อธิษฐานเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของชุมชนในเทศกาลคิริโคะ
เทศกาลโนะโตะคิริโคะสุดตระการตาจัดขึ้นในเมืองต่างๆ ทั่วคาบสมุทรโนะโตะ ในอิชิคาวา ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมไปจนถึงเดือนกันยายน มีความตื่นเต้นเร้าใจสูงจากขบวนแห่โคมขนาดใหญ่ที่ประดับตกแต่งด้วยความอุตสาหะ โดยจะแห่ไปตามเมืองต่างๆตามด้วยการจุดไฟศาลเจ้าเคลื่อนที่หรือโยนลงทะเล เชื่อกันว่าไฟนั้นจะเผาปัญหาและเคราะห์ไม่ดีของผู้คนให้มอดไป
พลาดไม่ได้
- ขบวนแห่สวยงามที่ออกแบบมาอย่างประณีต
- ขบวนพาเหรดโคมและเกี้ยวศาลเจ้าที่มีชีวิตชีวา
- จุดจบอันร้อนแรง
วิธีการเดินทาง
เทศกาลจัดขึ้นทั่วคาบสมุทรโนะโตะ ในหลายเมือง คานาซาวะ คือศูนย์กลางการขนส่งหลักในอิชิคาวา มีรถไฟและรถบัสให้บริการไปยังทั่วคาบสมุทร เพราะคาบสมุทรมีการจราจรที่ไม่หนาแน่นและมีถนนเลียบหาดที่สวยงาม จึงเป็นจุดหมายปลายทางในการขับขี่ที่ลงตัว
สำหรับการเดินทางมายังคาบสมุทรโดยรถไฟนั้น ให้นั่งสายเจอาร์นะนะโอะจากสถานีคานาซาวะ การเดินทางไปยังวากูระอนเซ็นนั้นจะใช้เวลา 1 ชั่วโมงโดยรถไฟสายด่วน ส่วนสายท้องถิ่นนั้นจะแล่นต่อจากวากูระอนเซ็นขึ้นไปทางเหนือจนถึงอะนะมิซุ
หากต้องการเดินทางไปยังวะจิมะที่อยู่ปลายแหลมทางเหนือของคาบสมุทร ให้นั่งรถบัสด่วนโฮะคุเท็ตสึจากคานาซาวะ การเดินทางจะใช้เวลา 2 ชั่วโมงกว่า
จากสนามบินฮาเนะดะ ของโตเกียว จะมีเที่ยวบินตรงมายังสนามบินโนะโตะที่ตั้งอยู่ในใจกลางคาบสมุทร เมื่อมาถึง คุณสามารถเช่ารถยนต์ขับหรือนั่งรถบัสไปยังวะจิมะหรืออะนะมิซุได้
เกร็ดน่าสนใจ
เทศกาลโนะโตะคิริโคะจัดขึ้นครั้งแรกในช่วงปลายคริสตศตวรรษที่ 17
คิริโกะมีความหมายว่า “โคมศักดิ์สิทธิ์”

เทศกาลฤดูร้อนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอิชิคาวา
ในช่วงฤดูนี้มีเทศกาลคิริโกะจัดขึ้นมากมาย หาชมได้แทบจะทุกสุดสัปดาห์ เทศกาลแต่ละเทศกาลจะแตกต่างกันไป เพราะแต่ละชุมชนจะมีธรรมเนียมและประเพณีเป็นของตนเอง


ขบวนแห่ที่ประดับอย่างประณีต
คิริโกะโทะโระ หรือเรียกสั้นๆ ตามที่นิยมเรียกกันได้ว่า คิริโกะ เป็นขบวนแห่โคมประดับไฟขนาดใหญ่ที่ใช้แห่กันในระหว่างช่วงเทศกาลฤดูร้อนโนะโตะคิริโคะ เด็กๆ จะแห่ขบวนแห่ขนาดเล็ก ขณะที่คนวัยหนุ่มสาวจะแห่ขบวนแห่ขนาดใหญ่ ซึ่งอาจสูงได้ถึง 15 เมตรเลยทีเดียว
ขบวนแห่มักตกแต่งด้วยการปิดแผ่นทองคำเปลวและมีการแกะสลักที่ส่วนบนของหลังคา ส่วนโคมนั้นจะมีการเขียนตัวอักษรญี่ปุ่นและมีภาพวาดแบบญี่ปุ่น ในยุคสมัยใหม่นี้ ก็มีการนำรูปตัวละครอะนิเมะมาตกแต่งโคมด้วยเช่นกัน แต่ละพื้นที่ในโนะโตะ นั้นมีความภาคภูมิใจในขบวนแห่ของตน และเมืองต่างๆ ก็พยายามประชันขบวนกันด้วยการออกแบบและพลังที่ใช้
ต้นกำเนิดของเทศกาล
ในช่วงปลายยุค 1600 ผู้คนเริ่มประเพณีโนะโตะคิริโคะเพื่อขจัดปัดเป่าโรคระบาดและโรคภัยไข้เจ็บอื่นๆ รวมถึงอธิษฐานขอพรให้การเกษตรได้พืชผลดี
แต่ละชุมชนทำขบวนแห่ของตนขึ้น ใช้โคมศักดิ์สิทธิ์เป็นจุดสำคัญ และออกเดินขบวนพาเหรดอย่างภูมิใจในบริเวณใจกลางเมืองของตนตั้งแต่ช่วงพลบค่ำ หลายขบวนมีคบไฟขนาดใหญ่ด้วย ขบวนแห่นั้นมีชีวิตชีวาและไม่หยุดนิ่ง ผู้ร่วมเทศกาลก็ส่งเสียงร้องเพลง เต้นรำ พร้อมทั้งรื่นเริงไปกับงานจนดึกดื่น
เริ่มต้นช่วงเทศกาล
ส่วนหนึ่งในเทศกาลโนะโตะคิริโคะที่มีเสน่ห์ที่สุดคือเทศกาลอะบะเระในเมืองอุชิตสึ ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นฤดูแห่งเทศกาลในวันศุกร์และเสาร์แรกของเดือนกรกฎาคม คำว่าอะบะเระแปลความตามตัวอักษรได้ว่า “ไฟและความรุนแรง” ขบวนพาเหรดจะแห่ทั้งมิโคะชิ หรือเกี้ยวศาลเจ้า และคิริโกะไปรอบเมือง และจะเคลื่อนกองไฟกองใหญ่ไปด้วย เด็กๆ จะนั่งกันอยู่ที่ชั้นบนของคิริโกะไม้ขนาดใหญ่ พร้อมทั้งตีกลองและเป่าขลุ่ย
ศาลเจ้าเคลื่อนที่พิโรธ
คืนที่ 2 ของเทศกาลถือเป็นจุดเด่นที่สำคัญ กลุ่มชายกึ่งเปลือยจะปรากฏตัวพร้อมเกี้ยวศาลเจ้ามิโคะชิ จากนั้นจะกระแทกศาลเจ้ากับพื้น ลากลุยแม่น้ำ และโยนเข้ากองไฟ เทศกาลมาถึงตอนจบที่ร้อนระอุเมื่อขบวนแห่ถูกจุดไฟ และประกายไฟก็โบยบิน
ประเพณีที่หลากหลาย
ในพื้นที่อื่นของโนะโตะ นั้น ประเพณีจะแตกต่างกันออกไป บางเทศกาลจะมีการเต้นรำที่แปลกตา บางที่จะมีจุดจบโดยนำขบวนแห่ลงทะเล พร้อมกับจุดดอกไม้ไฟขึ้นฟ้า ในบางเมือง กลุ่มผู้หญิงจะเป็นผู้แห่ขบวนแห่
หากมาร่วมเทศกาลไม่ได้
แม้คุณจะไม่สามารถร่วมหนึ่งในเทศกาลเหล่านี้ขณะที่มาท่องเที่ยวในโนะโตะ คุณก็ยังมาที่หอวะจิมะคิริโกะในเมืองวะจิมะได้ ตั้งอยู่ใกล้กับตลาดปลาเช้าวะจิมะ เพื่อชมขบวนแห่ที่หลงเหลือจากการพบจุดจบจากไฟหรือน้ำได้อย่างใกล้ชิด