
แผนการเดินทาง สมบัติแห่งชาติและธรรมชาติในนิกโก พบกับความรุ่งโรจน์ของตระกูลโทกุกะวะท่ามกลางทะเลสาบ ภูเขา และน้ำตกที่ชูเซ็นจิ
ชาวญี่ปุ่นมีคำพูดที่ว่า “อย่าพูดว่า “เคกโก (ดีเลิศ) จนกว่าจะได้เห็นนิกโก” เพราะนี่คือพลังของแดนสวรรค์กลางหุบเขา
ไฮไลท์
- เยี่ยมชมวัดและศาลเจ้าชื่อดังของนิกโก
- วิวทะเลสาบชูเซ็นจิจากด้านบนสุดของกระเช้าลอยฟ้าะเคะจิไดระ
- ชมหนึ่งในน้ำตกที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น
วิธีการเดินทาง
คุณสามารถเดินทางจากโตเกียวไปนิกโกได้สองวิธี โดยขึ้นรถไฟชินคังเซ็นจากสถานีโตเกียวไปสถานีอุทสึโนะมิยะ แล้วเปลี่ยนสายไปขึ้นรถไฟสายนิกโก หรือจะขึ้นรถไฟด่วนพิเศษจากสถานีอาซากุสะไปยังสถานีโทบุนิกโกก็ได้ คุณสามารถใช้บัตรนิกโกพาสกับรถไฟสายนี้ รวมถึงเครือข่ายรถบัสโทบุได้ ป้ายรถบัสจะอยู่หน้าสถานีรถไฟเจอาร์นิกโก โดยจะวิ่งไปยังแหล่งมรดกโลกนิกโก และทะเลสาบชูเซ็นจิ
Photo: ©Nikko-zan Rinno-ji Temple
ใจกลางเมืองนิกโกเป็นแหล่งรวมศาลเจ้าและวัดวาอารามที่สำคัญมากมาย หนึ่งในวัดที่สำคัญของนิกโกคือวัดนิกโกซัน รินโนจิ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก พระพุทธรูปขนาดใหญ่สององค์ จากทั้งหมดสามองค์ประดิษฐานอยู่ในห้องโถงซัน-บุตสึโดะ
5 นาที
ใกล้ ๆ เป็น ศาลเจ้านิกโกโทโชกู ที่อุทิศแดโทกุกะวะ อิเอะยะสุ ซึ่งเป็นโชกุนยุคเอโดะและหนึ่งในผู้รวมชาติญี่ปุ่น ที่นี่จะมีประตูโยเมอิมงซึ่งมีผลงานแกะสลักที่หรูหรากว่า 500 ชิ้นประดับประดาไว้อยู่และว่ากันว่าเป็นหนึ่งในประตูที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่น
คอกม้าชิงกิวชะของศาลเจ้านิกโกโทโชกูจะมีรูปแกะสลักลิงสามตัวที่โด่งดังที่กำลัง “ปิดหู ปิดตา ปิดปาก”
10 นาที
ถัดจากศาลเจ้าโทโชกูคือ ศาลเจ้าฟุทะระซัง ซึ่งโด่งดังในด้านต้นไม้ใหญ่ยักษ์ และสวนโคมไฟ พื้นที่ของศาลเจ้าครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 3,400 เฮกตาร์ รวมไปถึงสวนนานาชาติเทือกเขานิกโก
หลังจากเยี่ยมชมศาลเจ้าและวัดวาอารามที่เลื่องชื่อของเมืองนิกโกแล้ว ให้ขึ้นรถบัสไปบ่อน้ำพุร้อนชูเซ็นจิอนเซ็น รถบัสจะวิ่งขึ้นถนนคดเคี้ยวลาดชันที่เรียกว่าเนินอิโระฮะซะกะซึ่งสามารถมองเห็นภูเขาและหุบเข้าด้านล่างได้
ลงที่สถานีกระเช้าไฟฟ้าอะเคะจิไดระและขึ้นรถรางประมาณ 3 นาที สู่จุดชมวิวอะเคะจิไดระ หนึ่งในจุดชมวิวที่สวยที่สุดในนิกโก จากจุดนี้ คุณจะมองเห็นสถานที่ท่องเที่ยวดัง ๆ อย่างทะเลสาบชูเซ็นจิโคะ ภูเขา นันไต และน้ำตกเคะกงโนะทะกิ
อีกฝั่งของเนินอิโระฮะซะกะมี ทะเลสาบชูเซ็นจิ ทะเลสาบขนาดใหญ่นี้ถือกำเนิดจาก การปะทุของภูเขานันไตซึ่งเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเมืองนิกโกเมื่อ 20,000 ปีก่อน ทะเลสาบนี้อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลที่อยู่สูงที่สุดในญี่ปุ่น สถานที่แห่งนี้มีความงดงามน่าประทับใจใต้เงาภูเขานิกโกที่สูงใหญ่ ทะเลสาบนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมานานหลายทศวรรษ อีกทั้งในต้นคริสต์ทศวรรษ 1900 ก็มีคณะทูตยุโรปหลายคนมาสร้างบ้านพักตากอากาศริมฝั่งทะเลสาบนี้ด้วย ทะเลสาบนี้อาจจะมีความงดงามที่สุดในฤดูใบไม้ผลิยามเมื่อภูเขารอบ ๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน
ทางตอนเหนือของทะเลสาบจะมีบ่อน้ำพุร้อนชูเซ็นจิอนเซ็น ที่นี่จะมีน้ำตกเคะกงโนะทะกิอันเป็นน้ำตกที่โด่งดังที่สุดในเมืองนิกโกและยังเป็นหนึ่งในสามสุดยอดน้ำตกของญี่ปุ่น สำหรับจุดชมวิวน้ำตกที่ดีที่สุด ให้คุณลองลงลิฟต์ 100 เมตรไปที่ฐานน้ำตก ที่นี่ดูสง่างามมากโดยเฉพาะในฤดูหนาวเมื่อน้ำตกมีสภาพกึ่งแข็ง
สำหรับผู้ที่ต้องการค้างคืน ที่นี่ก็มีสถานที่พักให้เลือก ตั้งแต่โรงแรมอายุ 100 กว่าปีไปจนถึงเรียวคังเก่าแก่ (โรงแรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม) พลาดไม่ได้กับของขึ้นชื่อท้องถิ่น โดยเฉพาะยุบะหรือฟองเต้าหู้ ซึ่งช้อนจากนมถั่วเหลืองต้ม ฟองเต้าหู้ดีต่อสุขภาพ มีรสชาติกลมกล่อม และยังสามารถรับประทานสดหรือทานคู่กับอาหารอื่นอย่างเกี๊ยวได้
นักปีนเขาจะสนุกกับการเดินไปตามเส้นทางปีนเขาที่สวยงามในโอกูนิกโกซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาตินิกโก เส้นทางสายที่ดีที่สุดบางเส้นจะผ่านเส้นทางไม้เหนือพื้นที่ชุ่มน้ำเซนโจงะฮะระ ซึ่งมีขอบเขตกว้างขวางตั้งแต่ ทะเลสาบชูเซ็นจิ ไปจนถึงยุโมะโตะอนเซ็น
สำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนควรแวะที่ยุโมะโตะอนเซ็น เมืองเล็ก ๆ ที่มีบ่อน้ำพุร้อนมากมาย รวมถึงบ่อน้ำพุร้อนในวัดที่เปิดเป็นสาธารณะให้ผู้คนได้ใช้งาน ซึ่งถือว่าหาได้ยากในญี่ปุ่น
น้ำตกริวซึโนะทะกิได้ชื่อนี้มาจากรูปร่างน้ำตกที่ดูเหมือนหัวมังกร ฤดูใบไม้ร่วงของที่นี่เริ่มในปลายเดือนกันยายน น้ำตกยุดะกิที่มีต้นสายจากแม่น้ำยูของเมืองนิกโกนี้มีความน่าหลงใหลด้วยความกว้างของน้ำตกถึง 25 เมตร น้ำตกไหลลงหินผาจากที่สูงถึง 70 เมตร