แผนการเดินทาง เรียนรู้อดีตและปัจจุบันของฟุคุโอกะ สัมผัสวัฒนธรรมคิวชูในเมืองที่ใหญ่ที่สุดและมีชีวิตชีวาที่สุดในภูมิภาค
เที่ยวสบาย ๆ ที่ฟุคุโอกะในคิวชู โดยคุณสามารถทำกิจกรรมได้มากมายหลายอย่าง ทั้งช้อปของแบรนด์ดัง ดูการแข่งเบสบอล เยี่ยมชมศาลเจ้าเก่าแก่อายุหลายศตวรรษ และงานเทศกาลที่จัดกันมาแล้วอย่างเนิ่นนาน
ไฮไลท์
- ศาลเจ้าดะไซฟุเทมมังกู ที่การเรียนรู้และการศึกษาคือการเฉลิมฉลอง
- ทงคทสึราเม็ง ราเม็งน้ำซุปต้มกระดูกหมูแสนอร่อยคู่เมืองฟุคุโอกะ
- เรียนรู้วัฒนธรรมฮากาตะที่ศาลเจ้าคุชิดะ-จิงจะและพื้นที่โดยรอบ
วิธีการเดินทาง
Photo: Photograph(s) provided by Fukuoka City.
ศูนย์การค้าคาแนลซิตี้อยู่ห่างจากสถานีรถไฟฮากาตะและสถานีรถไฟเทนจินเป็นระยะทางเท่า ๆ กัน โดยที่นี่เป็นแหล่งช้อปปิ้งและศูนย์รวมความบันเทิงขนาดใหญ่ที่ทอดตัวอยู่ริมน้ำ ซึ่งออกแบบโดยสถาปนิกผู้ออกแบบแหล่งค้าปลีกอย่างจอน เจอร์ด เนื่องจากมีคลองยาว 180 เมตรตั้งอยู่ตรงใจกลางศูนย์การค้าแห่งนี้เพลิดเพลินไปกับการช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม หรือชมการแสดงน้ำพุที่จะจัดแสดงขึ้นทุก ๆ ครึ่งชั่วโมง
6 นาที
ศาลเจ้าคุชิดะจิงจะเป็นศาลเจ้าที่อุทิศแด่เทพเจ้าผู้ปกป้องเมืองฮากาตะ 
ที่ตั้งอยู่ในเมืองฟุคุโอกะ . ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นศูนย์รวมของเทศกาลสำคัญ เช่น เทศกาลฮากะตะกิองยามะคะซะ (วันที่1 ถึง 15 กรกฎาคม) พื้นที่นี้ยังมีชีวิตชีวาในช่วง เซ็ตสึบุน (ปลายเดือนมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์) และ ฮากะตะ ดงทะคุ (วันที่ 3-4 พฤษภาคม)
Photo (right): Photograph(s) provided by Fukuoka City
อาคารที่ตั้งอยู่หน้าศาลเจ้า คือ อาคารฮากาตะมาจิยะฟุรุซาโตกัง เป็นพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านที่จัดแสดงวัฒนธรรมดั้งเดิมของฮากาตะในยุคเมจิและยุคไทโช (ค.ศ.1868 - ค.ศ.1926) เที่ยวชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับฮากาตะ และชมการสาธิตผ้าทอมือฮากาตะโดยช่างฝีมือท้องถิ่น
สานต่อ “ความรู้” เกี่ยวกับทุกอย่างของฟุคุโอกะ และมุ่งหน้าไปยังศาลเจ้าดะไซฟุเทมมังกูที่ตั้งอยู่ชานเมืองฟุคุโอกะ ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับซุกะวะระ มิจิซะเนะ (ค.ศ.845 - ค.ศ.903) หรือ เทพเจ้าแห่งการเรียนรู้ โดยของที่ระลึกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของที่นี่ คือ เครื่องราง และเครื่องเขียน
ผจญภัยเข้าไปด้านในของศาลเจ้าเพื่อชมเสาโทริอิที่เก่าแก่ที่สุดในคิวชู อาคารหลักที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1591 และประตูสองชั้นที่แสนซับซ้อน ใช้เวลาไปกับการเดินเล่นในพื้นที่ศาลเจ้าที่แสนงดงาม ซึ่งประกอบไปด้วยสวน สระน้ำ สะพานแบบญี่ปุ่นสีแดง และศิลปะจัดแสดงต่าง ๆ หากมาเที่ยวที่นี่ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ก็จะได้ชมต้นบ๊วยกว่า 6,000 ต้นออกดอกสวยสด ส่วนช่วงฤดูฝนในเดือนมิถุนายนก็จะมีต้นไอริส 30,000 ต้นผลิดอกสีม่วงบานสะพรั่ง
เยี่ยมชมศาลเจ้าดะไซฟุเท็มมังงุ รวมถึงวัดโคเมียวเซ็นจิ ที่รู้จักกันในชื่อ "วัดมอส" ที่มาจากสวนที่สวยงาม ไปพร้อม ๆ กันในทริปเดียว สวนที่เต็มไปด้วยต้นมอสและก้อนหินเป็นจุดเด่นของศาลเจ้าแห่งนี้ เดินทางมาเที่ยวชมสถานที่แห่งนี้ในฤดูใบไม้ร่วง เพื่อชมใบไม้เปลี่ยนสี
นั่งรถไฟกลับไปในตัวเมืองฟุคุโอกะ และลงจากรถไฟที่สวนสาธารณะโอโฮะริ ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่สีเขียวที่ใหญ่ที่สุดในฟุคุโอกะ รวมถึงเป็นสถานที่ยอดนิยมของเหล่านักวิ่ง ทะเลสาบในสวนสาธารณะแห่งนี้สร้างตามทะเลสาบตะวันตกที่ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองหางโจวในประเทศจีน โดยทะเลสาบแห่งนี้ประกอบด้วยเกาะเล็ก ๆ สามเกาะที่เชื่อมต่อกันด้วยสะพานหลายแห่งและทางเดินปูไม้แคบ ๆ นอกจากนี้สวนสาธารณะแห่งนี้ยังมีสวนญี่ปุ่น โรงละครโน และพิพิธภัณฑ์ศิลปะพร้อมสรรพในที่เดียว
21 นาที
มุ่งหน้าไปยังซีไซด์โมโมจิ ที่ตั้งอยู่ริมหาด เพื่อเดินทางไปยังฟุคุโอกะทาวเวอร์และ ฟุคุโอกะเปย์เปย์โดม ฟุคุโอกะทาวเวอร์ มีความสูงถึง 234 เมตร และเป็นหอคอยริมทะเลที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น เดินทางไปยังห้องชมทิวทัศน์ (ที่ความสูง 123 เมตร) เพื่อชมทิวทัศน์รอบ ๆ ตัวคุณ ภาพทิวทัศน์แบบพาโนราม่าอันกว้างใหญ่ที่สามารถมองเห็นได้จากชั้นบนสุดของหอคอยนั้นเป็นสิ่งที่อะไรก็เทียบไม่ได้
15 นาที
Photo: (C)SoftBank HAWKS
ฟุคุโอกะเปย์เปย์โดมแห่งนี้เป็นที่ตั้งของทีมเบสบอลมืออาชีพทีมหนึ่งของญี่ปุ่น ซึ่งก็คือทีม ฟุคุโอกะ Softbank Hawks นอกจากนี้โดมแห่งนี้ยังเป็นสเตเดียมแสดงดนตรีที่ศิลปินจะมาจัดการแสดง เมื่อมีการทัวร์คอนเสิร์ตทั่วประเทศด้วย หากคุณควรเดินทางมาที่นี่นอกฤดูกาลแข่งขันเบสบอล เข้าร่วมการทัวร์เบื้องหลังสเตเดียมแบบมีไกด์นำทาง หรือไม่ก็เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เบสบอลโอซาดาฮารุในสเตเดียมที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับนักเบสบอลและผู้จัดการทีมในตำนาน
30 นาที
เดินทางกลับไปยังเขตเทนจินหรือนะกะซุ แล้วเพลิดเพลินไปกับสตรีทฟู้ดที่อร่อยที่สุดในญี่ปุ่นที่ซุ้มขายอาหารชั่วคราวในฟุคุโอกะ ซึ่งจะตั้งร้านที่ย่านต่าง ๆ ในช่วงกลางคืน ถึงแม้ก๋วยเตี๋ยวฮากาตะะราเม็ง ที่มีน้ำซุปหมูสีขาวนวลและเนื้อหมู่ย่างจะเป็นตัวหลักที่คอยดึงดูดผู้คน แต่ก็ยังมีบรรยากาศสนุกสนานที่คอยดึงดูดแขกมายังร้านอาหารขนาดเล็กเพียง 10 ที่นั่งเหล่านี้ด้วย
คุณสามารถมองเห็นทั้ง ชิคะโนะชิมะ และสวนอุมิโนะนะคะมิจิ ซีไซด์ ปาร์คได้จากพื้นที่ของซีไซด์โมโมจิ คุณสามารถเดินทางจากเกาะชิคะโนะชิมะไปยังแผ่นดินใหญ่ได้ทางถนน หรือจะขึ้นเรือเฟอร์รี่จากท่าเรือมาริซอนคอมเพล็กซ์ โดยใช้เวลาเดินทาง 20 นาทีก็ได้ เรือเฟอร์รี่จะออกจากท่าทุก ๆ หนึ่งชั่วโมงโดยประมาณ นอกจากนี้ยังมีรถไฟที่วิ่งจากฮากาตะไปยังสถานีไซโตซากิบนเกาะ ซึ่งอยู่บนเส้นทางรถไฟเจอาร์สายคะโงะชิมะและสายคาชิอิ
