เฮียวโงะ โกเบ เมืองท่าสากลที่ครบเครื่องแม้มีขนาดเล็ก อีกทั้งยังขึ้นชื่อเรื่องเนื้อวัวที่เลิศรสที่สุดส่วนหนึ่งของประเทศ

โกเบคือเมืองที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามอ่าวจากโอซาก้า รวมถึงเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ของญี่ปุ่น และเป็นเมืองเอกของจังหวัดเฮียวโงะ

เนื่องจากเป็นศูนย์รวมส่วนสำคัญของการค้าระหว่างประเทศของญี่ปุ่นมาช้านาน เมืองที่มีกลิ่นอายความเป็นสากลอย่างโกเบจึงมีประวัติศาสตร์ไม่เหมือนใคร แถมยังมีสถาปัตยกรรมที่แตกต่างชัดเจน

บริการ JR สายโทไกโด/ซันโยชินคังเซ็นเชื่อมต่อโกเบกับโตเกียวโดยตรง

ระยะทางจากโตเกียวมายังสถานีชิน-โกเบใช้เวลาประมาณ 160 ถึง 195 นาที ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของรถไฟ และหากคุณเลือกใช้บริการรถไฟฮิการิ เจแปนเรลพาส ก็จะครอบคลุมค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ นอกจากนั้นยังมีเที่ยวบินหลายเที่ยวของสายการบิน ANA และ Skymark ให้บริการระหว่างสนามบินฮาเนะดะ ของโตเกียวกับสนามบินโกเบ วิธีเดินทางไปยังโกเบในราคาที่ย่อมเยาที่สุดคือรถบัสนอน บริการขนส่งที่มีหลายบริษัทให้เลือกนี้จะใช้เวลาเดินทาง 8 ถึง 9 ชั่วโมงจากโตเกียวไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ของโอซาก้า โดยค่าโดยสารมีตั้งแต่ประมาณ 5,000 ถึง 8,500 เยนต่อเที่ยว

หากให้เลือกอาหารที่เป็นสัญลักษณ์แทนเมืองแห่งนี้ คำตอบจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากเนื้อวัวโกเบ เนื้อวัวจากโคเนื้อทาจิมะที่เพาะพันธุ์และเลี้ยงดูภายในท้องถิ่นจะมีไขมันแทรกเป็นลวดลายหินอ่อน ทั้งยังนุ่มและให้รสชาติเข้มข้น จึงได้รับการยอมรับนับถือในระดับสากล

แม้จะมีหลายทฤษฎีที่เชื่อกันว่าเป็นเหตุให้เนื้อวัวจากท้องที่นี้ออกมาได้คุณภาพชั้นเลิศ ไม่ว่าจะเป็นทฤษฎีที่ว่าผู้เลี้ยงนวดโคเนื้อหรือเลี้ยงด้วยเบียร์ ทั้งหมดนี้ต่างก็ไม่ใช่ความจริงแต่อย่างใด เพราะอันที่จริงแล้วเนื้อวัวโกเบจะต้องผ่านมาตรฐานที่เข้มงวด เพื่อรับประกันว่าเนื้อวัวที่ได้แสตมป์รับรองของโกเบจะต้องมีคุณภาพระดับสูงสุดเท่านั้น 

วิธีการลิ้มรสเนื้อวัวโกเบที่แพร่หลายที่สุดในเมืองนี้แน่นอนว่าต้องเป็นเมนูสเต็กสุดคลาสสิก คุณสามารถลองวิธีรับประทานแบบนำเนื้อแล่บางลงไปลวกในน้ำซุปที่กำลังเดือดเพียงครู่เดียวที่เรียกว่าชาบูชาบู หรือวิธีปรุงในสไตล์หม้อไฟที่เรียกว่าสุกิยากิ

พื้นที่ใจกลางเมืองโกเบตั้งอยู่ระหว่างภูเขาและท้องทะเล จึงเป็นบริเวณที่รวบรวมโอกาสให้คุณได้รับประสบการณ์ชมทิวทัศน์และทริปแบบไปเช้าเย็นกลับที่ตอบโจทย์ครบทุกด้าน

หากอยากเห็นเมืองนี้ในมุมมองที่แตกต่างออกไป คุณสามารถไต่ระดับขึ้นไปบนโกเบพอร์ททาวเวอร์ หอชมเมืองสูง 108 เมตรที่ตั้งอยู่ในเขตริมน้ำของเมืองระหว่างย่านช้อปปิ้งและความบันเทิงอย่างโกเบฮาร์เบอร์แลนด์ กับสวนเมริเคน ไม่เพียงเท่านั้น คุณยังสามารถรับชมทิวทัศน์ที่ใครหลายคนยกให้เป็นทัศนียภาพยามค่ำคืนที่งดงามที่สุดของญี่ปุ่น โดยใช้บริการกระเช้าลอยฟ้าโกเบ-นุโนะบิกิ ที่จะพาคุณไต่ระดับไปตามทางลาดภูเขารกโคเพื่อไปสัมผัสภาพพาโนรามาที่น่าตื่นตาตื่นใจของแสงสีเมืองตอนกลางคืน

หากต้องการชมเมืองในลักษณะที่แตกต่างจากนี้โดยสิ้นเชิง คุณยังสามารถใช้บริการล่องเรือรับประทานอาหารกลางวันและอาหารค่ำ ที่จะพาคุณเดินทางออกจากท่าเรือนากะทตเตชูโอเพื่อท่องไปในอ่าวได้อีกเช่นกัน

นอกจากนี้ โกเบเองก็ยังขึ้นชื่อเรื่องสวนสุดน่าทึ่งและสถานที่ท่องเที่ยวริมฝั่งยอดนิยม ลองไปเที่ยวชมสวนภูมิทัศน์ญี่ปุ่นตามแบบฉบับดั้งเดิมที่มีชื่อเสียงโด่งดั่งอย่างสวนโซระคุเอ็ง หรือลองพิจารณากิจกรรมไต่เขาจากสถานีชิน-โกเบขึ้นไปที่สวนสมุนไพรโกเบนุโนะบิกิ โดยระหว่างระยะทาง 40 นาทีนี้คุณจะได้แวะชมน้ำตกนุโนะบิคิ อีกด้วย

โกเบคือที่ตั้งของนันคินมาจิ หนึ่งในสามย่านไชน่าทาวน์สำคัญของญี่ปุ่น เพียบพร้อมด้วยร้านรวงที่ขายอาหารริมถนนและชาไข่มุกมากมายให้เลือกซื้อ ใช้เวลาเดินเพียง 5 นาทีจากสถานีเจอาร์โมโตมาชิ

ไม่เพียงเท่านี้ เมืองโกเบยังตั้งอยู่ในจุดที่เหมาะสำหรับทริปแบบไปเช้าเย็นกลับเพื่อเที่ยวชมโอซาก้า และอื่น ๆ อีกมากมาย ไต่ระดับขึ้นไปบนยอดเขาร๊อคโคที่มีความสูง 931 เมตรเพื่อรับชมทัศนียภาพแบบพาโนรามาของทั้งเมืองโกเบและโอซาก้าที่อยู่ใกล้กันได้ในคราวเดียว หรือว่าจะไปเยี่ยมเยียนอะริมะอนเซ็น เมืองน้ำพุร้อนที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นเพื่อแช่ตัวลงในผืนน้ำธรรมชาติที่มีฤทธิ์เยียวยาก็ได้ 

เมื่อปี ค.ศ. 1995 เมืองแห่งนี้ประสบกับภัยพิบัติแผ่นดินไหวใหญ่ฮันชิน หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่าแผ่นดินไหวโกเบ ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของผู้คนกว่า 6,434 ราย ไม่เพียงเท่านั้น จากการรายงานพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 43,000 คน ส่วนบ้านเรือนก็เสียหายไปกว่า 100,000 หลัง นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แผ่นดินไหวขนาด 7.3 แมกนิจูดที่กล่าวถึงและความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ร่วมกันหล่อหลอมอัตลักษณ์ของเมืองโกเบ

โกเบจัดงานกิจกรรมและอนุสรณ์รำลึกเป็นจำนวนมากทั่วทั้งเมืองเพื่อย้ำเตือนผู้ที่มาเยี่ยมเยือนถึงสิ่งที่โกเบได้เผชิญและผ่านพ้นมา รวมถึงวิธีป้องกันภัยทำลายล้างครั้งใหญ่ใด ๆ ก็ตามที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ในปี ค.ศ. 2002 พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์แผ่นดินไหวโกเบ ได้เปิดให้บริการเพื่อรำลึกถึงผู้ที่สูญเสียในเหตุโศกนาฏกรรมดังกล่าว และเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับแผ่นดินไหวและการเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ