โออิตะ คาบสมุทรคุนิซาคิ เจ้าศาลและวัดศักดิ์สิทธิ์ ถ้ำที่เต็มไปด้วยพระพุทธรูป และเมืองที่คงความดั้งเดิมไว้ได้
เจ้าศาลและวัดศักดิ์สิทธิ์ ถ้ำที่เต็มไปด้วยพระพุทธรูป และเมืองที่คงความดั้งเดิมไว้ได้
คาบสมุทรคุนิซาคิตั้งอยู่บนแผ่นดินเบื้องหลังฝั่งทะเลในตอนเหนือของจังหวัดโออิตะ ซึ่งที่นี่มีวัดและเจ้าศาลเก่าแก่จำนวนมาก รวมถึงมีพระพุทธรูปมากกว่าพันองค์ประดิษฐานอยู่ในถ้ำ
นอกจากวัดและศาลเจ้าแล้ว ที่นี่ยังมีเมืองที่สร้างขึ้นโดยใช้รูปแบบยุค 1950 ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศญี่ปุ่นกำลังสร้างตัวขึ้นมาหลังสงครามสงบ
พลาดไม่ได้
- ศาลเจ้าอุสะจิงกู ศาลของเทพผู้ปกปักษ์ราชวงศ์ญี่ปุ่น
- ย้อนเวลากลับไปยังญี่ปุ่นยุคโบราณที่โชวะโนะมาจิ
- วัดฟูกิจิที่ได้รับการยกย่องให้เป็นสมบัติของชาติ
วิธีการเดินทาง
สถานีหลัก ๆ บนคาบสมุทรก็คือสถานอูซาและสถานีคิทสึคิซึ่งสามารถเดินทางไปถึงได้ด้วยรถบัสและรถไฟ โดยทั้งสองสถานีสามารถใช้เจแปนเรลพาสได้ หากต้องการสำรวจด้านในของคาบสมุทร คุณต้องเช่ารถยนต์
เที่ยวบินที่บินจากสนามบินฮาเนะดะ ในโตเกียวไปยังสนามบินโออิตะจะใช้เวลาน้อยกว่าสองชั่วโมง และหากเดินทางจากสนามบินอิตะมิในโอซาก้าจะใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง จากสนามบินโออิตะ คุณสามารถขึ้นลิมูซีนบัสไปยังสถานีฮิจิ และเปลี่ยนรถไปยังสายนิปโปะเพื่อทางเดินไปยังสถานีอุสะและคิทสึกิ
จากสถานีโออิตะ ให้ขึ้นรถไฟด่วนพิเศษสายโซนิคนิชิรินหรือสายนิปโปะไปยังสถานีคิทสึคิ (35 นาที) หรือขึ้นรถไฟด่วนพิเศษสายโซนิคนิชิรินไปยังสถานีอุสะ (38 นาที)
ค้นพบถ้ำต่าง ๆ บนภูเขา รากัง
ถ้ำต่าง ๆ ที่อยู่ใกล้กับวัดรากันจิเป็นสถานที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปหินกว่า 3,700 องค์ และมีรูปปั้นรากังซึ่งเป็นสาวกของพระพุทธเจ้าอีก 500 องค์ เดินไปรอบ ๆ เพื่อสัมผัสความสงบ
หลังจากชมทิวทัศน์แบบพาโนรามาของยอดเขาและหุบเขาโดยรอบจากจุดสูงสุดของวัดรากันจิแล้ว ก็เข้าไปเยี่ยมชมอุโมงค์อะโอโนะโดมงที่อยู่ใกล้ ๆ กัน ที่นี่สร้างขึ้นโดยพระสงฆ์ที่ต้องการเส้นทางที่ปลอดภัยขึ้นสำหรับการเดินทางผ่านเขาต่าง ๆ ในคิวชูไปยังวัด ในตำนานได้กล่าวว่าพระรูปนี้ใช้เวลา 30 ปีในการขุดอุโมงค์ด้วยมือ
เยี่ยมชมศาลเจ้าอุสะจิงกู ศาลเจ้าฮะชิมังกูที่สำคัญที่สุด
ศาลเจ้าฮะชิมังเป็นศาลเจ้าที่มีจำนวนมากที่สุดเป็นอันดับสองในญี่ปุ่นรองจากศาลเจ้าอินาริ ศาลเจ้าฮะชิมังต่าง ๆ เป็นสถานที่บูชาจักรพรรดิโอจินที่ยิ่งใหญ่ซึ่งได้รับการเคารพบูชาในฐานะฮะชิมังชินหรือเทพเจ้าแห่งนักรบ
ศาลเจ้าอุสะจิงกู ที่อยู่ในเมืองที่มีชื่อเดียวกันนี้ เป็นศาลเจ้าแห่งที่แรกที่มีการบูชาเทพเจ้าองค์นี้ จึงทำให้ที่นเปรียบเสมือนผู้นำศาลเจ้าในบรรดาศาลเจ้าฮะชิมังกูทั้งหมด ศาลเจ้าแห่งนี้มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับราชวงศ์อิมพีเรียลของญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่ที่ศาลเจ้าฮะชิมังกูในอูซามีบทบาทสำคัญอย่างมากในการสร้างพระพุทธรูปยักษ์ที่โทไดจิ ในนารา
ที่ดินกว้างขวางแห่งนี้กินพื้นที่ประมาณ 150,000 ตารางเมตร เข้าไปยังศาลเจ้าจากหน้าด้านเพื่อเดินผ่านสระฮัทสึซาวะอันงดงาม
ความแตกต่างของกำแพงดินเผาสีขาว เสาสีแดง รวมถึงการเน้นสีดำและสีทองในศาลเจ้าอูซาดูสวยงามเป็นอย่างมาก พิพิธภัณฑ์ที่อยู่ทางฝั่งขวาของทางเข้าศาลเจ้าก็ควรค่าแก่การเข้าชม
เยี่ยมชมฟูกิจิ หนึ่งในวัดพุทธนิกายสุขาวดีสามแห่งของญี่ปุ่น
วัดฟูกิจิสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 8 ตั้งอยู่ในเมืองบุงโงทากาดะ และเป็นอาคารไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในคิวชู อาคารหลักของวัดเป็นสมบัติของชาติ และพระพุทธรูปไม้ปางสมาธิที่นี่ก็เป็นวัตถุทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่น
วัดแห่งนี้เป็นสถานที่ที่เหมาะสมแก่การผ่อนคลายและการเข้าฌานเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากล้อมรอบด้วยป่าและมีบรรยากาศสงบ ลองหัดนั่งสมาธิแบบซาเซนสักชั่วโมงเพื่อเข้าถึงจิตวิญญาณของวัดแห่งนี้
ภาพ 3 มิติของญี่ปุ่นยุคหลังสงครามที่ชวนให้นึกถึงความหลัง
ในบุงโงทากาดะมีเมืองโชวะโนะมาจิที่จำลองมาจากเมืองญี่ปุ่นดั้งเดิมในยุค 1950 ซึ่งเป็นแหล่งยอดนิยมสำหรับทั้งนักท่องเที่ยวและชาวบ้าน ร้านค้าแบบเก่าที่ติดป้ายโฆษณาเก่า ๆ ที่ชวนให้นึกถึงความหลังทั้งหลายนั้นมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิก ขนม ของเล่น และสิ่งของอื่น ๆ จากยุคนั้นขายอยู่
เดินไปตามถนนอย่างสบาย ๆ หรือดูแผนที่ของพื้นที่บริเวณใกล้เคียงเพื่อค้นหาความงามอื่น ๆ ที่ซ่อนอยู่ ที่นี่มีพิพิธภัณฑ์หลายแหล่งน่าเยี่ยมชม เพราะมีของการนำเล่นและวัตถุต่าง ๆ จากยุคโชวะมาจัดแสดง
* ข้อมูลต่างๆ บนเวบไซต์ อาจมีการเปลี่ยนแปลงสืบเนื่องจากสถานการณ์ COVID-19