ชิบะ นาริตะ ประตูสู่ประเทศญี่ปุ่นของโลกพร้อมสิ่งต่างๆ อีกมากมายให้คุณค้นหาในบริเวณใกล้เคียง

นาริตะเป็นบ้านของ สนามบินนานาชาตินาริตะ ซึ่งเป็นประตูสู่ประเทศญี่ปุ่น เมืองนาริตะขนาดเล็กแต่คึกคักนี้มอบมุมมองของช่วงอดีตหลังยุคเอเอโดะของประเทศญี่ปุ่น รอบ ๆ นาริตะมีพิพิธภัณฑ์จำนวนมากและมีกิจกรรมสำหรับผู้เยี่ยมชมทุกวัย

นาริตะอยู่ในบริเวณทางตะวันออกเฉียงเหนือของชิบะ เมืองนี้เป็นสถานีแรกหลังจากสนามบินบนเส้นรถไฟท้องถิ่น นอกจากนี้ยังมีรถไฟและรถบัสจากโตเกียว

คุณสามารถเดินทางไปยังนาริตะได้จากโตเกียวโดยใช้รถไฟสายเจอาร์หรือสายเคเซ สำหรับรถไฟสายเจอาร์ ขึ้นรถไฟด่วนสายโซบุไปยังชิบะ จากนั้น เปลี่ยนไปยังเส้นนาริตะและโปรดระวังอย่านั่งเลยสถานีนาริตะไปและไปหยุดที่ป้ายเทอร์มินัลของสนามบิน สถานีเคเซนาริตะนั้นอยู่ไม่ไกลออกไป คุณสามารถเดินทางไปได้โดยการนั่งสายเคเซจากสถานีเคเซอุเอโนะ

ผู้คนส่วนใหญ่รู้จักนาริตะเนื่องจากท่าอากาศยานนานาชาติ แต่ผู้คนเหล่านั้นไม่ทราบว่ามีสิ่งต่าง ๆ มากมายให้ทำในเมืองที่มีขนาดเล็กแต่คึกคักแห่งนี้ เมืองนี้ตั้งอยู่รายล้อมนาริตะโอโมเตะซันโดที่คดเคี้ยวและมีร้านค้าของโบราณ ผู้ขายปลาไหล และวัดนาริตะซังชินโชจิขนาดใหญ่

ในไม่ไกลออกไปนั้น สำรวจเมืองโบราณ ซาวาระ "พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง" ของโบโซ-โนะ-มุระและการจับจ่ายซื้อของที่ยอดเยี่ยมที่ชิซุยพรีเมียมเอาท์เล็ต

สนามบินนานาชาตินาริตะ เป็นสถานที่ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ได้สัมผัสประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก สนามบินนั้นทันสมัย สะดวกและได้รับการออกแบบมาอย่างดีพร้อมทั้งร้านค้าของที่ระลึกจำนวนมากและร้านอาหารที่มอบตัวเลือกอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ทั้งสองเทอร์มินัลนั้นมีชั้นดาดฟ้าเพื่อให้ชมเครื่องบิน นอกจากนี้ยังมีชัทเทิลบัสเพื่อนำนักท่องเที่ยวไปยังเมืองใกล้ ๆ และชิซุยพรีเมียมเอาท์เล็ต

ในเบื้องหน้าของสถานีนาริตะนั้นคือนาริตะโอโมเตะซันโดซึ่งเป็นถนนที่คดเคี้ยวไปยัง วัดนาริตะซังชินโชจิ เดินตามเส้นทางนั้นและพบกับร้านค้าขนาดเล็กที่ขายขนมขบเคี้ยวแบบดั้งเดิม วัตถุ และงานฝีมือซึ่งเป็นของที่ระลึกที่ยอดเยี่ยม ร้านอาหารและผู้ขายบนท้องถนนนำเสนอปลาไหลปิ้งสดซึ่งเป็นหนึ่งในอาหารพิเศษของนาริตะ ลองของหวานในท้องถิ่น เช่น โยคัง หรือคุกกี้ที่ทำจากถั่วซึ่งเป็นอีกหนึ่งอาหารพิเศษของบริเวณนี้

สถานที่ท่องเที่ยวหลักที่พลาดไม่ได้ที่นาริตะนั่นคือวัดนาริตะซังชินโชจิซึ่งเป็นบริเวณวัดขนาดใหญ่สร้างขึ้นในปี ค.ศ.940 และสวนสาธารณะ โครงสร้างและรูปปั้นอันตระการตาของวัดนี้มีประวัติอันยาวนานและดึงดูดผู้นับถือและนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี

วัดนาริตะซังชินโชจิ ดึงดูดนักท่องเที่ยวราว 10 ล้านคนต่อปี มีการจัดพิธีต่าง ๆ ตลอดทั้งปี และพิธีที่ใหญ่ที่สุดคือการเฉลิมฉลองปีใหม่ซึ่งดึงดูดผู้คนกว่าสามล้านคน กิจกรรมปีใหม่ประกอบไปด้วยพิธีบูชาไฟโกมะซึ่งเป็นการอวยพรปีใหม่ผ่านทางเปลวไฟพิธีขนาดใหญ่

สวนสาธารณะที่ตั้งอยู่เบื้องหลังวัดคือสวนนาริตะซัง ซึ่งเป็นสวนสาธารณะขนาด 165,000 ตารางเมตรพร้อมกับสระน้ำสามแห่งและรายล้อมด้วยต้นไม้และดอกไม้ที่มีเสน่ห์ดึงดูด เด็ก ๆ จะเพลิดเพลินไปกับการให้อาหารปลาคาร์พหลากสีในสระน้ำ

เมืองเล็กๆ ชื่อซาวาระ ในเมืองคาโทริทางตะวันออกเฉียงเหนือของนาริตะ ซึ่งเป็นที่รู้จักนาม"โคะเอโดะ" หมายถึงเอโดะขนาดเล็ก เมืองนี้รักษาภูมิทัศน์เมืองของประเทศญี่ปุ่นในยุคเอโดะ ซึ่งเป็นช่วงที่เมืองนี้เจริญรุ่งเรืองในฐานะศูนย์กลางการขนส่งสำหรับการขนส่งข้าวสาร บางธุรกิจจากยุคนั้นยังคงดำเนินธุรกิจและเจริญรุ่งเรืองจนถึงทุกวันนี้

นอกเหนือจากทิวทัศน์ที่สำคัญในประวัติศาสตร์แล้ว ซาวาระ ยังมีสวนพฤกษศาสตร์ทางน้ำของซุยโกะซาวาระอีกด้วย โดยเป็นส่วนหนึ่งของสวนสาธารณะซูอิโงะ-สึคุบะกึ่งแห่งชาติ สวนสาธารณะนี้มีดอกไอริสจำนวน 1.5 ล้านดอกที่เบ่งบานในช่วงต้นเดือนมิถุนายนและเป็นสวนดอกไอริสที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย

อีกหนึ่งสถานที่ในนาริตะที่มีบรรยากาศของประเทศญี่ปุ่นโบราณคือโบโซ-โนะ-มุระของจังหวัดชิบะในจังหวัดชิบะซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่เลียนแบบโลกของซามูไร ชาวนา และพ่อค้าซึ่งเจริญรุ่งเรืองในสถานที่นี้เมื่อยุคเอโดะเปลี่ยนผ่านเป็นยุคเมจิในช่วงต้นของศตวรรษที่ 20

โบโซคือชื่อเดิมของชิบะ คุณสามารถรับประสบการณ์งานฝีมือแบบดั้งเดิม เทศกาลขนาดใหญ่ในแต่ละฤดูกาล และเยี่ยมชมสถานโบราณคดีซึ่งมีวัตถุจากยุคโจมง (ช่วงก่อนคริสตกาล 13,000-300 ปี)

ซะกุระเป็นอีกเมืองหนึ่งที่อยู่ใกล้กับนาริตะซึ่งมอบบรรยากาศของประเทศญี่ปุ่นในอดีต เมืองนี้มีสถานที่อยู่อาศัยของซามูไรที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น

ซะกุระมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่สำคัญแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ได้แก่พิพิธภัณฑ์ศิลปะคาวามูระ เมมโมเรียล ดีไอซี พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีผลงานจำนวนมากจากศิลปินจากประเทศญี่ปุ่นและทั่วโลก