเว่นสตารส์อินคิวชู (จำเป็นต้องจองล่วงหน้า) หรือทไวไลต์ เอ็กซ์เพรส มิซุคาเซะที่สุดแสนจะคลาสสิก (ฝั่งตะวันตกของญี่ปุ่น) คุณสามารถยื่นคำขอร่วมเดินทางกับรถไฟสำราญเซเว่นสตารส์อินคิวชูได้จากเว็บไซต์ดังต่อไปนี้: https://www.cruisetrain-sevenstars.jp/english/application/

-ร่วมชั้นเรียนสอนทำอาหารญี่ปุ่นหรือชั้นเรียนสอนทำซูชิกับคู่รักของคุณ

-เพลิดเพลินทัวร์สายชิมเพื่อลิ้มลองอาหารญี่ปุ่นรสเด็ด ไปเยือนอาซากุสะคัปปะบาชิ หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่าเมืองครัวเพื่อหาซื้อเครื่องมือเครื่องใช้ภายในครัวสำหรับบ้านใหม่ของคุณ

-ทำความรู้จักเหล้าสาเกให้มากยิ่งขึ้นโดยการร่วมกันชิมเหล้าสาเก

-ร่วมกันใส่พลังสร้างสรรค์แบบคู่รักและทดลองประสบการณ์จริง ไม่ว่าจะเป็นการทำเครื่องเซรามิก ย้อมคราม/บาติก เป่าแก้ว หรือแกะสลัก และรังสรรค์สิ่งที่จะนำติดตัวกลับบ้านไปได้