โจมงซุงิ 縄文杉

โจมง สุงิเป็นต้นยะคุสุงิ (ต้นสนซีดาร์) ที่มีอายุเก่าแก่และมีขนาดใหญ่ที่สุดที่พบบนเกาะยะคุชิมะ เชื่อกันว่าต้นไม้นี้มีอายุระหว่าง 2,000 ไปจนถึง 7,200 ปี

คุณสามารถเดินทางมาโจมงสุงิได้การเดินผ่านทางหุบเขาชิราทานิอุนซุยเคียว และเส้นทางอะระคะวะ (เริมต้นที่อะระคะวะ เทรลเฮด)

เส้นทางเทรลแม่น้ำอารากาวะใช้เวลาเดินทางบนรถบัส 30 นาทีจากเมืองอัมโบ ตั้งแต่เดือนมีนาคมจนถึงพฤศจิกายน ถนนเส้นที่ตรงไปสู่จุดเริ่มต้นเส้นทางไม่อนุญาตให้รถยนต์ส่วนบุคคลขับผ่าน ดังนั้นรถบัสรับส่งจากพิพิธภัณฑ์ยะคุุสุงิเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการไปยังเข้าถึงพื้นที่นี้

ชื่อโจมง สุงิมีที่มาจากสมัยโจมง (ราว ๆ 8000 ถึง 300 ปีก่อนคริสตกาล) ของยุคก่อนประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่น ต้นสนต้นนี้สูง 25.3 เมตรและมีเส้นรอบวงขนาด 16.4 เมตร จากการกำหนดอายุโดยนับวงปีของต้นไม้ที่นักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นทดสอบกับส่วนกิ่ง ผลลัพธ์บ่งชี้ว่าโจมง สุงิมีอายุอย่างน้อย 2,000 ปี แต่ว่ามีการคาดคะเนอื่น ๆ ที่ระบุว่าอายุของต้นไม้ต้นนี้น่าจะใกล้ 7,000 ปี

ต้นไม้ต้นนี้ถูกค้นพบอย่างเป็นทางการเมื่อปีค.ศ. 1966 นอกจากนั้นความสำคัญของโจมง สุงิยังได้จุดประกายให้เกิดความพยายามปกป้องรักษาผืนป่าของเกาะยะคุชิมะ ซึ่งท้ายที่สุดได้ส่งผลให้เกาะแห่งนี้ได้ขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกยูเนสโกในปีค.ศ. 1993

หลังจากที่เกาะยะคุชิมะได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมโจมง สุงิได้จากแท่นยืนชมที่สร้างไว้ห่างจากฐานของต้นสนต้นนี้เป็นระยะทาง 15 เมตรอย่างเดียวเท่านั้น แท่นชมนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายกับตัวรากของโจมงสุงิด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากสถานะของเกาะยะคุชิมะที่ได้รับการขึ้นทำเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก

ตามเส้นทางที่นำไปยังโจมง สุงิ คุณจะได้พบกับต้นไม้ที่มีชื่อเสียงอื่น ๆ อีกหลายต้น อันได้แก่ เมะโอะโตะ สุงิ ต้นไม้คู่ที่มีลักษณะคล้ายกับสามีภรรยากำลังสวมกอดกันและกัน ไดโอะ สุงิ (ต้นซีดาร์มหาราชา) ที่เป็นหนึ่งในต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะแห่งนี้ และตอไม้วิลสัน (ตั้งชื่อตามนักพฤกษศาสตร์ชาวอังกฤษที่มีชื่อว่าเออร์เนสต์ เฮนรี่ วิลสัน) ซึ่งเป็นเศษซากของต้นซีดาร์ยักษ์ที่ถูกโค่นลงเมื่อปีค.ศ. 1580 นอกจากนี้ยังมีการค้นพบภาพถ่ายตอไม้นี้ที่วิลสันเป็นผู้ถ่ายเก็บไว้ ราวๆช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ในห้องเก็บเอกสารของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดด้วย