แหล่งความบันเทิงยามค่ำคืนชั้นเลิศและที่พักของเหล่าคนสำคัญแห่งโตเกียว
อาคาซาคะตั้งอยู่ระหว่างนากาตะโจที่เป็นเขตศูนย์กลางของรัฐบาลญี่ปุ่นกับถนนรปปงงิที่รวบรวมแหล่งความบันเทิงยามค่ำคืนและหอศิลป์เอาไว้มากมาย ดังนั้นจึงเป็นย่านที่ทั้งเรียบง่ายและหรูหราในเวลาเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมชั้นเฟิร์สคลาส ภัตตาคารระดับดาวมิชลิน หรือสถานเอกอัครราชทูตต่าง ๆ ล้วนแต่ขับให้ย่านนี้มีกลิ่นอายความเป็นสากล
นอกจากนี้อาคาซาคะยังเป็นที่ตั้งศาลเจ้าที่ได้รับความเคารพมากที่สุดส่วนหนึ่งในโตเกียว รวมทั้งพระราชวังอาคาซาคะ สุดโออ่า ดังนั้นคุณจึงไม่ควรพลาดโอกาสมาเยี่ยมเยือน
พลาดไม่ได้
- ศาลเจ้าฮิเอะจิงจะ ที่เป็นสถานที่สำหรับจัดเทศกาลซันโน
- พระราชวังอาคาซาคะอันทรงเกียรติซึ่งเป็นที่พักสำหรับเหล่าผู้นำโลกที่มาเยือนญี่ปุ่น
- การเดินสำรวจถนนสายรองของอากาซากะทำให้ได้พบบาร์และร้านอาหารชั้นยอด
เกร็ดน่าสนใจ
อาคาซาคะเป็นที่ตั้งของสถานเอกอัครราชทูตหลายแห่ง อันได้แก่กัมพูชา แคนาดา เม็กซิโก ซานมารีโน สเปน ซีเรีย และสหรัฐอเมริกา
ARK Hills ที่เป็นทั้งสำนักงาน โรงแรม ศูนย์การค้าปลีก และอาคารที่พักชื่อดังเปิดให้บริการในปีค.ศ. 1986 และมีอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดที่ปรากฏในชื่อ ARK (อาคาซาคะ รปปงงิ และคะซุมิกะเสะกิ)
วิธีการเดินทาง
คุณสามารถใช้บริการรถไฟของโตเกียวหลากหลายสายเพื่อไปเยือนย่านอาคาซาคะ
สถานีอาคาซาคะตั้งอยู่บนสายจิโยดะ อีกทั้งสถานที่น่าสนใจหลัก ๆ ของอากาซากะยังมีระยะห่างไม่ไกลไปจากสถานีนี้ คุณจึงเดินเท้าไปได้ ในกรณีที่คุณเดินทางมาจากสถานีชินจูกุ ให้ขึ้นรถไฟสายมารุโนะอุจิไปยังสถานีคกไคกิจิโดมาเอะ แล้วค่อยเปลี่ยนไปใช้บริการสายจิโยดะเพื่อมุ่งสู่อาคาซาคะ
สถานที่ท่องเที่ยวร่วมสมัยและของอร่อยจากถนนสายรอง
นอกจากจะเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับนักท่องเที่ยวแล้ว ย่านนี้ยังเป็นศูนย์กลางของอำนาจและธุรกิจอีกด้วย เนื่องจากเป็นที่ตั้งของตึกทำเนียบนายกรัฐมนตรี ศูนย์กระจายเสียง TBS (ชื่อเล่นว่าหมวกยักษ์) และ ตึกอาคาซาคะ ซาคัส
อาคาซาคะซาคัสเปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสภาพความวิจิตรในช่วงฤดูดอกซากุระบานที่ต้นซากุระ 11 สายพันธุ์จำนวนราว ๆ 100 ต้นจะออกดอก ทำให้พื้นที่รอบอาคารแห่งนี้เหมาะลงตัวสำหรับการเดินทอดน่อง
ทิ้งท้ายวันอย่างงดงามด้วยการสำรวจถนนหินเส้นย่อยของย่านนี้เพื่อลิ้มรสอาหารแบบฉบับโตเกียวขนานแท้

ศาลเจ้าเก่าแก่และพื้นที่แวดล้อมสุดโอ่อ่าหรูหรา
ใกล้กับศาลเจ้าอาคาซาคะ โทโยคาวะ อินาริ เบทสีอิน, ศาลเจ้าฮิเอะจิงจะ และวัดโซโจจิ ในละแวกใกล้เคียง ต่างมีศิลปวัตถุโบราณให้ชมมากมาย รวมทั้งมีความสำคัญลึกล้ำทั้งทางด้านวัฒนธรรมและจิตวิญญาณ
ส่วนศาลเจ้าฮิเอะจิงจะ เองก็เป็นสถานที่จัดหนึ่งในเทศกาลที่ดังที่สุดของโตเกียวอย่างเทศกาลซันโน ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกสองปี โดยเทศกาลเทศกาลซันโนจะจัดขึ้นกลางเดือนมิถุนายนในปีเลขคู่
วัดโซโจจิ ที่โบราณเก่าแก่แห่งนี้มีชื่อเสียงขึ้นมาเมื่อโทกุกะวะ อิเอะยะสุ เลือกให้เป็นวัดประจำตระกูล รวมทั้งย้ายมาตั้งที่ตำแหน่งปัจจุบันเมื่อปีค.ศ. 1598 นอกจากนี้วัดโซโจจิยังมีชื่อเสียงในยุคร่วมสมัยเนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง “Wolverine” จากค่าย Marvel เมื่อปีค.ศ. 2013 อีกด้วย