HOME Back

Use the

Planning a Trip to Japan?

Share your travel photos with us by hashtagging your images with #visitjapanjp

วัดที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกโดยมีประวัติศาสตร์และประเพณีที่ยาวนานกว่า 1,200 ปี

วัดเอ็นริอะคุจิ ณ ภูเขาฮิเอ ตั้งอยู่บนภูเขาฮิเอ ซึ่งเป็นชื่อเรียกโดยทั่วไปของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ตั้งอยู่ระหว่างเส้นแบ่งเขตของจังหวัดชิงะและจังหวัดเกียวโต โดยวัดแห่งนี้สร้างขึ้นที่ไหล่เขาของยอดเขาหลักโอบิเอ ที่ความสูง 848 เมตรจากระดับน้ำทะเล โดยทำหน้าที่เป็นวัดผู้นำของศาสนาพุทธนิกายเท็นได (เท็นได-ชู) ในญี่ปุ่น และวัดแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1994

พลาดไม่ได้

  • สักการะ ฟุเมทสึ-โนะ-โฮโต (ไฟอมตะของพระพุทธศาสนา) ได้ที่คมปง ชู-โด ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นดวงไฟที่ต่อเนื่องมายาวนานกว่า 1,200 ปี โดยมีการเติมน้ำมันทุกๆวัน
  • ฟังเสียงที่แสนไพเราะของซุยคินคุทสึที่ตั้งอยู่ก่อนถึงอะมิดะ-โด
  • ดื่มด่ำกับทิวทัศน์จากภูเขาที่มองเห็นทะเลสาบบิวะและเมืองเกียวโต

วิธีการเดินทาง

กรณีที่เดินทางจากโตเกียว โอซากา หรือนาโกย่า สามารถใช้รถไฟชินกังเซ็นไปยังสถานีเกียวโต ต่อจากนั้นนั่งรถบัสสายฮิเอซังไปยังศูนย์รถบัสเอ็นริอะคุจิ โดยใช้เวลาประมาณ 70 นาที และจะไม่มีการเดินรถตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมจนถึงปลายเดือนมีนาคม

นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นรถไฟจากสถานีเจอาร์เกียวโตไปยังตีนภูเขาฮิเอ และขึ้นเคเบิ้ลคาร์หรือรถกระเช้าไปยังวัดเอ็นริอะคุจิ

รถชัตเตอร์บัสฮิเอซังให้บริการวิ่งไปยังโท-โด ไซ-โต และบริเวณโยกาวะ แต่จะหยุดให้บริการตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมจนถึงปลายเดือนมีนาคม

เกร็ดน่าสนใจ

วัดได้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 788

วัดเอ็นริอะคุจิ ณ ภูเขาฮิเอ เป็นชื่อเรียกโดยรวมของอาคารกว่า 100 แห่งโดยรอบพื้นที่บริเวณวัด

วัดเป็นที่เก็บรักษาสมบัติของชาติ 10 รายการและสมบัติทางวัฒนธรรมสำคัญของญี่ปุ่นกว่า 50 ชิ้น

วัดเอ็นริอะคุจิ ณ ภูเขาฮิเอ ตั้งอยู่ภายในภูเขาที่ยิ่งใหญ่

วัดเอ็นริอะคุจิ ณ ภูเขาฮิเอ สร้างขึ้นในปีค.ศ. 788 โดยไซโจ พระสงฆ์ที่เกิดบริเวณริมฝั่งทะเลสาบบิวะและบวชเป็นพระสงฆ์ที่มีความสามารถตั้งแต่อายุยังน้อย ต่อมาภายหลังไซโจได้ก่อตั้งนิกายทางพุทธศาสนาเรียกว่าเท็นได-ชู และเปลี่ยนพื้นที่ทั้งหมดของภูเขาให้กลายเป็นสถานที่ฝึกตนขนาดใหญ่ของพระสงฆ์ และในที่สุดได้กลายเป็นรากฐานสำคัญของพระพุทธศาสนาในญี่ปุ่นโดยมีพระสงฆ์จำนวนมากได้รับการฝึกปฏิบัติจากที่นี่ โดยวิถีการปฏิบัติต่างๆยังคงดำรงอยู่จนถึงปัจจุบัน ด้วยประวัติศาสตร์และประเพณีอันยาวนานกว่า 1,200 ปี ทำให้วัดเอ็นริอะคุจิได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น พื้นที่มรดกโลกขององค์การยูเนสโก ในปี ค.ศ. 1994

บริเวณวัดสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 บริเวณ

วัดเอ็นริอะคุจิประกอบไปด้วยอาคารมากกว่า 100 แห่งกระจายตัวอยู่ทั่วภูเขาฮิเอในพื้นที่กว่า 1,700 เฮกเตอร์ โดยภูเขาแห่งนี้สามารถแบ่งออกเป็น 3 บริเวณ ได้แก่ โท-โด ไซ-โต และโยกาวะ โดยแต่ละบริเวณจะมีวิหารหลักของตนเอง

โท-โด บริเวณโดยรอบคมปง ชู-โด

พื้นที่ศูนย์กลางของวัดเอ็นริอะคุจิตั้งอยู่โดยรอบคมปง ชู-โด ในบริเวณโท-โด ซึ่งถือเป็นจุดกำเนิดของวัดแห่งนี้ และได้ขยายบริเวณออกไปอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเกิดไฟไหม้หลายครั้ง โดยเริ่มจากการเผาภูเขาฮิเอโดยโอดะ โนบุนากะในปี ค.ศ. 1571 แต่การบูรณะวัดในแต่ละครั้งได้ทำการบูรณะให้ยิ่งใหญ่กว่าเก่า

พระพุทธรูปยากุชิ เนียวไร ซึ่งหมายถึงพระไภษัชยคุรุ ซึ่งกล่าวไว้ว่าสร้างโดยไซโจ ประดิษฐานอยู่ที่วิหารหลักของวัด โดยประทับอยู่ท่ามกลางสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ รวมถึงเมทสึ-โนะ-โฮโต (ไฟอมตะของพระพุทธศาสนา)

เดินเพียง 5 นาทีจากคมปง ชูโด จะพบกับอะมิดะ-โด อาคารสวยงามที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1937 โดยนักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินไปกับเสียงอันเงียบสงบของซุยคินคุทสึซึ่งเป็นเสียงหยดน้ำตกลงสู่โอ่งใต้ดิน

การประชุมสุดยอดทางศาสนาที่ภูเขาฮิเอซึ่งจัดขึ้นทุกปี ณ วัดเอ็นริอะคุจิตั้งแต่ปี ค.ศ. 1987 เพื่อภาวนาให้โลกสงบสุขสำหรับทุกๆศาสนาและนิกายต่างๆ เพื่อเป็นการรำลึกถึงการประชุมสุดยอดครั้งแรก ได้มีการสร้างอนุสาวรีย์ในบริเวณโท-โดซึ่งได้รับมอบหมายจากเท็นได-ซะซุ (หัวหน้าพระสงฆ์ของนิกายเท็นได) และสมเด็จพระสันตะปาปา โดยมีการสลักชื่อของผู้เข้าร่วมจากศาสนาต่างๆ เช่นศาสนาคริสต์ อิสลาม ยิว ฮินดู และขงจื้อ

ไซ-โต อยู่ห่างจากโท-โด 1 กิโลเมตร

Sai-to, 1kilometers away from To-do

บริเวณไซ-โตถูกสร้างขึ้นโดยเอ็นโจ ซึ่งเป็นเท็นได-ซะซุคนต่อไปต่อจากไซโจ โดยมีวิหารนิไน-โดซึ่งมีทางเดินเชื่อมต่อวิหารโจเงียว-โดและฮกเกะ-โด และเป็นบริเวณสำหรับฝึกปฏิบัติอย่างเข้มงวดมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีวิหารซากะ-โดซึ่งเป็นวิหารหลักของบริเวณไซ-โต ซึ่งต้องเดินผ่านใต้ทางเดินวิหารนิไน-โดไปตามขั้นบันไดหินที่ทอดยาว

โยกาวะ อยู่ห่างจากไซ-โต 5 กิโลเมตร

โยกาวะก่อตั้งขึ้นโดยเท็นได-ซะซุคนที่สามได้แก่ เอ็นนินแห่งวัดเอ็นริอะคุจิ โดยมีวิหารหลักได้แก่ โยกาวะ ชู-โด ซึ่งมีโครงสร้างคล้ายเวทีที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเรือของราชฑูตญี่ปุ่นที่ใช้เดินทางไปประเทศจีนในสมัยราชวงศ์ถัง และในฤดูใบไม้ร่วงวิหารแห่งนี้จะปกคลุมไปด้วยต้นเมเปิลสีแดงเข้มทำให้ทัศนีย์ภาพสวยงามและน่าทึ่ง

ทัศนีย์ภาพที่สวยงาม

ต้องขอบคุณตำแหน่งที่ตั้งที่อยู่สูงของภูเขาระหว่างจังหวัดชิงะและเกียวโตซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวสามารถชมทัศนียภาพที่สวยงามของฤดูใบไม้ร่วงและทะเลสาบบิวะที่ทอดยาวลงไปเบื้องล่างได้จากถนนที่คดเคี้ยวของฮิเอซัง ไดร์ฟเวย์ หรือรถเคเบิ้ลซากาโมโตะ นักท่องเที่ยวยังสามารถชมทิวทัศน์ในขณะที่พักดื่มน้ำชาอุ่นๆได้ที่จุดพักผ่อน ณ ชั้นที่หนึ่งของเอ็นริอะคุจิ ไคคัง ตั้งอยู่ภายในกลุ่มอาคารของบริเวณโท-โด นอกจากนี้ยังสามารถพักค้างแรมได้ที่เอ็นริอะคุจิ ไคคังแห่งนี้โดยมีห้องพักและห้องอาบน้ำสาธารณะให้บริการพร้อมกับทิวทัศน์ที่สวยงามโดยรอบ

เดินจากวัดเอ็นริอะคุจิเพียงเล็กน้อย

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการยืดเส้นยืดสาย วัดมิอิเดระ และ วัดอิชิยามะเดระ เป็นวัดขนาดใหญ่อีกสองแห่งในจังหวัดชิงะที่อยู่ไม่ไกลจากวัดเอ็นริอะคุจิ หรือ บิวะโกะ วัลเลย์ ซึ่งเป็นรีสอร์ทคอมเพล็กซ์ที่มีชื่อเสียง และนักท่องเที่ยวสามารถชมทัศนียภาพที่สวยงามของ ทะเลสาบบิวะ และแช่น้ำพุร้อนที่โอโกโตะ อนเซ็น รวมถึงชมงานสะสมที่ พิพิธภัณฑ์มิโฮะ .

คำแนะนำสำหรับคุณ

Lake Biwa
ชิงะ
Otsu
โอทสึ

Please Choose Your Language

Browse the JNTO site in one of multiple languages