HOME Back

Use the

Planning a Trip to Japan?

Share your travel photos with us by hashtagging your images with #visitjapanjp

วัดพุทธบนภูเขาที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น

การเดินทางไปยังภูเขามิโนบุที่มีอากาศบริสุทธิ์และทิวทัศน์อันกว้างขวาง ช่วยชำระจิตใจให้รู้สึกสดใสแจ่มใส สาวกของศาสนาพุทธนิกายนิจิเร็น อันเป็นนิกายย่อยของศาสนาพุทธนิกายมหายานที่ก่อตั้งโดยนิจิเร็น (พ.ศ. 1765 - พ.ศ. 1825) ได้เดินทางจาริกแสวงบุญไปยังภูเขามิโนบุ เพื่อมุ่งหน้าไปยังวัดมิโนบุซัง คุอนจิที่ก่อตั้งขึ้นในพ.ศ. 1817 ซึ่งเป็นวัดหลักของภูเขาลูกนี้

พลาดไม่ได้

  • วัดมิโนบุซัง คุอนจิที่สร้างขึ้นในพ.ศ. 1817 อันเป็นสถานที่ฝังร่างของพระสงฆ์ในศาสนาพุทธที่มีชื่อว่านิจิเร็น (พ.ศ. 1765 - พ.ศ. 1825)
  • หลังคาของอารามหลักในวัดมิโนบุซัง คุอนจิ ที่ตกแต่งด้วยภาพวาดมังกรห้าเล็บแบบญี่ปุ่นอันน่าประทับใจ
  • เทศกาลโอเอชิกิที่จัดขึ้นในสัปดาห์ที่สองของเดือนตุลาคม เทศกาลนี้แสดงถึงการเดินทางผ่านมาของนิจิเร็นด้วยเกี้ยวประดับไฟ และเสามาโทอิที่มีริ้วหนังประดับอยู่ตรงขอบ

วิธีการเดินทาง

สามารถเดินทางจากชิซุโอกะ และชินจูกุ ไปยังภูเขามิโนบุได้อย่างง่ายดายด้วยรถไฟ

ขึ้นรถไฟเจอาร์โทไคโดชินคันเซนไปยังสถานีชิซุโอกะ แล้วเปลี่ยนสายไปขึ้นรถไฟเจอาร์สายหลักโทไกโด เพื่อเดินทางไปยังสถานีฟูจิ จากนั้นก็ขึ้นรถไฟเจอาร์สายมิโนบุที่วิ่งขึ้นทางเหนือไปยังสถานีมิโนบุ

คุณสามารถขึ้นรถไฟด่วนไปยังสถานีโคฟุได้ที่สถานีชินจูกุ จากนั้นก็เปลี่ยนสายไปขึ้นรถไฟสายมิโนบุ เพื่อเดินทางไปยังสถานีเจอาร์มิโนบุ (ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง)

ขึ้นรถแท็กซี่หรือรถบัสจากสถานีรถไฟไปยังวัดมิโนบุซัง คุอนจิ ค่าแท็กซี่ประมาณ 2,000 เยน แต่ค่าโดยสารรถบัสจะอยู่ที่ 280 เยนเท่านั้น

บันไดสู่การรู้แจ้ง

หนึ่งในสิ่งที่น่าประทับใจที่สุดของภูเขามิโนบุก็คือบันไดหินสู่ความรู้แจ้ง 287 ขั้นที่เรียกว่าโบไดเท คุณจะต้องมีร่างกายที่แข็งแรง จึงจะเดินขึ้นบันไดนี้ได้โดยไม่หยุดพัก เมื่อมาสุดทาง คุณจะได้พบความรู้แจ้ง หรือไม่ก็ทิวทัศน์อันน่าประทับใจของเจดีย์สีแดงห้าชั้นในวัดมิโนบูคูอนจิ

 

 

ดอกไม้บานแสนสวย และเทศกาลที่หมุนเวียนไป

ทุกปีจะมีคนเกือบ 1.5 ล้านคนแวะมาเยี่ยมเยือนภูเขามิโนบุ โดยคนส่วนมากจะมาที่นี่ในช่วงฤดูซากุระบาน ซึ่งตรงกับช่วงกลางเดือนเมษายน เพื่อดูต้นซากุระอายุ 400 ปีที่แสนสวยและสูงใหญ่ซึ่งตั้งอยู่หน้าอารามหลัก

ในช่วงต้นเดือนตุลาคม คุณจะได้เข้าร่วมเทศกาลโอเอชิกิที่มีการแสดงหมุนเสามาโทอิอย่างบ้าคลั่ง (เสามาโทอิคือเสายาว ๆ ที่มีเส้นหนังติดอยู่บนยอดเสา) สาวกของศาสนาพุทธนิกายนิจิเร็นจะเต้นอยู่ท่ามกลางร้านรวงต่าง ๆ ในเมือง จนกระทั่งมาถึงวัดคูอนจิ

 

 

ปีนขึ้นยอดเขา

ถึงแม้ว่าคุณจะสามารถขึ้นภูเขาสูง 1,153 เมตรได้ด้วยการนั่งกระเช้าไฟฟ้า แต่การเดินขึ้นเขาผ่านป่าสนซีดาร์เป็นระยะเวลา 2.5 ชั่วโมงก็คุ้มค่านัก ตลอดทางคุณจะได้เห็นสุสานโบราณและวัดเล็ก ๆ จำนวนมาก ในการเดินขึ้นยอดเขา ให้ใช้เส้นทางเดินแคบ ๆ ที่อยู่หลังวัดคูอนจิ สุสานแห่งแรกที่คุณจะได้พบก็คือสุสานของกัปตันเรือชาวอังกฤษที่เข้านิกายนิจิเร็นในช่วงปลายศตวรรษที่ 19

ขึ้นไปถึงยอดเขา

คุณจะได้เห็นภูเขาไฟฟูจิตั้งตระหง่านอยู่หลังแนวเทือกเขา และทิวทัศน์อันงดงามของแม่น้ำฟูจิที่ไหลลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิก โดยทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ นอกจากนี้บนยอดเขายังมีบริเวณสำหรับพักและสำรวจทิวทัศน์ที่กว้างขวางด้วย

วัดต่าง ๆ ที่มีขนาดย่อมลงมา

บนทางขึ้นเขาจะมีวัดขนาดเล็ก ๆ ที่ควรค่าแก่การแวะชมตั้งอยู่มากมาย วัดแห่งแรกที่คุณจะได้พบนั้นเป็นที่รู้จักในชื่อวัดผลทับทิม วัดแห่งนี้มีแผ่นไม้สลักเพื่ออธิษฐานให้เด็ก ๆ มีสุขภาพแข็งแรง (ในประเทศญี่ปุ่นถือว่าผลทับทิมเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์) วัดแห่งที่สองที่คุณเดินไปถึงจะเต็มไปด้วยพระพุทธรูปสีทององค์เล็ก ๆ นับพันองค์ ในฤดูใบไม้ผลิ ดอกซากุระจะปกคลุมไปทั่วทางเดิน ส่วนในช่วงต้นฤดูร้อน ดอกไฮเดรนเยียจะประดับประดาทั่วบริเวณวัดด้วยสีฟ้าสดใส

พบกับผู้แสวงบุญ

หากคุณโชคดี ก็จะได้พบกับผู้แสวงบุญตัวจริงที่สวมชุดสีขาว เมื่อเหล่าผู้แสวงบุญเดินขึ้นและลงภูเขา ก็จะกล่าวคำว่า “นัมเมียวโฮเร็นเงะเคียว” ไปด้วย ซึ่งเป็นมนตร์ที่ท่องเพื่อให้บรรลุธรรม

คำแนะนำสำหรับคุณ

Minobu-san Kuonji Temple
วัดมิโนบูซังคูอนจิ
Dazaifu Tenman-gu Shrine
ศาลเจ้าดะไซฟุเทมมังกู

Please Choose Your Language

Browse the JNTO site in one of multiple languages