ชิบะ คาบสมุทรโบโซ เริงร่าไปกับทะเล, แสงอาทิตย์, หาดทราย และแนวปะการัง ณ สถานที่พักผ่อนอันงดงามแห่งนี้

แค่ข้ามอ่าวมา คุณก็สามารถหนีจากโตเกียวอันแสนวุ่นวายมาสู่แดนสวรรค์ในย่านชนบทได้แล้ว ชมใบไม้ใบหญ้าที่พลิ้วไหวบนเนินเขาแห่งคาบสมุทรเบื้องล่างหรือจะเดินเล่นไปตามแนวชายฝั่งแสนงดงามและวิวของหน้าผาขรุขระบริเวณริมชายฝั่ง

คาบสมุทรโบโซอยู่ทางตอนใต้ของจังหวัดชิบะ เดินทางจากโตเกียวง่าย ๆ ด้วยรถไฟและรถยนต์ และยังสามารถเดินทางจากคาบสมุทรมิอุระ ได้ด้วยเรือข้ามฟากอ่าวโตเกียว

รถไฟ: สายเจอาร์อูจิโบะทอดยาวตามแนวชายฝั่งตะวันตกของคาบสมุทร ส่วนสายเจอาร์โซโตโบะจะวิ่งตามแนวชายฝั่งตะวันออก หากต้องการขึ้นรถไฟทั้งสองนี้ ให้ขึ้นรถไฟสายเคอิโยะจากสถานีโตเกียวมาลงที่สถานีโซกะ ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ถึง 2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับว่าคุณเดินทางไกลแค่ไหน

รถบัส: มีรถไฮเวย์บัสจากสถานีโตเกียวไปลงที่สถานีบางแห่งโดยตรงในโบโซ เช่น ทาเตยามะและคาโมงาวะ

รถยนต์: วิ่งเส้นอควาไลน์จากโตเกียวมาที่คาบสมุทรโบโซ

เรือข้ามฟาก: ขึ้นเรือข้ามฟากจากคูริฮามะซึ่งตั้งอยู่บนคาบสมุทรมิอุระที่อ่าวโตเกียว มาลงที่ท่าคานายะซึ่งตั้งอยู่บนคาบสมุทรโบโซ ใช้เวลาประมาณ 40 นาที

คะโมกาวะ ซีเวิลด์ ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดชิบะ ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของคาบสมุทร และเมื่อมองออกไปจะเห็นมหาสมุทรแปซิฟิกที่สวยงาม ที่นี่มีสัตว์ทะเลกว่า 11,000 ตัว อาทิ วาฬเพชฌฆาต, โลมา, สิงโตทะเล, นาก, วาฬเบลูกา นกกระทุง และเพนกวิน

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้ยังเป็นศูนย์วิจัยและปกป้องสัตว์น้ำซึ่งให้การสนับสนุนการเพาะพันธุ์สัตว์อีกด้วย โดยมีการจัดการแสดงทั่วไปและกิจกรรมให้ความรู้ ซึ่งคุณจะได้สัมผัสกับสัตว์เหล่านี้อย่างใกล้ชิด

ปราสาททาเตยามะ เป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มากที่สุดในชิบะ ปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นช่วงหลังของศตวรรษที่ 16 โดยขุนนางนามว่าซาโตมิ โยชิยาสุ และสร้างใหม่อีกครั้งในช่วงทศวรรษที่ 1980 เพื่อเป็นส่วนต่อขยายของพิพิธภัณฑ์เมืองทาเตยามะ

ตัวปราสาทตั้งอยู่บนเนินเขาสูง 66 เมตรในสวนชิโรยามะ และเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมได้ ด้านในเป็นพื้นที่จัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของชิบะ คุณยังสามารถชมอ่าวโตเกียวได้สุดลูกหูลูกตาที่บริเวณพื้นที่ชมวิวบนชั้นสามของปราสาท

นิทรรศการที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์นี้สะท้อนให้เห็นวิถีชีวิตในโบโซช่วงศตวรรษที่ 16 สิ่งจัดแสดงถาวรได้แก่ที่จัดแสดงดาบ, ชุดเกราะ, เครื่องดินเผา และบ้านจำลองโบราณ รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับวัฒนธรรมและประเพณีความเชื่อชาวบ้านของโบโซ

สวนชิโรยามะที่โอบล้อมตัวปราสาทและพิพิธภัณฑ์ เป็นพื้นที่สีเขียวซึ่งเหมาะสำหรับการชมวิวดอกซากุระแสนสวยในฤดูใบไม้ผลิและดูนกตลอดปี ในสวนมีพืชพรรณหายากและศาลเจ้าเล็ก ๆ ตั้งอยู่ทั่วไป

ปลายสุดของคาบสมุทรโบโซเป็นที่ตั้งของประภาคารโนจิมาซาคิ ซึ่งเป็นหนึ่งใน 100 ประภาคารสำคัญที่สุดของโลกจากการจัดอันดับของ International Association of Lighthouse Authorities ประภาคารแห่งนี้เปิดใช้งานครั้งแรกในปี ค.ศ.1869 และถูกสร้างขึ้นภายใต้สนธิสัญญาทางไมตรีและการค้าระหว่างแองโกลและญี่ปุ่นในช่วงต้นยุคเมจิ และถือเป็นประภาคารแบบตะวันตกแห่งที่สองของญี่ปุ่น

ประภาคารสูง 29 เมตรแห่งนี้ได้รับความเสียหายบางส่วนและต้องมีการปรับปรุงใหม่แต่ยังคงใช้โครงสร้างพื้นฐานดั้งเดิม จากที่นี่ คุณจะมองเห็นเรือที่แล่นเข้าออกอ่าวโตเกียวได้ในมุมกว้าง รวมถึงวิวของมหาสมุทรแปซิฟิกอันกว้างใหญ่ไพศาล

โอคิโนะชิมะ อยู่ที่ปลายด้านใต้สุดของอ่าวทาเตยามะ ด้วยเส้นรอบวงหนึ่งกิโลเมตรทำให้ที่นี่เชื่อมถึงแผ่นดินใหญ่ได้ด้วยหาดทรายยาว 100 เมตร

ทะเลที่นี่สงบนิ่งและใส มีแนวปะการังที่ทอดยาวไปยังจุดเหนือสุดของญี่ปุ่น ด้วยเหตุนี้จึงเหมาะแก่การดำน้ำตื้นเป็นอย่างยิ่ง เกาะแห่งนี้มีต้นไม้และพืชพรรณนานาชนิด เปลือกหอยหน้าตาแปลกตา และแง่งหินรูปร่างประหลาด สันดอนทรายเชื่อมเกาะเป็นอีกจุดชมพระอาทิตย์ตกที่ยอดเยี่ยม

คาบสมุทรโบโซเป็นที่รู้จักกันดีว่ามีดอกไม้สีสันสดใสขึ้นอยู่มากมาย และเส้นทางสายดอกไม้โบโซ ก็คือสถานที่ที่เหมาะแก่การชมดอกไม้ที่สุด ถนนสายนี้มีวิวที่สวยงาม ทอดยาวตามแนวชายฝั่งทางใต้จากชิกูระถึงทาเตยามะ สองฟากถนนจะเป็นไร่และสวนที่มีดอกไม้บานอยู่ตลอดทุกฤดู แต่ดอกไม้ที่น่าสนใจที่สุดต้องยกให้ดอกนาโนฮานะ (เรปซีด) ในฤดูหนาว และดอกเบญจมาศในบึง ตลอดเส้นทางจะได้ชมเมืองเล็ก ๆ ริมทะเลที่มีเสน่ห์แบบโบราณ

บนคาบสมุทรนี้มีสถานที่ให้เที่ยวชมและกิจกรรมมากมายรอคุณอยู่ อย่าลืมแบ่งเวลาไว้เที่ยวแบบเต็มวันหรือลองค้างคืนที่เกาะแห่งนี้ดู