ชิมะเนะ เกาะโอกิ เกาะที่อยู่นอกหมู่เกาะญี่ปุ่นและมีระบบนิเวศที่เป็นเอกลักษณ์

หมู่เกาะโอกิเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติไดเซนโอคิ และ UNESCO ยกให้เป็นอุทยานธรณีโลกมาตั้งแต่ ค.ศ. 2013 โดยมีผู้อยู่อาศัยเพียง 4 เกาะจากที่มีอยู่เกือบ 180 เกาะ เกาะเหล่านี้เหมาะสำหรับกีฬาทางน้ำ การเที่ยวชมสถานที่ และการเดินป่า

การเดินทางเข้าถึงหมู่เกาะโอกิ จำกัดเฉพาะทางทะเลและทางอากาศเท่านั้น แต่เมื่อคุณมาถึงเกาะแล้วสามารถเช่ารถยนต์ จักรยาน หรือใช้บริการแท๊กซี่ท้องถิ่น

มีบริการเรือข้ามฟากจากท่าเรือชิจิรุอิในเมืองมัตสึเอะ และท่าเรือซาไกมินาโตะในเมืองซาไกมินาโตะ จังหวัดทตโตริ และการเดินทางด้วยเรือเฟอร์รี่ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง บริการเรือข้ามฟากจะมีมากขึ้นในช่วงฤดูร้อนและจะลดลงในช่วงฤดูหนาว ดังนั้นโปรดตรวจสอบตารางเวลาก่อนออกเดินทาง นอกจากนี้ยังมีบริการเรือเร็วที่ใช้เวลาน้อยกว่ามากออกจากสองท่าเรือดังกล่าว ตรวจสอบโฮมเพจของโอกิคิเซนอย่างสม่ำเสมอเพื่อดูข้อมูลใหม่ล่าสุด

สนามบินโอกิในโดโกะให้บริการเที่ยวบินจากสนามบินนานาชาติโอซาก้า ซึ่งใช้เวลาประมาณ 50 นาที และสนามบินอิซุโมะ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 30 นาที

เรือข้ามฟากเชื่อมต่อเกาะทั้งหมด 4 เกาะ บริการรถประจำทางมีจำกัด ดังนั้น การเช่ารถจึงทำให้คุณมีอิสระในการเที่ยวชมสถานที่ได้มากกว่า นอกจากนี้ยังมีทางเลือกในการเช่าจักรยานเพื่อเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ

ผืนน้ำที่ล้อมรอบหมู่เกาะโอกิมีความใสเป็นพิเศษ เหมาะสำหรับกิจกรรมและการพักผ่อนทางน้ำ เช่น ว่ายน้ำ ดำน้ำตื้น พายเรือคายัค และตกปลา คุณสามารถเรียนดำน้ำลึกได้ หรือถ้ามีประสบการณ์ ก็สามารถเช่าอุปกรณ์และลงไปดำน้ำด้วยตัวเองได้

พื้นที่ส่วนใหญ่ของแนวชายฝั่งที่ตะปุ่มตะป่ำนี้เหมาะสำหรับเดินเล่นผ่อนคลาย เนินลาดหญ้าของหน้าผามะเทนไก มีความสูง 257 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล อย่าพลาดชมพระอาทิตย์ตกที่ปลายเกาะเทียน (เกาะโดโก)

หากอยากออกแรงมากกว่านั้น ไปเดินเขาบนภูเขาไดมันจิ ซึ่งมีความสูงมากกว่า 600 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ภูเขาลูกนี้มีเส้นทางเดินเขาหลายสายที่จะพาคุณผ่านไปตามชั้นหินธรรมชาติที่แปลกตา และศาลเจ้าลึกลับที่ยังคงบูชาเทพเจ้าโบราณแห่งป่า

หรือคุณจะเดินขึ้นเขาไปยังยอดของภูเขาทะคุฮิก็ได้ จากยอดสูงสุดของภูเขาที่สูง 450 เมตรลูกนี้ คุณสามารถมองออกไปเหนือทะเลสีฟ้าและหมู่เกาะโดยรอบ

การสัญจรโดยรถบัสแทบจะไม่มีเลย ทำให้การปั่นจักรยานเป็นวิธีที่ปลอดภัยและสะดวก การเช่าจักรยานเป็นตัวเลือกที่สะดวกสำหรับท่องเที่ยวบนเกาะและเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์

แผนการเดินทางอื่นๆ รวมถึงการสำรวจแนวชายฝั่งจากในทะเลโดยใช้ทัวร์เรือที่มีให้บริการจำนวนมาก 

เรือท้องกระจกอะมันโบ (Amanbow) สำหรับการชมทัศนียภาพใต้น้ำเผยให้เห็นโลกใต้ท้องทะเล การล่องเรือข้ามคลองที่สร้างขึ้นเพื่อเปิดคอคอดระหว่างเกาะนิชิโนะและชายฝั่งคุนิกะที่มีทิวทัศน์สวยงาม ช่วยให้เข้าใจถึงวิถีชีวิตท้องถิ่นและภูมิประเทศอันงดงามของพื้นที่

โดโกะเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะโอกิ โดยวัดระยะรอบเกาะได้ประมาณ 211 กิโลเมตร สถานที่โดดเด่นทางธรรมชาตินั้นรวมถึงคาบสมุทรชิระชิมะ ชายฝั่งโจโดงาอุระ และแท่งหินเทียน ที่ดูเหมือนว่าพระอาทิตย์จะตกบนปลายแหลมของแท่งหินที่โผล่ยื่นขึ้นมาจากทะเลในความสูง 20 เมตร

เข้าไปในแผ่นดินเพื่อชมศาลเจ้าดันเกียวและน้ำตกดันเกียว หรือชมต้นชิชิซึกิที่มีอายุประมาณ 800 ปี ต้นไม้รูปทรงประหลาดขนาดยักษ์

นิชิโนะชิมะเป็นเกาะที่มีคนอยู่อาศัยที่ใหญ่เป็นอันดับสอง โดยมีประชากรประมาณ 3,000 คน และเป็นที่ตั้งของชายฝั่งคุนิงะ จักรพรรดิโกไดโงะของญี่ปุ่นถูกเนรเทศมาที่นี่ในศตวรรษที่ 14 แต่ทรงหนีออกไปได้หลังจากนั้นเพียงปีเดียว

เยี่ยมชมศาลเจ้าทาคุฮิจินจะ ศาลเจ้าที่สร้างขึ้นภายในถ้ำสูงภายในภูเขาไฟ สามารถมองเห็นทะเลโดยรอบ ศาลเจ้ายูราฮิเมะจินจะสร้างขึ้นโดยหันหน้าไปทางทางเข้า และมีตำนานกล่าวไว้ว่าหาดทรายจะถูกปกคลุมไปด้วยฝูงปลาหมึกระหว่างเดือนธันวาคมถึงช่วงปีใหม่ ชมพิธีกรรมที่ศาลเจ้านี้และสถานที่อื่น ๆ รอบ ๆ เกาะ

นะกะโนะชิมะเป็นเกาะที่ต่ำที่สุดในหมู่เกาะนี้ โดยมีจุดสูงสุดเพียง 164 เมตร แนวชายฝั่งอันยาวเหยียดของเกาะนี้รวมถึงผาแดงอากิยะที่มีความยาว 1 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถชมทัศนียภาพอันกว้างใหญ่ไพศาลของเกาะอื่นๆ ได้จากแหลมประภาคารคิโรงะซากิ

จักรพรรดิโกะโทะบะทรงใช้เวลาในบั้นปลายพระชนม์ชีพระหว่างลี้ภัยเป็นเวลา 19 ปีบนเกาะนะกะโนะชิมะเมื่อต้นศตวรรษที่ 13 กล่าวกันว่าประเพณีซูโม่วัว ของโอกิ ซึ่งยังคงได้รับความนิยมอยู่จนถึงทุกวันนี้นั้นเริ่มต้นขึ้นที่นี่เพื่อแสดงความบันเทิงให้แก่พระองค์ เรือสำรวจใต้ท้องน้ำที่เรียกว่าอะมันโบ (Amanbow) ออกเดินทางจากที่นี่

เกาะชิบุริจิมะเป็นเกาะขนาดเล็กที่สุดที่มีคนอยู่อาศัยเพียง 600 คน ผิวดินที่มีความขรุขระทำให้ยากต่อการดำรงชีวิตจากการทำเกษตรกรรม

ทานูกิหรือสุนัขแรคคูนก็พบได้บนเกาะชิบุริจิมะเช่นกัน ความจริงแล้ว ที่นี่เป็นแห่งเดียวในหมู่เกาะโอกิที่พวกมันอยู่อาศัย และทานูกิก็มีจำนวนมากกว่าประชากรมนุษย์เสียอีก