
แผนการเดินทาง น้ำพุร้อนที่โออิตะ สร้างความสดชื่นให้ร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณในมุมแสนบริสุทธิ์ของคิวชู
โออิตะที่อยู่ในมุมอันเขียวขจีบนเกาะคิวชู มีชื่อเล่นอีกชื่อหนึ่งซึ่งเข้ากันอย่างเหมาะเจาะว่า “จังหวัดอนเซ็น” เพราะที่นี่มีน้ำพุร้อนจี๋เต็มไปด้วยแร่ธาตุผุดขึ้นมาจากบ่อทุกนาทีนับล้านแกลลอน
ไฮไลท์
- สำรวจเมืองน้ำพุร้อนยุฟุอินด้วยรถม้าลาก รถลาก หรือรถยนต์วินเทจ
- ชิมอาหารทะเลอร่อย ๆ ในท้องถิ่นที่นึ่งด้วยน้ำพุร้อนควันฉุย"
ไม่กี่ปีที่ผ่านมา [ยุฟุอิน] (/spot/707/) ได้รักษาลักษณะของเมืองไม่ให้กลายเป็นเมืองที่มีความเป็นแหล่งท่องเที่ยวมากเกินไป ซึ่งเป็นผลประโยชน์จากการวางแผนชุมชนเมืองอย่างรัดกุม ที่นี่เหมาะแก่การพักผ่อนที่น้ำพุร้อนแสนผ่อนคลาย นอกจากนี้คุณยังจะได้พบกับแกลลอรี่และเวิร์คช็อปของเหล่านักวาด ช่างปั้น และช่างงานฝีมือทั้งหลายที่ถูกวิถีชีวิตอันแสนสงบดึงดูดให้มาอยู่ที่นี่
นอกจากจะมีบ่อน้ำพุร้อนทำธรรมชาติหลายแห่ง ที่นี่ยังมีธรรมชาติแวดล้อมที่งดงามให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ปีนเขาและขี่จักรยานที่ยอดเยี่ยม ภูเขา ยุฟุที่มีความสูง 1,500 เมตร เหมาะแก่การปีนเขาเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ในเมือง รวมถึงพื้นที่รอบ ๆ ก็มีรถเทียมม้า รถลาก และตัวเลือกคมนาคมอื่น ๆ ให้เลือกใช้บริการ แล้วก็อย่าลืมเข้าชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะอีกหลายแห่งที่จะพลาดไม่ได้
15 นาที
ถึงแม้ว่า [ยุฟุอิน] (/spot/707/) จะมีแหล่งแช่น้ำให้เลือกมากมาย แต่ขอแนะนำบ่อแช่น้ำกลางแจ้งที่ซันซุอิกังและมุโซอุเอ็น ทั้งสองแห่งนี้เป็นโรงแรมที่อนุญาตให้แขกที่ไม่ได้เข้าพักใช้บริการโรงอาบน้ำได้โดยมีการคิดค่าบริการ สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการเปิดเผยเรือนร่าง ก็มีคุอาจูยุฟุอินที่อนุญาตให้แช่น้ำโดยสวมใส่ชุดว่ายน้ำเท่านั้น เมื่อคุณเดินไปรอบ ๆ เมือง ก็จะได้พบกับสปาเท้าหลายแห่งที่ใคร ๆ ก็สามารถใช้บริการได้อย่างอิสระ
คันโนะจิโกะกูอนเซ็นเป็นตัวเลือกที่ไม่เหมือนใคร โดยที่นี่เป็นโรงอาบน้ำยุคเอโดะที่น้ำพุจะถูกรักษาอุณหภูมิไว้ที่ 13 ถึง 14 องศา แต่ก็มีซาวน่าไว้ให้อบอุ่นร่างกายหลังแช่น้ำด้วยเช่นกัน
7 นาที
ยุโนะทสึโบไคโดะเป็นเส้นทางที่มีทิวทัศน์งดงาม ซึ่งเชื่อมต่อเมืองยุฟุอินเข้ากับทะเลสาบคินริงที่อยู่ในเขตชานเมือง ถนนทั้งหลายเต็มไปด้วยร้านขายงานฝีมือแปลก ๆ และซุ้มขายอาหารท้องถิ่นน่าอร่อยและผลิตภัณฑ์การเกษตรสดใหม่ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีเครื่องขายไอศกรีมแบบบริการตนเองคอยให้ความสดชื่นในช่วงฤดูร้อนด้วย
ทะเลสาบคินริงมีความพิเศษตรงที่น้ำในทะเลสาบจะผุดขึ้นมาจากบ่อน้ำพุร้อนและบ่อน้ำพุเย็นใต้พื้นผิวทะเลสาบ หากมาเที่ยวที่นี่ในช่วงเช้าตรู่หลังฝนตกขณะที่อากาศยังเย็นอยู่ คุณก็จะได้พบกับภาพทิวทัศน์อันงดงามที่ปกคลุมด้วยหมอก
ภูเขาที่มียอดเขาถึงสองยอด ซึ่งคุณสามารถมองเห็นได้จากยุฟุอิน คือ [ภูเขา ยุฟุ] (/spot/711/) บนภูเขาแห่งนี้มีทางเดินขึ้นเขาหลายทาง โดยหนึ่งในนั้น คือ เส้นทางเดินสั้น ๆ ที่ทอดจากทะเลสาบคินริง อย่างเส้นทางยุฟุอินนิชิโทซันกูอิจิ (ต้นทางขึ้นเขาฝากตะวันตก)
เบปปุตั้งอยู่ห่างจากยุฟุอินโดยใช้เวลานั่งรถบัสชั่วโมงครึ่ง โดยที่นี่เป็นเมืองรีสอร์ทที่ใหญ่กว่าและมีความเจริญมากกว่ายุฟุอิน แต่ถึงอย่างนั้นที่นี่ก็เป็นสถานที่ที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชม สิ่งแรกที่คุณจะได้เห็นเมื่อคุณมองเห็นขอบฟ้าของเบปปุเป็นครั้งแรกก็คือ ไอน้ำมากมายที่ล่องลอยขึ้นฟ้า ไอน้ำเหล่านี้ไม่ได้มาจากโรงงานอุตสาหกรรม แต่เป็นไอน้ำจากบ่อน้ำพุร้อน บ่อน้ำพุร้อนที่นี่ไม่ได้เหมาะแก่การแช่น้ำไปเสียหมด ซึ่งคุณจะได้เห็นด้วยตาของตัวเองที่สถานที่อันน่าตื่นตาตื่นใจ ที่เรียกว่าบ่อน้ำร้อนนรกแห่งเบปปุ
ลองชิมเมนูจิโกะคุมูชิ ซึ่งเป็นอาหารทะเลและผักต่าง ๆ ปรุงในซึ้งไม้ไผ่วางเหนือบ่อน้ำพุร้อน ปลาแมคเคอเรลที่จับด้วยเบ็ดเป็นจานเด็ดของที่นี่ โดยเป็นที่รู้จักในชื่อเซกิอาจิ และเซกิซาบะ
โรงแช่น้ำพุร้อนที่เป็นสถานที่ที่เราแนะนำอย่างมาก โดยมีบ่อแช่น้ำทุกแบบให้เลือกแช่ เพื่อคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ นอกจากนี้คุณยังสามารถสัมผัสประสบการณ์แช่ทรายสุดพิเศษที่โด่งดังของเบปปุได้ด้วย โดยนักท่องเที่ยวจะสวมใส่ชุดยูกาตะ แล้วถูกกลบด้วยทรายอุ่นมิดจนถึงคอ คุณจะได้เห็นรูปภาพของ “เหล่าปรมาจารย์ด้านอนเซ็น” ประดับอยู่บนผนังของที่นี่ ซึ่งจัดแสดงเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ที่ได้เยี่ยมเยือนบ่อน้ำพุในเบปปุจนครบทั้ง 88 บ่อ
16 นาที
บ่อน้ำร้อนนรกแห่งเบปปุเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจ กลุ่มบ่อน้ำพุร้อนที่พ่นน้ำร้อนอุณหภูมิกว่า 150 องศาเซลเซียสออกมา แร่ธาตุในน้ำเปลี่ยนน้ำในบ่อให้มีสีสันเหนือธรรมชาติตั้งแต่สีน้ำเงินโคบอลต์ ไปจนถึงสีแดงดุจเลือด คุณสามารถเดินไปรอบ ๆ บ่อ “นรก” แปดขุมได้ โดยแต่ละแห่งจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกแยกเป็นของตัวเอง
ภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยเนินเขาของคาบสมุทรคุนิซะกิทำให้พื้นที่นี้แยกตัวออกมาจากภูมิภาคคิวชูทั้งหมด หรือถ้าพูดตามจริงก็คือประเทศญี่ปุ่นมาตลอดยุคประวัติศาสตร์ ซึ่งทำให้ที่นี่ดึงดูดเหล่าผู้บำเพ็ญตนทางศาสนาที่มองหาสถานที่ฝึกสมาธิหรือบำเพ็ญเพียร ในขณะเดียวกัน พื้นที่แห่งนี้ก็อยู่ใกล้กับประเทศเกาหลี ทำให้เป็นแหล่งแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับทั้งทวีปเอเชีย ทุกวันนี้คุนิซะกิเป็นสถานที่ล้ำค่าที่ผู้มาเยี่ยมเยือนคิวชูมักมองข้าม แต่ก็เป็นสถานที่สำคัญในการทำความรู้จักประวัติเริ่มแรกของศาสนาพุทธในญี่ปุ่นด้วย
จอง [รถบัสนำเที่ยวคุนิซะกิ] (http://www.oitakotsu.co.jp/1day/) ล่วงหน้า
ศาลเจ้าแห่งนี้ คือ ศาลเจ้าฮะจิมัง การบูชาฮะจิมัง หรือผู้พิทักษ์หมู่เกาะญี่ปุ่นนั้นมีมาตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 8 และศาลเจ้าแห่งนี้ก็มีความสำคัญมากที่สุดในหมู่ศาลเจ้าที่สร้างถวายแด่เทพองค์นี้ ศาลเจ้าอุสะจิงกูุเริ่มต้นก่อสร้างเมื่อปีค.ศ. 741 โดยศาลเจ้าแห่งนี้แห่งนี้เป็นสถาปัตยกรรมแบบชินโตที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น และขนาดของศาลเจ้าก็ยังแสดงให้เห็นถึงการอุปถัมภ์ที่เคยได้รับด้วย คุณสามารถใช้เวลาเดินชมภายในอาณาเขตศาลเจ้าประมาณหนึ่งชั่วโมง
อาคารไม้ที่ดูสมถะ ซึ่งตั้งอยู่ในป่าอันเงียบสงบข้างฟูกิโนะโตะเรียวคังเป็นอาคารที่เก่าแก่ที่สุดในคิวชูซึ่งสร้างขึ้นเมื่อกว่า 800 ปีก่อน และยังเป็นสมบัติประจำชาติด้วย อาคารที่ดูเรียบง่ายแต่งดงามแห่งนี้จุคนได้เพียงไม่กี่คนเท่านั้น และมักจะเป็นสถานที่ที่เงียบสงบอย่างมากด้วย ใช้เวลาไปกับการชื่นชมพระพุทธรูปของพระอมิตาภพุทธะภายในอาคาร ซึ่งสร้างมาจากไม้จันทน์เทศหนึ่งต้น รวมถึงดื่มด่ำไปกับความเงียบสงบของบรรยากาศโดยรอบด้วย
มาคิโอโดะเป็นโรงเก็บของรูปแบบหนึ่ง ที่ใช้ในการเก็บรักษาพระพุทธรูปที่กู้มาจากวัดรกร้าง ชมรูปสลักมากมายที่แกะสลักไว้บนด้านข้างของหน้าผา ที่คาดว่าสร้างโดยปีศาจ รูปสลักเหล่านี้เป็นรูปสลักที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น โดยสลักเป็นรูปฟูโดะเมียวโอะ (เทพแห่งความกราดเกรี้ยว) ผู้น่าสะพรึง และไดนิจิเนียวไร (พระพุทธเจ้าแห่งจักรวาล) อันแสนสงบ แทบจะไม่มีทางเลยที่คุณจะได้เห็นหินสลักมากมายขนาดนี้นอกคุนิซะกิ
ฟูตะโกจิตั้งอยู่บนเนินเขาฟูตะโกยะมะ ซึ่งเป็นภูเขาไฟสงบและจุดที่สูงที่สุดของคาบสมุทรคุนิซะกิ ภูเขาแห่งนี้มีความเกี่ยวข้องกับนิมมง พระสงฆ์ผู้นำศาสนาพุทธเข้ามาเผยแพร่ในพื้นที่อันเป็นตำนานที่กล่าวขานในประวัติศาสตร์ คุณอาจได้เห็นคู่รักสวดมนต์ขอพรกับรูปปั้นคันนงหรือเทพธิดาแห่งความเมตตา เพื่อขอให้มีบุตร
ศาลเจ้าดะไซฟุเทมมังกูตั้งอยู่ที่ชานเมือง [ฟุคุโอกะ] (/destinations/kyushu/fukuoka/fukuoka-city/) โดยเป็นจุดที่สามารถเดินทางมาแวะเที่ยวได้ง่าย เมื่อคุณเดินทางสำรวจ [คิวชู] (/destinations/kyushu/) เพิ่มเติม ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่ตั้งของเสาโทริอิที่เก่าแก่ที่สุดในคิวชู และพื้นที่อันงดงามของศาลเจ้ายังมีสวน บ่อน้ำ สะพานสีแดง และการจัดแสดงงานศิลปะตั้งอยู่อีกด้วย ที่นี่เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับการชมดอกบ๊วยบานในเดือนกุมภาพันธ์ และดอกไอริสสีม่วงในเดือนมิถุนายน
ศาลเจ้าแห่งนี้อุทิศให้แก่เทพเจ้าแห่งการเรียนรู้ และคนจำนวนมากก็ซื้อสมุด ดินสอ และเครื่องรางนำโชคที่ขายอยู่ตรงทางเข้าศาลเจ้า ด้วยความหวังว่าจะหาความรู้ได้มากขึ้น