ยะมะงุชิ เมืองยะมะงุชิ ศูนย์กลางศิลปะและความงามของญี่ปุ่น สวนสวนแสนวิจิตรไปจนถึงหุบเขากลางป่าดิบ

ดินแดนในอดีตของตระกูลโอจิที่เรืองอำนาจในคิวชูอย่างเมืองยามากุจิถือเป็นจุดแวะพักที่น่าสนใจบนเส้นทางระหว่างฮิโรชิมะ กับคิวชู ที่นี่โด่งดังในเรื่องของวัดที่แสนงดงาม เรื่องราวสำคัญทางประวัติศาสตร์ อย่างเช่นการค้ากับจีนและการติดต่อสัมพันธ์กับนักบวชชาวโปรตุเกส ทำให้เมืองทางใต้แห่งนี้กลายเป็นศูนย์กลางศิลปะและวัฒนธรรมที่ร่ำรวย

เมืองยามากุจิสามารถเดินทางได้ทั้งเครื่องบินและรถไฟ และยังตั้งอยู่บนรถไฟชินคันเซ็นสายซันโยจากโอซาก้า

จากสถานีฮิโรชิมะหรือสถานีฮากาตะในฟุกุโอกะ ขึ้นชินคันเซ็นสายซันโยไปลงที่สถานีชิน-ยามากุจิ

คุณสามารถเลือกเดินทางจากสนามบินฮาเนะดะที่โตเกียวหรือสนามบินนานาชาติคันไซไปลงที่สนามบินยามากูจิอุเบะได้ทั้งคู่ จากสนามบิน นั่งรถบัสหรือรถไฟมาลงที่สถานีชิน-ยามากุจิได้โดยจะใช้เวลาประมาณ 40 นาที

เยี่ยมเยือนวัดโจเอจิ วัดนิกายเซ็นที่มีอายุเก่าแก่กว่า 500 ปีซึ่งมีจุดเด่นที่ทิวทัศน์ของสวนหินอันกว้างขวาง ชวนให้ระลึกถึงอดีต สวนแห่งนี้สร้างขึ้นโดยพระเซซชู ซึ่งเป็นทั้งพระและศิลปินชื่อดัง

บริเวณใกล้เคียงมีเจดีย์ห้าชั้นแห่งวัดรูริโกจิตั้งตระหง่านอยู่ ถือเป็นหนึ่งในเจดีย์ที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น

พระเซซชูมีชื่อเสียงจากภาพวาดน้ำหมึก ซึ่งสะท้อนความงดงามอย่างเซ็นในสไตล์ญี่ปุ่น ท่านบวชเป็นพระในศาสนาพุทธนิกายเซ็นตั้งแต่อายุ 11 ปี ถึงแม้จะอายุน้อย แต่พระเซซชูมีชื่อเสียงโด่งดังด้วยพรสวรรค์ทางด้านศิลปะ ก่อนจะได้เป็นหนึ่งในศิลปินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุคนั้น ความคิดสร้างสรรค์ของท่านได้ถูกถ่ายทอดลงไปในสวนของวัดโจเอจิ เกิดเป็นสวนหินเซ็นที่งดงามและเงียบสงบ

 ** สวนหินโบราณที่วัดโจเอจิ

เจดีย์ห้าชั้นแห่งวัดรุริโกจิได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในเจดีย์ที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น และน่าจะเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่น่าทึ่งที่สุดของเมืองยามากุจิ

วัดรุริโกจิและเจดีย์ตั้งอยู่ในสวนโคซัง โอเอซิสขนาดใหญ่แสนร่มรื่นที่เป็นจุดชมดอกบ๊วยและดอกซากุระยอดนิยมในฤดูใบไม้ผลิ อนุสรณ์สถานของสมาชิกบางท่านในตระกูลโมริ ตระกูลขุนนางที่ปกครองยามากุจิในช่วงยุคเอโดะ (ค.ศ. 1603- ค.ศ.1867) ก็ตั้งอยู่ในสวนโคซังด้วยเช่นกัน

ฟรานซิส ซาเวียร์ (ค.ศ. 1506– ค.ศ.1552) มิชชันนารีศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกและพระนิกายเยสุอิต ได้นำศาสนาคริสต์เข้ามาเผยแผ่ที่ญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1549 และมีการจัดงานคริสต์มาสในญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกที่ยามากุจิเมื่อปี ค.ศ. 1552 เริ่มแรกศาสนาคริสต์ได้รับการยอมรับเป็นอย่างดี คนจำนวนมากในญี่ปุ่นก็เริ่มหันมานับถือศาสนาคริสต์กันมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ขุนนางศักดินาสมัยนั้นกลับรู้สึกไม่พอใจกับการรุกล้ำจากภายนอกครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง ทำให้เริ่มจับชาวคริสต์มาลงโทษ

แต่ถึงกระนั้น ก็ยังคงมีผู้แอบนับถือศาสนานี้ต่อไปอย่างลับ ๆ โบสถ์ฟรานซิสซาเวียร์สร้างขึ้นที่นี่ในปี ค.ศ. 1952 ภายหลังการเสียชีวิตของซาเวียร์เป็นเวลา 400 ปี เพื่อระลึกถึงมิชชันนารีผู้ที่ได้เดินทางเผยแผ่ศาสนาไปทั่วยามากุจิในช่วงปี ค.ศ. 1550-51


ด้วยโครงสร้างแบบสมัยใหม่ที่ใช้หลังคาลาดและกำแพงสีขาวจึงทำให้โบสถ์แห่งนี้โดดเด่นสะดุดตาต่างจากสถานที่อื่น ๆ ในยามากุจิที่จะเป็นสไตล์ดั้งเดิม แต่โบสถ์แห่งนี้ก็ยังมีความเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์ของจังหวัดนี้และบริเวณใกล้เคียง

ตั้งอยู่ห่างจากสถานียูดะอนเซ็นในระยะที่เดินไปไม่ไกล ย่านน้ำพุร้อนแห่งนี้เป็นหนึ่งในสถานที่ยอดฮิตของเมืองยามากุจิ

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักค้างแรม ที่นี่มีโรงแรมเรียวคัง ที่มีอนเซ็นอยู่มากมายให้เลือกสรร หากคุณต้องการเที่ยวในเมืองแค่ช่วงกลางวันก็สามารถเลือกใช้บริการอนเซ็นแบบวันเดียวได้เช่นกัน บ่อแช่เท้าอาชิยูอนเซ็นก็พบได้ทั่วไปในย่านยูดะอนเซ็น สำหรับพักจากการเดินชมเมืองด้วยการแช่เท้าให้สดชื่น

มีตำนานเล่าว่าอนเซ็นแห่งนี้ถูกค้นพบเมื่อมีจิ้งจอกขาวบาดเจ็บตัวหนึ่งเอาเท้าไปแช่ในน้ำและหายดีได้อย่างน่าอัศจรรย์ จิ้งจอกขาวถือเป็นวิญญาณผู้พิทักษ์อันศักดิ์สิทธิ์ของยูดะอนเซ็น ด้านนอกสถานียูดะอนเซ็นจึงมีรูปปั้นจิ้งจอกขาวยืนตระหง่านรอทักทายคุณด้วยรอยยิ้มอันแสนอ่อนโยน ระหว่างที่คุณเดินเล่นในย่านนี้ก็ลองสังเกตลวดลายจิ้งจอกขาวอื่น ๆ ดู

Yamaguchi City

ยามากุจิมีชื่อเสียงในด้านอาหารทะเล เนื่องจากมีทะเลโอบล้อมถึงสามด้าน มีปลาปักเป้าเป็นเมนูท้องถิ่นประจำจังหวัด เสิร์ฟพร้อมต้นหอมและซอสเผ็ด ปลาปักเป้าถือเป็นอาหารจานเด็ดของที่นี่เลยทีเดียว

หรือจะเลือกลิ้มลองคาวาระโซบะ โซบะสีเขียวสไตล์ดั้งเดิมเสิร์ฟร้อน ๆ บนแผ่นกระเบื้องมุงหลังคาแผ่นใหญ่ พร้อมเลมอนหรือมะนาวและเครื่องเทศปรุงรส คุณสามารถลองอาหารขึ้นชื่อประจำยามากุจิได้ในตัวเมืองยามากุจิแถว ๆ ย่านยูดะอนเซ็น

Yamaguchi City

เมื่อคุณเดินทางออกจากตัวเมืองยามากุจิด้วยขนส่งสาธารณะไปประมาณ 1 ชั่วโมงก็จะพบกับทิวทัศน์ธรรมชาติที่น่าตื่นตาที่สุดในจังหวัดยามากุจิ ที่ราบสูงอะคิโยะชิได และถ้ำหินปูนอะคิโยะชิที่อยู่เบื้องล่างแสดงให้เห็นถึงสภาพภูมิประเทศแบบคาสต์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น หากคุณกำลังมองหาสิ่งแปลกใหม่ไม่จำเจ สถานที่อันน่าตื่นเต้นแห่งนี้ก็เหมาะแก่การมาเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับจากตัวเมืองยามากุจิ

Yamaguchi City