โคมไฟหินที่อุทิศแด่วิญญาณขุนนางตระกูลโมริที่เคยปกครองพื้นที่
ผ่านประตูสีแดงชาดและเดินไปบนเส้นทางจนถึงวัดโอะบะกูอันเป็นวัดพุทธศาสนานิกายเซ็น สังเกตองค์ประกอบสถาปัตยกรรมแบบจีน คฤหาสน์ด้านในและอาคารไม้ขนาดใหญ่ที่ล้อมรอบนั้นทำให้เกิดบรรยากาศที่เงียบสงบ แต่ความงามที่แท้จริงนั้นอยู่เบื้องหลังอาคารหลัก
วิธีการเดินทาง
คุณสามารถเดินทางไปวัดโดยขึ้นรถไฟไปต่อรถบัส
แวะศาลเจ้าโชอิน ที่อยู่ใกล้ ๆ เพื่อไม่ให้เสียเที่ยว
วัดโทโคจิตั้งอยู่บนเนินชันเหนือศาลเจ้าโชอิน หากเริ่มเดินทางจากสถานีขนส่งฮะงิ ให้ขึ้นรถบัสมะรุ (เส้นทางตะวันออก) ลงที่ป้ายโทโคจิมะเอะ หากคุณมั่นใจในกำลังขาของตัวเอง ให้เดินเท้าประมาณครึ่งชั่วโมงหรือขี่จักรยาน 10 ถึง 15 นาทีจากสถานีขนส่งฮะงิหรือสถานีฮิกาชิฮางิของรถไฟสายเจอาร์ซันอินไปวัดโทโคจิ

สถานที่ฝังร่างขุนนางรุ่นต่าง ๆ ที่ปกครองพื้นที่
โคมไฟหินที่ตะไคร่น้ำขึ้นท่ามกลางสุสานขนาดใหญ่เหล่านี้มีจุดประสงค์เพื่อแสดงความเคารพต่อตระกูลโมริ วัดโทโคจิที่ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1691 โดยขุนนางรุ่นที่สามชื่อโมริ โยะชินะรินั้นเป็นสถานที่สถิตของวิญญาณผู้ก่อตั้งและขุนนางลำดับเลขคี่หลังจากรุ่นนั้นเป็นต้นมาจนถึงรุ่นที่ 11 ขุนนางที่หนึ่ง สอง และเลขคู่จนถึงขุนนางที่สิบสองนั้นจะสถิตอยู่ที่วัดไดโชอินซึ่งเป็นวัดใหญ่ที่สามารถมองเห็นเมืองฮะงิจากฝั่งตะวันตก

ประตูซันมอนที่สูงใหญ่ของวัดโทโคจิ
เทศกาลโอะบงที่วัดโทโคจิและวัดไดโชอิน
เทศกาลโอะบงจะจัดขึ้นในเดือนสิงหาคมของทุกปี โคมไฟหินที่วัดไดโชอินจะจุดขึ้นในวันที่ 13 สิงหาคมซึ่งเป็นสัญญาณเริ่มต้นเทศกาลโอะบงเพื่อต้อนรับวิญญาณผู้ที่ล่วงลับให้กลับมายังโลกคนเป็น ในวันที่ 15 สิงหาคม โคมไฟหินกว่า 500 ดวงที่วัดโทโคจิจะส่องแสงสว่างไสวเพื่อนำทางวิญญาณกลับสู่โลกคนตาย


โคมไฟที่วัดไดโชอินนั้นดูวูบวาบสวยงามมาก แต่โคมไฟที่ส่องแสงสว่างอย่างอ่อนโยน ณ สุสานในวัดโทโคจินั้นทำให้เกิดบรรยากาศที่ตื้นตันและน่าแปลกใจ นักท่องเที่ยวมักไม่ค่อยไปเยือนที่จุดนั้นกัน งานอีเวนต์ที่มีเสน่ห์นี้ช่วยทำให้สถานที่โบราณแห่งนี้มีชีวิตขึ้นมา