วัดยิ่งใหญ่สมัยศตวรรษที่ 6 เคยเป็นแหล่งฝึกฝนผู้บำเพ็ญเพียรบนภูเขา
บางครั้งที่ที่เหมาะไปเยี่ยมชมมากที่สุดก็ไม่ใช่สถานที่ที่เดินทางไปง่ายที่สุด อย่างเช่นวัดกะคุเอ็งจิ วัดตั้งอยู่สูงขึ้นไปบนเทือกเขาคิตายามะบนคาบสมุทรชิมาเนะ รายล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ เคยเป็นวัดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในแถบอิซุโมะ ซึ่งก่อตั้งขึ้นมาก่อนวัดต่าง ๆ ในเกียวโตนานหลายศตวรรษ
วิธีการเดินทาง
ขึ้นรถบัสที่มุ่งหน้าไปยังชิชิกะฮะนะจากสถานีอุนชู-ฮิระตะ ลงรถที่ป้ายรถบัสกากูเอ็นจิชูชาโจ เดินจากป้ายรถบัสไปตามถนนอีก 10 นาทีก็จะถึงวัด
หลายคนเลือกที่จะเดินป่าไปยังวัด โดยใช้เส้นทางศึกษาธรรมชาติชูโงะคุ ซึ่งเป็นทางเดินยาวกว่า 2,200 กิโลเมตรที่ทอดอยู่รอบภาคตะวันตกของญี่ปุ่น ทางเดินสายที่มุ่งหน้าไปยังทิศตะวันตก จะทอดผ่านภูเขาที่เต็มไปด้วยป่าไม้ไปยังศาลเจ้าอิซุโมะไทฉะ และสายที่มุ่งหน้าไปยังทิศตะวันออกจะทอดไปยังวัดโคโคคุจิ วัดชื่อดังระหว่างทางขึ้นไปบนภูเขาพร้อมทิวทัศน์ของทะเลสาบชินจิ
วัดเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น
วัดแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในศตวรรษที่ 6 เป็นศูนย์กลางฝึกฝนผู้บำเพ็ญเพียรบนเขา อาคารส่วนมากที่เคยกระจายตัวอยู่บนลาดเขาสูงชันได้หายไปเกือบหมดแล้ว แต่สิ่งที่ยังคงเหลืออยู่นั้นกระตุ้นให้นึกถึงอดีตและบรรยากาศเก่า ๆ เดือนพฤศจิกายน ใบเมเปิ้ลจะเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม ทำให้พื้นที่ทั้งหมดในแถบนี้มีสีดุจเพลิง
เมื่อเดินผ่านนิโอมงที่มีเทพพิทักษ์นิโอะหน้าตาดุดันตั้งอยู่ คุณก็จะได้เห็นบ้านพักนักบวชขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนอีกฝั่งของลำน้ำ ที่ตั้งอยู่ใกล้กันคือ โอะนะริมง เสาที่มีไว้เฉพาะสำหรับสมาชิกราชวงศ์ญี่ปุ่นเท่านั้น
ศาลเจ้าที่ย้ายข้ามเทือกเขามา
อาคารที่ตั้งอยู่ถัดจากอาคารหลักคือ ศาลเจ้ามะตะระ ซึ่งย้ายจากศาลเจ้าอิซุโมะไทฉะอันเป็นที่ตั้งเดิม ข้ามเทือกเขามาทีละชิ้น ๆ แล้วนำมาประกอบใหม่
เดินไปตามทางเดินบนภูเขาที่ทอดเลียบลำน้ำ ตัดผ่านป่าโบราณไปยังหอซาโอโดะ หอแห่งนี้สร้างขึ้นจากการเจาะหน้าผาหลังน้ำตกเข้าไป ว่ากันว่าพระนักรบเบ็นเคฝึกฝนที่นี่ ดื่มด่ำความเงียบสงบและจินตนาการถึงอาคารที่เคยมีอยู่ที่นี่