โอคะยะมะ คุระชิกิ เมืองประวัติศาสตร์ซึ่งมีการอนุรักษ์ไว้อย่างสวยงาม และเป็นแหล่งเดนิมชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น

คุระชิกิอยู่ห่างออกไปทางตะวันตกของเมืองโอคายาม่า เพียง 30 นาที เป็นชุมชนพ่อค้าแม่ค้าอันมีเสน่ห์ตามแนวคลองงดงามที่เรียงรายไปด้วยต้นหลิว เมืองนี้ขยายออกมาสู่ท่าเรืออุตสาหกรรมอันคึกคัก และเป็นที่รู้จักกันในนามถิ่นกำเนิดยีนส์ในประเทศญี่ปุ่น

คุณสามารถเดินทางมายังคุราชิกิได้จากเมืองโอคายามะด้วยรถไฟและรถบัส

นั่งรถไฟสายซันโยจากสถานีโอคายาม่าไปยังสถานีคุระชิกิโดยใช้ตั๋ว เจอาร์เรลพาส ส่วนรถไฟท้องถิ่นจะออกเดินทางไปยังส่วนต่างๆ ของคุระชิกิ โดยย่านประวัติศาสตร์นั้นใช้เวลาเดิน 10 นาทีจากสถานี

คุระชิกินรู้จักในฐานะเมืองหลวงแห่งยีนส์ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งดึงดูดผู้หลงใหลแฟชั่นเข้ามาจากทั่วทุกมุมโลก พื้นที่โดยรอบสถานีคุระชิกิมีตัวเลือกให้จับจ่ายใช้สอยมากมาย ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้า เอาท์เล็ตปาร์ค ไปจนถึงถนนช้อปปิ้งมีหลังคาในแบบย้อนยุค คุณสามารถเดินไปได้เกือบตลอดเส้นทางจากสถานีจนถึงเขตอนุรักษ์คุระชิกิบิคัง ตาม “โชเต็งไก” หรือถนนช้อปปิ้งมีหลังคาแบบดั้งเดิม เรียงรายไปด้วยร้านรวงจำหน่ายสินค้าหัตถกรรมพื้นเมือง ของใช้ในชีวิตประจำวัน และอาหารการกินต่างๆ

จุดที่ได้รับความนิยมที่สุดในบรรดาผู้มาเยือนคือเขตอนุรักษ์คุระชิกิบิคัง ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างสวยงาม ทั้งบ้านพื้นเมืองหลังใหญ่ ร้านค้า และโกดังต่างๆ ซึ่งย้อนกลับไปได้ถึงยุคเอโดะ (1603-1868) และเมจิ (1868-1912) ตั้งอยู่เรียงรายตลอดสายแม่น้ำที่งดงามซึ่งเดินข้ามไปมาได้โดยใช้สะพานหิน ทั้งยังมีเรือลำเล็กขนส่งผู้โดยสารไปกลับตามสายแม่น้ำอีกด้วย และเช่นเดียวกับเมืองเวนิส พื้นที่สวยงามดั่งภาพวาดแถบนี้คือเมืองที่มีชีวิตชีวา เต็มไปด้วยร้านค้า คาเฟ่ และร้านอาหารสีสันสดใส ซึ่งคนในพื้นที่ใช้ชีวิตประจำวันอยู่ที่นี่

เห็นได้อย่างชัดเจนจากขนาดของบ้านพื้นเมืองริมแม่น้ำ ว่าคุระชิกินที่อยู่ของพ่อค้าแม่ค้าผู้มั่งคั่ง หนึ่งในนั้นคือ มะโกะซะบุโร โอฮะระ ผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ศิลปะส่วนตัวแห่งแรกขึ้นในประเทศญี่ปุ่นในปี 1930 โดยเขาได้จัดแสดงงานศิลปะที่ตัวเองได้รวบรวมมา อีกทั้งยังอุปถัมภ์จิตรกรท้องถิ่น โทะระจิโร โคะจิมะ ผู้เดินทางไปทั่วยุโรปเพื่อเลือกสรรผลงานมาให้กับผู้อุปถัมภ์ ทั้งงานของเอลเกรโก โกแก็ง โมเนต์ และมาติส เพื่อนำกลับมาตั้งแสดงเคียงข้างผลงานญี่ปุ่นแบบร่วมสมัย เป็นที่มาของพิพิธภัณฑ์เล็กๆ แห่งนี้ที่ดูคล้ายคลึงกับวิหารกรีกโบราณ ซึ่งเป็นเพชรเม็ดงามแห่งวงการศิลปะญี่ปุ่นและตะวันตกในศตวรรษที่ 20

แถบโคจิมะของคุระชิกิคือที่แห่งแรกในประเทศญี่ปุ่นซึ่งมีการผลิตเดนิม และในปัจจุบันยังคงได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงแห่งยีนส์ของประเทศญี่ปุ่นอยู่ ซึ่งดึงดูดขาช้อปและนักออกแบบเข้ามาจากทั่วทุกมุมโลก ส่วนหนึ่งของความสำเร็จนี้มาจากโรงงานผลิตเล็กๆ แบบเฉพาะทางหลายแห่งในเมือง ซึ่งใช้เครื่องจักรพื้นเมืองและกลวิธีการย้อมสีที่กระบวนการผลิตปริมาณมากนั้นเลียนแบบไม่ได้ คอเดนิมตัวจริงไม่ควรพลาดแหล่งช้อปปิ้งสุดฮิปแห่งนี้ ส่วนขาช้อปทั่วไปก็สามารถเดินเลือกซื้อสินค้าได้สารพัดชนิดตั้งแต่กางเกงยีนส์ เสื้อแจ็คเก็ต ไปจนถึงเครื่องประดับสุดแนว ตลอดเส้นโคจิมะยีนส์สตรีท

นอกจากแหล่งท่องเที่ยวหลักแล้ว ยังมีพื้นที่น่าสนใจซึ่งจะให้คุณได้สัมผัสกับวิถีชีวิตประจำวันอีกด้วย บริเวณริมชายฝั่งคือที่ตั้งของเมืองท่าทะมะชิมะ เมืองเก่าแก่อายุประมาณ 400 ปี ซึ่งยังคงมีอาคารบ้านเรือนที่อนุรักษ์ไว้อย่างดี รวมถึงงานช่างฝีมือพื้นเมืองในแถบนะคะไงโช หรือหากมาเยือนในช่วงฤดูร้อน ให้มุ่งหน้าไปยังหาดซะมิซึ่งให้บรรยากาศผ่อนคลายและสามารถลงเล่นน้ำได้อย่างสงบ

รู้จักกับโลกอีกใบของคุระชิกิได้ด้วยการมุ่งหน้าไปยังมิซุชิมะ เขตอุตสาหกรรมทรงอิทธิพลของแถบนี้ และเป็นถิ่นกำเนิดของผู้ผลิตที่มีชื่อเสียงอย่าง เจเอฟอี สตีล และ มิตซูบิชิ โดยโรงงานหลายแห่งมีบริการนำเที่ยวด้วย (แต่ขอแนะนำให้จองล่วงหน้า) และหนึ่งในการนำเที่ยวนั้นคุณสามารถชมกระบวนการผลิตรถยนต์ทั้งคันได้ที่มิตซูบิชิ มอเตอร์ส แม้ว่าแถบนี้จะดูไม่มีอะไรในยามกลางวัน แต่ในยามค่ำคืนนั้นจะระยิบระยับไปด้วยแสงไฟจากอุตสาหกรรม

เมืองมะบิคือแหล่งการเกษตรที่อยู่ห่างออกมาจากฝั่งทะเล ซึ่งขึ้นชื่อด้านป่าไผ่กว้างใหญ่และสินค้าจากไผ่ เมืองนี้คือบ้านเกิดของ คิบิ โนะ มะคิบิ ปราชญ์ญี่ปุ่นผู้ซึ่งได้ไปศึกษาในจีนเมื่อ 1,300 ปีก่อน อีกทั้งยังมีสวนมะคิบิซึ่งเป็นสวนสไตล์จีนอันสวยงาม และมาบิอุตสึคุชิโมริซึ่งเป็นบริเวณตั้งแคมป์ยอดนิยมอีกด้วย