ความงามที่อยู่เพียงชั่วคราวกับการเริ่มต้นครั้งใหม่
การวางแผนเที่ยวล่วงหน้าแต่เนิ่นๆ ให้แม่นยำช่วงฤดูดอกซากุระบานในประเทศญี่ปุ่นนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะดอกซากุระจะบานโดยไม่บอกกล่าวตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมไปจนถึงเดือนเมษายน แล้วจะเริ่มร่วงไปหลังจากที่บานได้ไม่นาน ตั้งแต่สมัยโบราณ ชาวญี่ปุ่นเปรียบเปรยการผลิบานของดอกซากุระนี้ว่าเป็นเหมือนธรรมชาติของสังขารที่ไม่จีรัง
นักท่องเที่ยวจำนวนมากวางแผนทริปเที่ยวอาศัยการพยากรณ์ดอกซากุระบาน โดยหวังว่าจะได้สัมผัสประสบการณ์ความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติอย่างเต็มเปี่ยม หากคุณโชคดีได้มาในช่วงเวลาที่ถูกจังหวะ สวนโอะงิถือเป็นสถานที่ชั้นยอดในการชมดอกซากุระบาน

วิธีการเดินทาง
จากสถานีซะกะ ให้นั่งรถไฟท้องถิ่นมายังสถานีโอะงิ ซึ่งใช้เวลาเดินทางเพียง 15 นาที แล้วเดินต่ออีกเพียง 15 นาทีก็จะมาถึงสวนโอะงิ ช่วงเวลานี้ถือเป็นกิจกรรมท้องถิ่นยอดนิยมในระหว่างช่วงฤดูดอกซากุระบาน ที่สถานีจึงมีป้ายบอกทางและมีแท็กซี่คอยให้บริการ
เกร็ดน่าสนใจ
สวนโอะงิสร้างขึ้นโดย โมโตชิเงะ นาเบชิมะ และ นาโอโยชิ นาเบชิมะ ผู้เป็นเจ้าเมืองโอะงิคนแรกและคนที่ 2
เมืองโอะงิบางครั้งถูกเรียกว่าเป็น “ลิตเติ้ลเกียวโต” เพราะมีความคล้ายคลึงกับเกียวโตทั้งสภาพบ้านเมืองและประเพณี
คะคุมะกิคือต้นสนที่มีชื่อเสียงของสวนสาธารณะแห่งนี้ มีอายุ 340 ปี ได้รับการตัดแต่งให้มีรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสแปลกตา
ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ซากุระก็ถือเป็นต้นไม้ที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจนแทบจะเหมือนต้องมนตร์ เพราะสามารถเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิทัศน์ไปได้อย่างมาก แม้แต่ถนนเส้นปกติทั่วไปก็กลับมีชีวิตชีวาขึ้นมาในระหว่างช่วงเวลาสั้นๆ นี้
แม้สวนโอะงิมีความงดงามตลอดทั้งปี แต่ในช่วงฤดูดอกซากุระบานนั้น ที่นี่จะเปลี่ยนโฉมอย่างสุดๆ ไปเลย มาร่วมถ่ายภาพกับผู้มาเยือนคนอื่นๆ หรือนอนชมความงามบนเสื่อปิกนิกใต้ต้นซากุระที่มีอยู่กว่า 3,000 ต้น พร้อมทั้งเพลินไปกับอาหารและเครื่องดื่ม