อิบะระกิ มิโตะ เมืองหลวงของอิบะระกิ: ศิลปะ สวน และกิจกรรมสำหรับคนทุกวัย
เมืองหลวงของอิบารากิ: ศิลปะ สวน และกิจกรรมสำหรับคนทุกวัย
มิโตะมีสวนที่ดีที่สุดสามแห่งในญี่ปุ่นตลอดจนพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ที่น่าประทับใจหนึ่งแห่ง เป็นจุดกำเนิดตระกูลมิโตะที่สำคัญและทรงอิทธิพลในยุคเอโดะของญี่ปุ่น ออกเที่ยวนอกตัวเมืองเพื่อเล่นบันจี้จัมพ์ เดินเขา และแค้มปิ้ง
พลาดไม่ได้
- สวนไคระคุเอ็งถือเป็นหนึ่งในสามสวนที่มีทิวทัศน์สวยงามที่สุดของญี่ปุ่น
- งานศิลป์ทันสมัยในพิพิธภัณฑ์ศิลปะนำสมัยที่อิบารากิ
- บันจี้จัมพ์จากสะพานแขวนริวจิน
วิธีการเดินทาง
คุณสามารถเดินทางไปมิโตะได้ง่ายๆ โดยรถไฟด่วนพิเศษจากสถานีโตเกียวหรือสถานีอุเอโนะ
จากสถานีมิโตะให้ขึ้นรถไฟด่วนพิเศษของบริษัทฮิตาชิสายโจบัง ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 75 นาที หากคุณมาจากสนามบินนาริตะโดยตรง จะมีรถบัสของบริษัทโรสไลเนอร์ไปยังมิโตะโดยตรง จากสถานีมิโตะจะมีรถนำเที่ยวตัวเมืองมากมายที่คุณสามารถเดินหรือนั่งรถบัสไปขึ้นได้
พักผ่อนหย่อนใจที่หนึ่งในสวนยอดนิยมของญี่ปุ่น
สวนไคระคุเอ็ง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของมิโตะ ซึ่งเป็นสวนสาธารณะที่ออกแบบในศตวรรษที่ 19 และมีต้นพลัมมากกว่า 3,000 ต้น ช่วงที่ดีที่สุดในการเข้าชมดอกบ๊วยเบ่งบานคือปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นเดือนมีนาคมในเทศกาลชมดอกบ๊วยมิโตะ โดยสวนจะปกคลุมไปด้วยสีชมพู ขาว และแดง และผู้คนมาถ่ายภาพเพื่อบอกถึงสัญญาณของฤดูใบไม้ผลิ

ศิลปะ วัฒนธรรม และเทคโนโลยีในมิโตะ
พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งอิบารากิอยู่ใกล้กับริมฝั่งทะเลสาบเซ็นบะอันสวยงาม ซึ่งสะสมผลงานของศิลปินชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติหลายพันชิ้น จะมีการจัดนิทรรศการและงานพิเศษต่างๆ ตลอดปี เช่น เวิร์คช็อป และคอนเสิร์ต พิพิธภัณฑ์อีกแห่งหนึ่งที่คุณสามารถเข้าชมคือพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ประจำจังหวัดอิบารากิ ซึ่งจะแสดงผลงานศิลปะและงานฝีมือที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์จนถึงยุคสมัยใหม่



ชมสวนเกอิจูสึโนะโมริ
หากคุณสนใจงานหัตถกรรมพื้นบ้านและศิลปะจากพลาสติกสมัยใหม่ อย่าพลาดสวนสาธารณะคาซามะ เกจุทสึโนะโมริ (หรือเรียกกันว่าเนินเขาหัตถกรรมหรือ Craft Hills ในภาษาอังกฤษ) ในเมืองคาซามะ ซึ่งสามารถขึ้นรถไฟสายเจอาร์มิโตะใช้เวลา 25 นาที สวนสาธารณะแห่งนี้มีศูนย์แสดงคอนเสิร์ตกลางแจ้ง “ป่าเซรามิก” และการแสดงงานศิลปะ พิพิธภัณฑ์ศิลปะเซรามิกตั้งอยู่ใจกลางสวนสาธารณะที่ห้อมล้อมไปด้วยดอกไม้และสีอันเขียวชอุ่ม
ก้าวกระโดดแห่งศรัทธา
ประมาณหนึ่งชั่วโมงโดยทางรถยนต์ออกนอกมิโตะ คุณจะเห็นสะพานแขวนริวจิน ทอดยาวเหนือทะเลสาบริวจิน ถือเป็นงานวิศวกรรมยุคใหม่ที่ออกแบบให้สามารถรองรับได้ถึง 3,500 คน ด้วยความสูงถึง 100 เมตร ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นสำหรับการกระโดดบันจี้จัมพ์ สำหรับคนที่กล้าน้อยหน่อยก็ควรเดินบนสะพาน ถือเป็นวิวที่คุ้มค่ามากๆ ของทะเลสาบริวจินและหุบเขาด้านล่าง


สิ่งที่หลงเหลือจากยุคเอโดะในญี่ปุ่น
สำหรับข้อมูลเชิงประวัติศาสตร์เกี่ยวกับเมืองนี้ อย่าลืมเข้าชมปราสาทมิโตะเพื่อศึกษาย้อนกลับไปยังศตวรรษที่ 13 สมัยที่เป็นป้อมปราการด่านสำคัญ ในยุคเอโดะ (1603-1867) ปราสาทนี้ถูกควบคุมโดยโทกุกาวะ โยริฟูสะ ซึ่งเป็นต้นตระกูลมิโตะที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนและทำให้ระบบโชกุนของโทกุกาวะมีความแข็งแกร่งในยุคเอโดะ (ในปัจจุบันคือโตเกียว) ปราสาทนี้ได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงในช่วงสงครามและภัยธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม การบูรณะประตูโอเทมงแล้วเสร็จในปี 2020 และกองทหารรักษาการณ์จัตุรัสนิโนะมารุได้รับการบูรณะในปี 2021
เข้าชมหนึ่งในศาลเจ้าอินาริที่สำคัญที่สุดของญี่ปุ่น
ศาลเจ้าคาซามะอินาริจิงจะนั้นอุทิศให้เทพอินาริ ผู้เป็นเทพแห่งอุตสาหกรรม ดวงชะตา โชคลาภ และความเจริญรุ่งเรือง และมีความเก่าแก่มากกว่าปราสาทมิโตะอีกด้วย ศาลเจ้าอันยิ่งใหญ่แห่งนี้มีประตูขนาดมหึมาและทางเดินที่สวยงาม เชื่อกันว่าสร้างขึ้นราวกลางศตวรรษที่เจ็ด ชื่มชมงานแกะสลักอันงดงามของมังกร ดอกโบตั๋น และสิงโตบนกำแพงในระยะใกล้

ดอกไม้ในศาลเจ้าคาซามะอินาริจิงจะ


ออกนอกตัวเมือง
ย่านโอกูกูจิซึ่งอยู่ทางด้านเหนือสุดของจังหวัดอิบารากิ เป็นย่านที่เหมาะแก่การตั้งแคมป์ เดินเขา และตกปลาอย่างมาก จากยอดเขายามิโซะที่ความสูง 1,022 เมตร คุณจะเห็นทิวทิศน์ของจังหวัดโทชิงิและฟุคุชิมะ คุณสามารถใช้ทางเดินเขาเพื่อขึ้นไปชมน้ำตก หรือเดินตามช่องเขาต่างๆ ในย่านนี้จะมีสปาและรีสอร์ท ซึ่งบางแห่งจะให้บริการน้ำพุร้อนด้วย หากต้องการเดินทางจากสถานีมิโตะไปยังโอกูกูจิ ให้ขึ้นรถไฟสายเจอาร์ซูอิงุงไปลงสถานีฟุคุโรดะหรือสถานีฮิตาชิไดโกะ โดยจะใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง 20 นาที