ด่ำดิ่งไปในอดีตยุคศักดินาของญี่ปุ่นที่ย่านซามูไรอุสุกิ
การเยี่ยมชมย่านซามูไรในอุสุกิ ให้ความรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในยุคซามูไรของญี่ปุ่น ที่นี่เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การสัมผัสบรรยากาศและวัฒนธรรมซามูไร รวมถึงดื่มด่ำไปกับถนนปูด้วยหินในเมืองปราสาทเก่าแห่งนี้และบ้านโบราณทั้งหลาย
พลาดไม่ได้
- เดินเล่นไปตามถนนสายประวัติศาสตร์นิโอซะที่ใจกลางย่านนี้
- กลมกลืนไปกับชาวบ้านในท้องถิ่นได้ที่ตลาดฮัจโจโอจิ
- เยี่ยมชมเจดีย์สามชั้นที่วัดริวเก็นจิ
วิธีการเดินทาง
ย่านซามูไรแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ใจกลางอุสุกิ ซึ่งสามารถเดินทางไปได้ด้วยรถไฟ
ถนนสายประวัติศาสตร์นิโอซะจะอยู่ห่างจากสถานีอุสุกิโดยใช้เวลาเดิน 15 นาที สถานอุสุกิอยู่ห่างจากสถานีสถานีโออิตะ 40 นาที โดยเดินทางด้วยรถไฟเจอาร์สายหลักนิปโปะ (รถด่วนพิเศษ)
เดินเที่ยวทั่วย่านซามูไร
ที่ใจกลางย่านซามูไรจะเป็นที่ตั้งของถนนสายประวัติศาสตร์นิโอซะ ซึ่งเป็นถนนความยาว 200 เมตรที่คดเคี้ยวไปตามวัดวาและบ้านเรือนเก่าแก่จากยุคเอโดะมากมาย ถนนเส้นนี้รักษาบรรยากาศของญี่ปุ่นยุคโบราณเอาไว้ โดยไม่มีสิ่งที่บ่งบอกถึงยุคสมัยใหม่เลย ที่นี่จึงเป็นจุดที่เหมาะจะถ่ายรูปเก็บไว้เป็นอย่างยิ่ง
ตลาดฮัจโจโอจิเป็นถนนสายชอปปิ้งที่ขนานกับถนนสายประวัติศาสตร์นิโอซะ ถนนเส้นนี้เรียงรายไปด้วยร้านค้าต่าง ๆ ที่จำหน่ายลูกกวาดและขนมญี่ปุ่น กิโมโน งานหัตถกรรมท้องถิ่น และสินค้าแปลก ๆ ที่น่าสนใจ

ไม่ไกลจากถนนสายประวัติศาสตร์นิโอซะและตลาดฮัจโจโอจิจะเป็นที่ตั้งของวัดริวเก็นจิ ที่มีเจดีย์ยักษ์ตั้งสูงตระหง่านเหนือร้านค้าทั้งหลายและถนนสุดพลุกพล่าน
เข้าชมด้านในคฤหาสน์ซามูไรที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์
ตำแหน่งขุนนางศักดินาท้องถิ่นของอุสุกิในยุคเอโดะเป็นของตระกูลอินาบะ ซึ่งคุณสามารถเยี่ยมชมคฤหาสน์ของตระกูลนี้ได้ คฤหาสน์อินาบะมีอาคารไม้และสวนโดยรอบที่งดงาม จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการชมและสัมผัสกับส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ซามูไรอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังมีคฤหาสน์มารุโมะทางตอนใต้ของเมืองที่เป็นให้เข้าชมด้วย

ชมซากปรักหักพังที่ฟื้นคืนชีพได้ที่ปราสาทอุสุกิ
สำรวจประวัติศาสตร์ของพื้นที่ขณะที่คุณเดินเล่นไปรอบ ๆ ซากปราสาทอุสุกิ ปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นครั้งแรกในปีค.ศ. 1562 โดยขุนนางศักดินาผู้นับถือคริสต์ โอโตโมะ โซริน รูปแบบของปราสาทได้ถูกเปลี่ยนแปลงจากการบริหารของขุนนางโทะโยะโทะมิ เพื่อเน้นความสง่างามของโครงสร้างกำแพงหินและหอคอยปราสาท จากนั้นตัวปราสาทแห่งนี้ได้รับการบูรณะตระกูลอินะบะในศตวรรษที่ 17 และปราสาทนี้ก็ยังได้ถูกใช้งานจนถึงยุคฟื้นฟูเมจิ
ตัวอาคารหลักของปราสาทถูกทำลายลงไปแล้ว แต่คุณสามารถชมกำแพงหิน ประตูหลัก และอาคารต่าง ๆ ได้ พื้นที่โดยรอบปราสาทอุสุกิถูกเปลี่ยนให้เป็นสวนสาธารณะ และเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการชมดอกซากุระที่ผลิบานในฤดูใบไม้ผลิ