คุมะโมโตะ อะโซะและพื้นที่โดยรอบ เข้าไปในใจกลาง “ดินแดนแห่งไฟ” ของคุมะโมโตะ

ในพื้นที่ที่ห่างไกลจากแสงสีเสียงของอาคิฮาบาระ และฝูงคนที่แน่นขนัดของฮาราจุกุ หลุมปากปล่องภูเขาไฟอะโซะช่วยให้นักท่องเที่ยวต่างรู้สึกสงบและผ่อนคลาย ออกเดินทางพร้อมชมทิวทัศน์ เดินเขาที่น่าตื่นเต้น และแช่ตัวในบ่อน้ำพุร้อนภูเขาไฟที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติซึ่งอยู่ห่างไกล

อะโซะอาจไม่มีรางรถไฟหัวกระสุน แต่นักเดินทางที่มีใบอนุญาตขับขี่ระหว่างประเทศสามารถเช่ารถในราคาประหยัดได้ สถานที่ที่วิเศษแห่งนี้ควรค่าแก่การเยี่ยมชม โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการเยี่ยมชมจุดที่หาดูได้ยากในประเทศญี่ปุ่น

วิธีที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมทุกสถานที่ในอะโซะคือการใช้รถยนต์ เนื่องจากรถบัสสาธารณะมีเส้นทางจำกัด และสถานีรถไฟก็ไม่ได้อยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง

หากคุณเดินทางด้วยรถไฟหัวกระสุน ให้เดินทางไปสถานีคุมะโมโตะ หากคุณเดินทางด้วยรถไฟหัวกระสุน ให้เดินทางไปสถานีคุมะโมโตะ จากนั้น คุณสามารถเช่ารถหรือเดินทางด้วยรถไฟท้องถิ่นสายหลักโฮฮิซึ่งใช้เวลา 90 นาที

อุทยานแห่งชาติอะโซะคุจูเป็นหนึ่งในอุทยานแห่งชาติแรกของญี่ปุ่น ซึ่งยังเป็นที่ที่เหมาะสำหรับการเดินเขา การเล่นกีฬากลางแจ้ง หรือแช่บ่อน้ำพุร้อน ภูเขาอะโซะตั้งอยู่กลางอุทยาน และเป็นภูเขาที่มีหลุมปากปล่องภูเขาไฟยุบตัวลงและยังเป็นพื้นที่ภูเขาไฟคุกรุ่นที่สุดในญี่ปุ่น ถึงแม้โดยปกติภูเขาไฟนี้จะพ่นแค่ควันเสียส่วนใหญ่และฝุ่นเป็นบางครั้ง แต่มีหลายครั้งที่รอบ ๆ ใจกลางปากปล่องจะถูกห้ามเข้าไปชมและคุณก็ควรตรวจสอบก่อนการเดินทาง

อย่างไรก็ตามเมื่อภูเขาไฟสงบลง คุณสามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ถึงตรงขอบภูเขาไฟที่เรียกว่านากาดาเกะ สามารถเดินทางไปยังปากปล่องภูเขาไฟนะกะดาเกะได้โดยรถยนต์หรือชัตเตอร์บัส

ประเทศญี่ปุ่นอาจเป็นประเทศที่ให้ความรู้สึกแออัดเนื่องด้วยเมืองใหญ่ที่มีประชากรแน่นหนา ดังนั้น สถานที่ในญี่ปุ่นที่มีพื้นที่กว้างขวางจึงมักเป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่ต้องการหนีออกจากตัวเมือง ทุ่งราบที่อยู่ภายในบริเวณปากปล่องภูเขาไฟของอะโซะมักเป็นสถานที่โปรดของกวีและศิลปิน รวมถึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญในปัจจุบันด้วย ตั้งอยู่ระหว่างภูเขาคิชิมะ และภูเขาเอโบชิ มีสถานที่ที่รู้จักกันในนามคูซะเซ็นริงาฮามะซึ่งเป็นทุ่งราบที่โด่งดัง

บึงน้ำขนาดใหญ่ของทุ่งหญ้าสะท้อนภาพท้องฟ้าที่กว้างสุดลูกหูลูกตา ม้าและวัวต่างเล็มหญ้าในทุ่งเลี้ยงสัตว์อย่างเพลิดเพลิน ทำให้สถานที่แห่งนี้มีบรรยากาศผ่อนคลาย หากคุณชื่นชอบจุดชมวิวบนภูเขาแต่ไม่ต้องการเดินเขา ที่คุณควรจะมาที่ทุ่งราบคูซะเซ็นริงาฮามะ เพราะคุณจะมองเห็นภูเขาต่างๆของอะโซะจากตีนเขา

นอกจากนั้น ในระหว่างเดือนมีนาคมถึงธันวาคมยังมีบริการม้าให้เช่าขี่ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับพิพิธภัณฑ์ภูเขาไฟอะโซะ พิพิธภัณฑ์จะมีข้อมูลเกี่ยวกับภูเขาไฟและธรรมชาติรอบ ๆ ในวันที่ห้ามเข้าไปยังปากปล่องภูเขาไฟ คุณสามารถเรียนรู้เรื่องราวของปากปล่องภูเขาไฟได้จากวิดีโอสั้นๆระยะเวลา 15 นาที

ศาลเจ้าอะโซะเป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นซึ่งว่ากันว่าก่อตั้งขึ้นในปี 281 ก่อนคริสตกาล หลังจากเป็นสถานที่สำคัญของนักแสวงบุญและนักท่องเที่ยวมานานหลายปี ศาลเจ้าได้รับความเสียหายใหญ่ในเหตุการณ์แผ่นดินไหวคุมะโมโตะปี ค.ศ. 2016 ซึ่งเกิดขึ้นครั้งแรกในรอบ 130 ปีในภูมิภาคนี้ ประตูที่งดงามของศาลเจ้าซึ่งเป็นมรดกของชาติและหอสักการะได้รับความเสียหายอย่างหนัก  

อย่างไรก็ตาม แม้ในสภาพที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สถานที่แห่งนี้ก็ยังคงคุ้มค่าแก่การเยี่ยมชมหากคุณอยู่ในละแวกนั้น ศาลเจ้ายังคงมีคนเข้าออกอยู่เป็นประจำ และคุณยังสามารถเห็นสิ่งปลูกสร้างขณะที่กำลังอยู่ในช่วงก่อสร้างได้ ถนนการค้าที่ทรงเสน่ห์หลังศาลเจ้าไม่ได้รับความเสียหายใด ๆ และก็ยังคงเปิดให้บริการ

บริเวณอะโซะอุจิโนะมาคิอนเซ็นเป็นแหล่งที่เหมาะที่คุณจะหาบ่อน้ำร้อนโปรดที่ใหม่ ด้วยโรงอาบน้ำหลายแห่งที่นี่ ใช้แหล่งน้ำพุร้อนใต้ดินสายเดียวกัน ค่าเข้าโรงอาบน้ำอยู่ที่ระหว่าง 100 ถึง 1,000 เยนซึ่งทำให้คุณสามารถเข้าอาบน้ำในอนเซ็นหลากหลายชนิดได้ในวันเดียวได้โดยเสียเงินไม่มาก

หนึ่งในจุดขายของบ่อน้ำร้อนอุจิโนะมากิคือวิวทิวทัศน์ที่น่าประทับใจซึ่งคุณสามารถชื่นชมขณะแช่น้ำได้ วิวที่ห้อมล้อมไปด้วยภูเขาน้อยใหญ่นี้ทำให้รู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก น้ำจะแตกต่างกันไปตามโรงอาบน้ำเล็กน้อย โดยแต่ละแห่งจะควบคุมอุณหภูมิในระดับที่แตกต่างกันไป ในน้ำของอุจิโนะมากิจะมีกรดเมตาซิลิซิกในปริมาณเล็กน้อยซึ่งว่ากันว่าช่วยทำให้รู้สึกดียิ่งขึ้นขณะแช่น้ำ

มีบ่อน้ำพุร้อนมากมาย ทั้งในและรอบ ๆ เมืองอะโซะ ถ้าคุณอยากแช่น้ำก่อนที่คุณจะออกจากพื้นที่ หมู่บ้านทารุตามะอนเซ็นและจิโกกุอนเซ็น (บ่อนำพุร้อนนรก) เป็นที่ที่ควรไปเยี่ยมชม

ให้ขับบนถนนมิลค์โรดเพื่อชมทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดของอะโซะ เนินเขา ทุ่งหญ้า ภูเขาสูง มิลค์โรดก็ยังคงดูงดงามอยู่เสมอไม่ว่าจะเป็นในช่วงเวลาใดของปี ชื่อนี้ได้มาจากฟาร์มโคนมที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในภูมิภาคซึ่งเป็นผู้ผลิตนม ชีส และไอศกรีมที่อร่อยที่สุดในประเทศญี่ปุ่น

ในอุทยานแห่งชาติอะโซะคุจูจะมีจุดชมวิว น้ำตก ทุ่งกุหลาบพันปี และสถานที่จัดแสดงปรากฎการณ์ทางธรณี การตั้งแคมป์และกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น การปั่นจักรยานและการเล่นเครื่องร่อนเป็นแค่ตัวอย่างเท่านั้น ดังนั้น โปรดสอบถามศูนย์บริการข้อมูลการเดินทางในสถานีเจอาร์อะโซะเพื่อดูเวลาให้บริการของกิจกรรมต่าง ๆ ในเดือนที่มีอากาศหนาวถนนที่คดเคี้ยวมักปกคลุมไปด้วยหิมะและน้ำแข็ง ดังนั้น คุณควรแต่งชุดกันหนาวและเตรียมรับมือหากมีการปิดถนน