ที่มั่นของตระกูลที่ปกครองฮะงิเป็นเวลานานกว่า 260 ปี
กำแพงอันใหญ่โตโอฬารของปราสาทฮะงิเป็นสิ่งย้ำเตือนเมืองฮะงิครั้งยังมีอำนาจ เมื่อเป็นเมืองหลวงของแคว้นโชชูในระหว่างยุคเอโดะ (ค.ศ.1603-ค.ศ.1867)ภายใต้การปกครองของตระกูลโมริ
พลาดไม่ได้
- ชมปลาคาร์ปและเต่าว่ายน้ำในคูน้ำของปราสาท
- เดินขึ้นไปยังยอดซากปราสาทฮะงิ เพื่อชมทิวทัศน์
- สำรวจสวนสาธารณะชิซุกิที่ล้อมอยู่รอบซากปราสาทฮะงิ
วิธีการเดินทาง
ปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจากสถานีฮิงาชิ-ฮะงิโดยใช้เวลานั่งแท็กซี่เพียงไม่นาน หรือคุณจะขึ้นรถบัสสายฮางิจุนคังมารูบัสเวสท์รูทไปลงที่ป้ายฮะงิ-โจ-อะโต/ชิซุกิโคเอ็นอิริงูจิก็ได้ นอกจากนี้ ซากปราสาทแห่งนี้ยังตั้งอยู่ไม่ไกลจากย่านปราสาทฮะงิ ซึ่งใช้เวลาเดินเพียงไม่นานอีกด้วย

ชมเมืองและซากปรักหักพัง
เที่ยวชมซากปราสาทแห่งนี้และใจกลางย่านปราสาทฮะงิ ไปพร้อมกันในทริปเดียว ซากปราสาทฮะงิตั้งอยู่ข้างหาดคิคุกะฮามะ และอยู่ใกล้กับเตาเผาเครื่องปั้นดินเผาเซนชุนระคุ โจซังกะมะ ซึ่งเป็นที่ที่มีเตาเผาขั้นบันไดที่ใหญ่ที่สุดในฮะงิให้คุณได้ชม
ดอกซะคุระที่งดงามที่สุดในฮะงิ
นอกจากสวนสาธารณะชิซุกิจะเป็นที่ตั้งของปราสาทฮะงิแล้ว ที่นี่ยังมีชื่อเสียงในเรื่องของดอกซะคุระอีกด้วย ต้นซะคุระกว่า 500 ต้นจะออกดอกสวยสะพรั่งเต็มสวนในช่วงปลายเดือนมีนาคมจนถึงต้นเดือนเมษายนของทุกปี

ดอกซะคุระอันงดงามในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
แหล่งมรดกโลกที่มีรุ่มรวยไปด้วยประวัติศาสตร์
เมื่อขุนศึกโมริ เทรุโมโตะพ่ายแพ้ในสงครามเซกิงาฮาระในปี 1600 เขาก็ถูกบังคับให้ย้ายจากฮิโรชิมะมายังฮะงิ เขาสร้างปราสาทหลังใหม่ของตัวเองขึ้นมาในปีค.ศ. 1604 หลังจากนั้นย่านปราสาทฮะงิที่แสนคึกคักก็ผุดขึ้นรอบปราสาท ซากปราสาทฮะงิเป็นส่วนหนึ่งของย่านปราสาทฮะงิ แหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโก



