โตเกียว เรียวโงะกุ แหล่งกีฬาซูโม่แห่งนี้ยังมีชื่อเสียงด้านเสน่ห์แบบย้อนยุคอีกด้วย

เรียวโงะกุ เมืองข้างเคียงของโตเกียวแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันดีจากความเกี่ยวข้องกับกีฬาซูโม่อันเป็นกีฬาแห่งชาติของญี่ปุ่น และก็ยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ สวน และถนนสายช้อปปิ้งแบบดั้งเดิมที่ดีเยี่ยมหลายแห่ง

สถานีเรียวโงะกุตั้งอยู่ที่รถไฟสายโทเอ โออีโดะ และรถไฟเจอาร์สายโซบุ และสามารถเดินทางไปได้อย่างง่ายดายจากหลายๆ สถานที่ในเมืองหลวงแห่งนี้

ใช้เวลา 13 นาทีจากสถานีโตเกียว (รวมทั้งเปลี่ยนสายที่อาคิฮาบาระ) และ 22 นาทีจากสถานีชินจูกุนิชิกุจิ

เรียวโงะกุมีความหมายเดียวกันกับซูโม่ สนามซูโม่ เรียวโงะกุ โคคุงิคัง ที่โอ่โถงตั้งตระหง่านเหนือสถานที่แห่งนี้ และบริเวณข้างเคียงก็เต็มไปด้วยโรงซูโม่และร้านอาหารต่างๆ ซึ่งเสิร์ฟชันโกะ นาเบะ สตูว์แสนอร่อย อิ่มท้อง และดีต่อสุขภาพอย่างน่าประหลาด ซึ่งเป็นหนึ่งในอาหารหลักของเหล่านักซูโม่

เมื่อคุณสำรวจพื้นที่ ให้คอยมองหานักซูโม่ตัวใหญ่ ซึ่งคุณอาจมองเห็นพวกเขาเดินไปทั่วในชุดกิโมโนและทรงผมแบบมวยผมตามแบบดั้งเดิม

โคคุงิคัง จัดการแข่งขันระดับชาติสามครั้งต่อปี คือในเดือนมกราคม พฤษภาคม และกันยายน ซึ่งนำพาแฟนๆ หลายพันคนและสร้างชีวิตชีวาให้แก่บริเวณโดยรอบทั้งหมดนี้ด้วยความตื่นเต้นและการรอคอย บัตรเข้าชมมักจะขายหมดเร็ว ดังนั้นให้คอยติดตามเว็บไซต์อย่างเป็นทางการหากคุณวางแผนที่จะเดินทางไปชม

สนามกีฬาประกอบไปด้วยพิพิธภัณฑ์ซูโม่ ซึ่งเข้าชมฟรีในวันที่ไม่มีการแข่งขัน และสิ่งจัดแสดงพิเศษประกอบด้วยคอลเลคชันสิ่งของต่างๆ ที่เกี่ยวกับซูโม่อย่างหลากหลาย ซึ่งจะเปลี่ยนหกครั้งต่อปี

พิพิธภัณฑ์เอโดะโตเกียว ซึ่งเดินมาจากสนามกีฬาไม่ไกลนัก เป็นสถานที่ที่ดีเยี่ยมในการเรียนรู้อดีตของเมืองหลวงของญี่ปุ่น ภาพสามมิติที่มีรายละเอียดมากมายอย่างเหลือเชื่อ อาคารที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ และศิลปะยอดนิยมจะทำให้คุณได้สัมผัสชีวิตประจำวันที่แท้จริงของชาวเอโดะ

ใกล้กันนั้นคุณจะพบพิพิธภัณฑ์สุมิดะโฮคุไซ ซึ่งอุทิศให้แก่ชีวิตและศิลปะของศิลปินภาพพิมพ์บนแผ่นไม้ยูคิโยะเอะที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น

พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยโตเกียว เป็นเสมือนเครื่องทำความสะอาดจานสีที่สมบูรณ์แบบหลังจากที่ดื่มด่ำกับศิลปะและวัฒนธรรมแบบประเพณีดั้งเดิมอย่างเต็มที่ ด้วยการรวบรวมผลงานที่หลากหลายซึ่งสร้างโดยศิลปินญี่ปุ่นและชาวต่างชาติมากมายจากยุคปีค.ศ 1945 จนถึงปัจจุบัน

ศาลเจ้าคาเมโดะเท็นจิน ซึ่งอุทิศให้แก่เทพแห่งนักวิชาการ มีความโดดเด่นท่ามกลางฤดูดอกบ๊วยและวิสเทอเรียที่ผลิบานในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม และเมษายน-พฤษภาคม แวะพักเพื่อชื่นชมสะพานสีแดงที่สง่างาม และอาจสวดมนต์ภาวนาเพื่อให้สมองปลอดโปร่งในขณะที่คุณอยู่ที่นั่น

เรียวโงะกุอวดโฉมสวนแบบญี่ปุ่นสมัยศตวรรษที่ 19 แสนงามสองแห่ง ซึ่งจะให้สถานที่นั่งและพักผ่อนระหว่างการเยี่ยมชมสถานที่ได้อย่างน่ารื่นรมย์ สวนคิโยสุมิ เต็มไปด้วยก้อนหินและภูเขาไฟฟูจิในรูปแบบจำลองขนาดเล็ก ในขณะที่สวนคิวยาซุดะเทเอ็นเป็นที่รู้จักจากสระน้ำรูปทรงพิเศษ ซึ่งมีรูปทรงเหมือนอักษรภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่าหัวใจ