แผนการเดินทาง มัตสุชิมะ อะกิอุ อนเซ็น และเซนได เยี่ยมสุดยอดจุดชมวิวติด 3 อันดับแรกของญี่ปุ่นและเมืองรีสอร์ทบ่อน้ำพุร้อนเก่าแก่

Photo: Copyright : Sendai Tourism, Convention and International Association / ©Sendai Tanabata Festival Support Association / None / None

เมื่อนั่งรถไฟชินคังเซ็นมาจากโตเกียวเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่งก็จะถึง เซนได ซึ่งเป็นประตูสู่โทโฮคุ ภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น ซึ่งรู้กันดีว่าที่นี่ห่างไกล และมีภูมิประเทศที่ขรุขระ ขุนนางศักดิ์นาดาเตะ มะสะมุเนะ (ค.ศ.1567 - ค.ศ.1636) เป็นผู้สร้างเมือง มรดกตกทอดของเขายังคงปรากฏอยู่บนซากปรักหักพังของปราสาท และอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ทั่วเมือง

ถนนอาโอบะโดริที่มีต้นเซลโคว่าเรียงรายอยู่สองฟากเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การเดินและช้อปปิ้ง สถานที่อีกแห่งที่น่าสนใจเหมือนกันก็คือ ชูโอะโดริซึ่งเป็นถนนสายช้อปปิ้งในใจกลางเมือง เทศกาลเซนไดทานาบาตะจะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 6 – 8 สิงหาคม ในเทศกาลนี้จะมีเครื่องประดับกระดาษสีสันสดใสตกแต่งอยู่ทั่วสองฝั่งของถนนชูโอะโดริ

ขณะที่เดินทางจากเซ็นได ไปยังท่าเรือชิโอะกามะ ขอแนะนำให้แวะเที่ยวศาลเจ้าชิโอะกามะจิงจะที่รายล้อมไปด้วยต้นซากุระ ที่นี่มีบันไดกว่า 202 ขั้นที่จะพาคุณไปถึงด้านบนสุด ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ คุณจะได้ชมดาบ เกราะ และหมวกเหล็กที่นำมาจัดแสดงไว้ รวมถึงมีการแสดงข้อมูลเกี่ยวกับการทำเกลือเอาไว้ด้วย หาอะไรทานที่ร้านอาหารและแหล่งอาหารทะเลหลากหลายแห่งที่ท่าเรือมารีน เกท ชิโอะกามะ

ในเขตอ่าวมัตสุชิมะมีเส้นทางเดินเรือท่องเที่ยวหลายเส้นคอยให้บริการ โดยแต่ละเส้นใช้เวลาตั้งแต่ 25 ถึง 70 นาที เรือบาโชครูซเป็นตัวเลือกยอดนิยม โดยเป็นการล่องเรือเที่ยวเดียวจากท่าเรือชิโอะกามะ ไปยังท่าเรือมัตสุชิมะ เรือลำนี้จะพาคุณข้ามอ่าว ผ่านเกาะชื่อดังหลายแห่ง และหินชุดสวย ๆ หลายก้อน เกาะต่าง ๆ เหล่านี้เป็นผลงานของธรรมชาติที่กัดกร่อนไปตามกาลเวลาทำให้เกิดรูปร่างและรูปแบบของเกาะที่น่าสนใจ เกาะแต่ละแห่งมีชื่อพิเศษ ๆ เป็นของตัวเอง

หลังจากล่องเรือแล้ว ก็แบ่งเวลาไปเที่ยวชมวัดโบราณที่อยู่ห่างจากท่าเรือในระยะที่เดินถึงได้ วัดโกะไดโดอยู่ห่างจากท่าเรือนำเที่ยวโดยใช้เวลาเดินข้ามสะพานไม้สีแดงมาเพียง 2 นาที นอกจากนี้โรงน้ำชาคันรันเทก็เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การชมบานเลื่อนกั้นห้องที่ประดับด้วยทองคำเปลว

วัดซุยกันจิเป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของภูมิภาค ซึ่งสร้างขึ้นโดยดาเตะ มะสะมุเนะ และได้รับการบันทึกให้เป็นสมบัติของชาติ

Photo: ©City of Sendai

สอบถามข้อมูลและเรียนรู้เกี่ยวกับ อะกิอุ ได้ที่เซนไดอะกิอุบุงกะโนะซาโตะเซ็นเตอร์ (ศูนย์บริการข้อมูลนักท่องเที่ยวอะกิอุ) น้ำตกอะกิอุโอตากิสุดอลังการจะอยู่ห่างจากศูนย์บริการข้อมูลโดยใช้เวลานั่งรถบัส 30 นาที น้ำตกแห่งนี้มีความสูง 55 เมตร กว้าง 6 เมตร โดยคุณจะสามารถมองเห็นน้ำตกได้จากชั้นหอชมทิวทัศน์ หรือจะเดินไปตามทางเดินที่อยู่ใกล้กับแอ่งน้ำตกก็ได้

หลังจากเดินเที่ยวน้ำตกแล้ว ก็เดินทางกลับไปยังศูนย์บริการข้อมูล เมื่อเดินจากที่นี่ไป 5 นาที คุณก็จะถึงช่องเขาไรไร ซึ่งมีทางเดินยาวหนึ่งกิโลเมตรที่รายล้อมไปด้วยก้อนหินขนาดยักษ์ ชมทิวทัศน์ของหุบเขาจากสะพานโนะโซะคิบาชิ

อะกิอุโคเกอิโนะซาโตะ (หมู่บ้านงานฝีมืออะกิอุ) อยู่ห่างจากช่องเขาโดยใช้เวลาเดินทาง 20 นาที ลองทำงานฝีมือของตนเอง ขณะที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ศิลปินผู้เชี่ยวชาญในท้องถิ่น ประสบการณ์ที่คุณสามารถสัมผัสได้โดยตรงมีทั้งการย้อมผ้าคราม และระบายสีตุ๊กตาโคเคชิ

ใช้เวลาของคุณในอะกิอุอนเซ็นให้คุ้มค่าด้วยการจองที่พักที่เรียวคัง (โรงแรมแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม) หรือเกสท์เฮาส์สักแห่ง

ทางตอนเหนือของเซนไดจะมีเมืองรีสอร์ทน้ำพุร้อน ฮานามากิอนเซ็น ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับผ่อนคลายในน้ำที่ช่วยบำบัดโรค และเพลิดเพลินไปกับการพักค้างแรมสุดผ่อนคลายที่หนึ่งในโรงแรมแบบญี่ปุ่นทั้งสี่แห่งในพื้นที่ นอกจากนี้ที่ยังเป็นแหล่งที่เหมาะแก่การสำรวจพื้นที่ริมชายฝั่งรอบคะมะอิชิ ซึ่งอยู่ห่างออกไปโดยใช้เวลานั่งรถไฟสองชั่วโมง ตอนนคะมะอิชิกำลังได้รับการซ่อมแซมหลังจากเกิดแผ่นดินไหวและสึนามิ เมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ.2011 และการแข่งขันรักบี้ชิงแชมป์โลก 2019 ก็จะจัดขึ้นที่สนามกีฬาอูโนะซุมะอิที่สร้างขึ้นมาใหม่ด้วย