แผนการเดินทาง นาโกย่า ทากายามะ และคานาซาวะ ย้อนอดีตกลับไปสู่ญี่ปุ่นในยุคก่อนสมัยใหม่

เริ่มการเดินทางระดับสามดาวใน นาโกย่า หนึ่งในเมืองที่เจริญรุ่งเรืองเร็วที่สุดในญี่ปุ่น นาโกย่าอยู่บนเส้นทางรถไฟหัวกระสุน จึงสามารถเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ทั่วญี่ปุ่นได้อย่างสะดวกสบาย

สัญลักษณ์ประจำเมืองอย่าง ปราสาทนาโกย่า ก็เป็นอีกที่ที่คุณห้ามพลาด สถานีรถไฟใต้ดินที่ใกล้ที่สุด คือ สถานีชิยะคุโช ซึ่งอยู่ห่างจากสถานีนาโกย่า 12 นาที

ปราสาทนี้เป็นหนึ่งในปราสาทที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ โดยโครงสร้างของปราสาทเป็นสิ่งที่ช่วยเร่งให้เมืองขยายใหญ่ขึ้นในช่วงต้นยุคเอโดะ ภายในเขตกำแพงปราสาทมีพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงสิ่งที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของปราสาท ในฤดูใบไม้ผลิ พื้นที่โดยรอบจะเป็นจุดชมซากุระยอดนิยม

สวนที่ตั้งอยู่รอบปราสาท คือ สวนสาธารณะเมโจที่มีดอกไม้ประจำฤดูเบ่งบานเต็มไปหมด อีกทั้งยังมีการจัดแสดงดอกไม้ที่นี่เป็นประจำ

เดินเล่นในเขต อัตสึตะจิงกู อันแสนสงบและกว้างขวาง ห่างจากเมืองอันแสนวุ่นวาย เพียงนั่งรถไฟจากปราสาทนาโกย่า 30 นาทีเท่านั้น อัตสึตะจิงกูเป็นศาลเจ้าของศาสนาชินโตซึ่งถือกำเนิดขึ้นในญี่ปุ่น และได้รับการสนับสนุนจากนักรบโบราณเป็นอย่างดี

ศาลเจ้าแห่งนี้มีชื่อเสียงที่สุดจากการเป็นที่เก็บรักษาดาบคุซานางิหนึ่งในสมบัติศักดิ์สิทธิ์สามประการในตำนาน พร้อมด้วยกระจกและดาบที่ว่ากันว่าได้รับการสืบทอดต่อกันมาโดยเหล่าจักรพรรดิจากรุ่นสู่รุ่นมาเนิ่นนานหลายพันปี น่าเสียดายที่ตัวดาบไม่เปิดให้คนทั่วไปได้รับชม

ใกล้กับ ศาลเจ้าอัตสึตะจิงกู ให้ลองชิมอาหารจานเด็ดของนาโกย่าอย่างฮิทสึมะบุชิ ซึ่งจะเสิร์ฟมาในรูปแบบข้าวหน้าปลาไหลย่างในกล่องไม้ เดิมทีเมนูนี้ก็อร่อยอยู่แล้ว แต่จะใส่ต้นหอมญี่ปุ่น วาซาบิ กับสาหร่ายลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติก็ได้ เมนูนี้จะมาพร้อมชาเขียวหนึ่งกาไว้เทราดข้าวหากต้องการ

ย้อนกลับไปที่แถว ๆ สถานีนาโกย่าในช่วงเย็นเพื่อทานอาหารและสัมผัสวิถีชีวิตกลางคืน บริเวณด้านหน้า สถานีนาโกย่า เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้มาเยือนในการเลือกซื้อของขวัญ ขึ้นไปที่ชั้น 51 ของตึกทาคาชิมายะจะมีเลานจ์จำหน่ายไวน์ให้คุณได้ชมวิวยามค่ำคืนเหนือเมืองแห่งนี้ ร้านอาหารที่ตั้งอยู่ชั้นบนสุดของตึก มิดแลนด์สแควร์ ก็มีวิวสวย ๆ เช่นกัน

คุณสามารถนั่งรถไฟด่วนจากนาโกย่าไปที่เมืองเล็กแต่เสน่ห์เหลือล้นอย่างทาคายามะภายในเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง

ทาคายามะ เป็นเมืองเล็ก ๆ ในชนบทที่ตั้งอยู่ในเทือกเขา แจแปนแอลป์ ที่มีศูนย์กลางของเมืองที่เก่าแก่และเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ รถลากจะทำให้คุณได้ประสบการณ์อันน่าจดจำในการสำรวจท้องถนนที่นี่ ซึ่งมีบ้านไม้ วัด และศาลเจ้าเก่าแก่ รวมถึงร้านขายงานฝีมือตั้งอยู่เรียงราย ที่นี่มีตลาดกลางแจ้งทุกเช้าหน้าจินยะ ซึ่งเป็นตึกที่ทำการฝ่ายบริหารสมัยเอโดะที่น่าแวะชมเช่นกัน โดยตลาดนี้จะมีอาหารและสินค้าอื่น ๆ จำหน่ายมากมาย

บริเวณนี้มีน้ำพุที่ไหลมาจากภูเขา ทำให้สาเกของที่นี่มีรสชาติยอดเยี่ยมไม่เหมือนที่ใด มุ่งหน้าไปที่ฟูนาซากะชูโซ เพื่อชิมสุราพร้อมฟังบรรยายภาษาอังกฤษ

ทาคายามะ มีรถบัสที่วิ่งเป็นวงกลมซึ่งรถบัสสายนี้จะวิ่งไปเฟสตาฟอร์เรส พิพิธภัณฑ์ใต้ดินที่คุณสามารถชมขบวนแห่ที่ประดับประดาสวยงามหรือยาไตสำหรับใช้ในเทศกาล รวมถึงกลองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกและตุ๊กตาไขลานจำนวนมาก

ย่านฮิดะในทาคายามะมีสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งเรียกว่ากัสโช-สึคุริ หรือบ้านที่มีหลังคาฟางตั้งชัน ขึ้นรถบัสสายเดิมไปดูบ้านสวย ๆ เหล่านี้ได้ที่ หมู่บ้านพื้นเมืองฮิดะ

บ้านกัสโช-สึคุริที่มีชื่อเสียงที่สุดอยู่ที่ ชิราคาวะโก และ โกคายามะ ซึ่งทั้งสองที่สามารถเดินทางไปได้ด้วยรถบัสจากทาคายามะโดยใช้เวลาประมาณหนึ่งถึงหนึ่งชั่วโมงครึ่งตามลำดับ ทั้งสองแห่งเป็นที่ที่ถ่ายรูปได้สวยตลอดปี แต่ในฤดูที่มีหิมะหนามากก็จะยิ่งดูสวยเป็นพิเศษ โดยบ้านหลายแห่งจะเปลี่ยนเป็นที่พักที่ให้บรรยากาศขั้นสุดยอด

เมื่อไปถึงชิราคาวะโกแล้ว ให้มุ่งหน้าไปที่จุดชมวิวเพื่อชมวิวบ้านโบราณกว่า 117 หลังที่สวยราวกับภาพในไปรษณียบัตร บ้านทั้งหมดนี้รวมกันเป็นหมู่บ้านโอกิมาจิในหุบเขาเบื้องล่าง ในจำนวนบ้านต่าง ๆ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้เข้าชม มีบ้านวาดะที่อายุ 300 ปีอยู่ด้วย

หากนั่งรถบัสจากภูมิภาคฮิดะขึ้นเหนือไปอีกประมาณ 2 ชั่วโมง 15 นาทีก็จะไปถึง คานาซาวะ เมืองที่สามารถเดินไปชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย รวมถึงย่านเกอิชา และเรียนรู้วัฒนธรรมของช่างฝีมือชั้นยอดได้อย่างสบาย

ไฮไลท์ในการเที่ยวชมคานาซาวะ คือ สวนเคนโระคุเอ็น สมัยศตวรรษที่ 17 ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสวนที่ติดสามอันดับแรกของประเทศ คุณสามารถเดินเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ในช่วงเดือนพฤษภาคมจะมีความพิเศษตรงที่ดอกไอริสจะบาน และในเดือนที่อากาศหนาวเย็น คุณก็จะได้เห็นยูกิสึริที่ทำขึ้นอย่างประณีต ซึ่งยูกิสึริเป็นไม้ไผ่ที่ใช้รองรับต้นสนไม่ให้ได้รับความเสียหายเมื่อหิมะตกหนัก

ระหว่างที่เดินไปที่สวน คุณน่าจะได้เดินตัดผ่านพื้นที่ของ ปราสาทคานาซาวะ ที่สร้างขึ้นใหม่ ซึ่งขนาดอันใหญ่โตของปราสาทคงบอกใบ้ให้คุณได้รู้ว่าที่นี่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นมากเพียงใด ที่นี่เป็นจุดชมดอกซากุระยอดนิยมในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเมษายน

ให้เวลากับการสำรวจย่านเมืองเก่า รวมถึงบ้านพักซามูไรที่ นะงะมะจิ ฮิงาชิ ชายะ และนิชิชายะ

ชายะ ซึ่งแปลว่า “โรงน้ำชา” เป็นสถานที่พิเศษที่มีการจัดแสดงของเกอิชาและการทานอาหารระดับหรู ฮิกาชิชายะไกไคคะโร เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมการแสดงในช่วงกลางวัน แต่การแสดงช่วงค่ำต้องจองล่วงหน้า

คานาซาวะมีมรดกทางด้านศิลปะที่โดดเด่น และมันคงจะเป็นการยากเกินไป หากจะกลับไปแบบมือเปล่าไม่มีของไว้ระลึกถึงการมาพักที่นี่ เมืองนี้ถือเป็นผู้ผลิตแผ่นทองคำเปลวรายใหญ่ จึงมีการนำไปใช้กับทุกอย่างตั้งแต่เครื่องเขินไปจนถึงเค้กฟองน้ำคัสเตลลาและครีมบำรุงผิว เซรามิกสไตล์ท้องถิ่นที่เรียกว่าเครื่องคุทะนิ ทำขึ้นด้วยความประณีตแต่ก็เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน

ทางตอนเหนือของคานาซาวะเป็นที่ตั้งของ คาบสมุทรโนโตะ ที่ขรุขระ เมืองเก่าของวาจิมะที่มีชื่อเสียงในด้านเครื่องเขินชั้นดีที่สุดในประเทศ และตลาดเช้าที่คึกคัก นาข้าวขั้นบันไดเซนไมดะ ในย่านนี้ก็ทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจเช่นกัน หากเดินทางด้วยรถบัสจากคานาซาวะจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง