ภูเขาชิงิให้คุณชมวิวได้รอบทิศพร้อมทั้งมีสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่แปลกตา
การมาเที่ยวชมภูเขาชิงิทำให้คุณมีโอกาสทำกิจกรรมที่แตกต่างออกไป ลองจองที่พักในวัด แล้วเพลิดเพลินกับความเงียบสงบบนเขา
พลาดไม่ได้
- น้ำพุร้อนที่ให้คุณได้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่
- เสือตัวยักษ์ที่วัดโชโกซอนชิจิ
- ม้วนภาพวาดสวยงามซึ่งเป็นสมบัติประจำชาติที่จัดแสดงให้ผู้คนทั่วไปได้ชมในช่วงฤดูใบไม้ร่วง
วิธีการเดินทาง
สามารถเดินทางมายังภูเขาชิงิได้ด้วยรถไฟ แล้วต่อรถบัส
นั่งสายเจอาร์ยะมะโตะจิจากสถานีเทนโนจิ มายังสถานีโอจิ
จากสถานีโอจิ ให้นั่งรถบัสนาราคตสึมายังภูเขาชิงิ การเดินทางใช้เวลา 20 นาที
สัมผัสประสบการณ์แบบไม่ปรุงแต่ง
หากต้องการสัมผัสประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น ก็อย่าลืมเข้าพักแรมที่วัดสักแห่งในแถบภูเขาชิงิ เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการสัมผัสกับภูเขาชิงิในแบบเดียวกับที่พระสงฆ์หลายต่อหลายรุ่นเคยได้สัมผัส
เสือมงคล
ตำนานเล่าว่า ในคริสตศตวรรษที่ 7 เจ้าชายโชโตะกุได้สวดมนต์ขอพรให้รบชนะฝ่ายนักรบนามโมะโนะโนะเบะ โมะริยะ ระหว่างที่อธิษฐานอยู่นั้น “บิชชามอนเท็น” หรือท้าวเวสสุวรรณ พระยายักษ์ผู้เป็นเจ้าแห่งการยุทธ์ ได้มาปรากฏองค์เหนือพระเศียรของเจ้าชาย แล้วกระซิบบอกยุทธวิธีลับที่จะทำให้การรบประสบผลสำเร็จ
เจ้าชายสังเกตได้ว่าการปรากฏองค์ของบิชามอนเท็นนั้นตรงกับชั่วโมงของเสือ ในวันของเสือ ในปีขาล
หลังจากรบชนะ เจ้าชายได้ออกคำสั่งให้มีการสักการะบูชาบิชามอนเท็นในพื้นที่แถบนี้ในฐานะที่เป็นเทพเจ้าแห่งความสุขสวัสดี และให้มีสัญลักษณ์เป็นเสือ ทั้งเสือตัวยักษ์ที่พบเห็นตรงทางเข้าวัดโชโกซอนชิจิและภาพแสดงเสืออื่นๆ ทั้งหมดทั่วเขตวัดนั้นมีที่มาจากคำสั่งดังกล่าว