ความเชื่อที่ผสมผสานกับการบำเพ็ญพรตบนภูเขาที่วัดใกล้ภูเขา โยะชิโนะแห่งนี้
วัดคิมปุเซ็นจิเป็นส่วนหนึ่งของนิกายที่ถือปฏิบัติบำเพ็ญพรตบนภูเขาแบบชูเกนโด นิกายนี้มีรากฐานทั้งจากความเชื่อในลัทธิชินโตและศาสนาพุทธ โทนันอินและวัดซากุระโมโตโบะที่เกี่ยวข้องกับนิกายนี้
วิธีการเดินทาง
สามารถเดินไปถึงวัดคิมปุเซ็นจิด้วยเวลาสิบนาทีจากสถานีโยะชิโนะยามะ ซึ่งเป็นสถานที่อยู่ด้านบนีกระเช้าลอยฟ้าโยะชิโนะ
สามรูปปั้นของซะโอ กงเง็ง
วัดคิมปุเซ็นจิเป็นที่ประดิษฐานของมรดกตกทอดที่สำคัญของนิกายชูเกนโดบางส่วน รูปปั้นซะโอ กงเง็งผิวสีน้ำเงินเหล่านี้มีความสูงถึงเจ็ดเมตร เป็นการสื่อถึงความหลุดพ้นของผู้คนในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต สามารถเข้าชมรูปปั้นอายุกว่า 1,300 ปีนี้ได้ในบางช่วงของปี
อาคารหลัก
หอซะโอโด อาคารหลักของวัด เป็นสิ่งก่อสร้างไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของญี่ปุ่น เป็นรองแค่ไดบุตสึเด็น หรือหอพระใหญ่ ที่วัดโทไดจิเท่านั้น

โอบล้อมด้วยแหล่งมรดกโลก
วัดแห่งนี้เป็นจุดแวะพักที่สำคัญบนเส้นทางจาริกแสวงบุญหลากหลายเส้นทาง วัดคิมปุเซ็นจิเป็นจุดเริ่มต้นของการจาริกแสวงบุญสู่ภูเขาโอมิเนะ และยังเป็นจุดแวะพักในการจาริกแสวงบุญอื่น ๆ อีกหลายเส้นทางด้วย ทั่วทั้งบริเวณนี้รวมถึงวัดคิมปุเซ็นจิและศาลเจ้าคิมปุจิงจะ เป็นพื้นที่มรดกโลกขององค์กรยูเนสโก โดยเป็นส่วนหนึ่งของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และเส้นทางจาริกแสวงบุญในเขตเทือกเขาคิอิ
ฝึกความทนทานทั้งกายและใจ
วัดคิมปุเซ็นจิจัดกิจกรรมฝึกตนในช่วงเดือนพฤษภาคมไปจนถึงตุลาคม ความทนทานต่อความเครียดทั้งกายและใจ เช่น การโหนตัวที่หน้าผาหรือการนั่งใต้น้ำตก นิกายชูเกนโดสอนว่ากิจกรรมเหล่านี้เป็นหนทางสู่การรู้แจ้งเห็นจริง
เทศกาลคางคกเรงเกไก
เทศกาลคางคกเรงเกไกจัดขึ้นในวันที่ 7 กรกฎาคมของทุกปี เพื่อเป็นการระลึกถึงตำนานท้องถิ่นที่กล่าวกันว่าชายคนหนึ่งถูกทำให้กลายร่างเป็นคางคกเพราะเขาไม่ถือปฏิบัติตามหลักศาสนาอย่างจริงจัง ตำนานนี้มีตอนจบที่สวยงาม เพราะนักบวชได้เปลี่ยนเขากลับไปเป็นมนุษย์เหมือนเดิม คุณจะเห็นรูปปั้นคางคกและกบซึ่งมีไว้เพื่อระลึกถึงเรื่องราวนี้อยู่ทั่วเมือง