ไข่มุก เดินเขา กระโดดน้ำตก และปราสาท
อุวะจิมะมีทะเลที่สวยงามและมีความสมบูรณ์ถือเป็นแหล่งผลิตไข่มุกที่สำคัญของญี่ปุ่น บนภูเขาจะมีช่องเขาและหุบเขาลึกที่สวยงามมากมาย ซึ่งบางแห่งยังคงทิวทัศน์เมืองที่มีความสมบูรณ์สวยงามอยู่ อย่าพลาดชมหนึ่งใน 12 ปราสาทในญี่ปุ่นที่ยังคงความสมบูรณ์
พลาดไม่ได้
- นาข้าวขั้นบันไดสุดทึ่งในยูสุมิซูกาอุระ
- มุ่งหน้าสู่พื้นที่สำคัญเพื่อชมช่องเขา ประการัง และเมืองแบบญี่ปุ่นอันแสนมีเสน่ห์
วิธีการเดินทาง
คุณสามารถไปเที่ยวอุวะจิมะได้จากทุกแห่งบนเกาะชิโกะคุ หากคุณวางแผนมาจากโตเกียวหรือโอซาก้า คุณสามารถไปเที่ยวอุวะจิมะร่วมกับจุดท่องเที่ยวอื่นๆ ของชิโกะคุได้ แต่อาจต้องเดินทางนานขึ้นเล็กน้อย
จากโตเกียวหรือโอซาก้า คุณสามารถเดินทางไปอุวะจิมะได้ด้วยรถไฟชินคังเซ็นลงสถานีโอคะยะมะ
จากนั้นให้ขึ้นรถไฟด่วนพิเศษชิโอะคะเซะแล้วต่อรถไฟด่วนพิเศษของอุวะไคที่มัตสึยะมะ ซึ่งจะใช้เวลาไปยังอุวะจิมะประมาณ 80 นาที การเดินทางจากโอคะยะมะจะใช้เวลารวมประมาณสี่ชั่วโมง

คงสภาพของจริง
ปราสาทอุวะจิมะเป็นหนึ่งใน 12 ปราสาทในญี่ปุ่นที่ยังคงความสมบูรณ์ของสิ่งก่อสร้าง ซึ่งมองลงมาจะเห็นตัวเมือง ซึ่งปกครองโดยตระกูลดาเตะที่ขยายอำนาจในอุวะจิมะนานถึง 400 ปี คุณสามารถปีนขึ้นไปดูหอคอยกลางปราสาทได้สบายๆ แม้จะค่อนข้างเล็กแต่ยังคงสภาพเดิมอยู่ ภายในจะมีการแสดงดาบและเสื้อเกราะบางส่วน
หลังจากที่เข้าชมปราสาทอุวะจิมะซึ่งตระกูลดังกล่าวปกครองนาน 260 ปีแล้ว เข้าชมพิพิธภัณฑ์ดาเตะเพื่อดูของสะสมสุดยอดจากทรัพย์สินของครอบครัวนี้




สวนที่มีหัวใจ
ถัดจากพิพิธภัณฑ์ดาเตะคือสวนเทนชาเอนซึ่งสร้างขึ้นโดยหัวหน้าตระกูลดาเตะรุ่นที่ 7 ในปีค.ศ 1866 สระตรงกลางจะเป็นรูปอักษรคันจิ "โคโคโระ" หมายถึงหัวใจ เพราะสร้างขึ้นด้วยความรัก สวนที่มีมนต์เสน่ห์แห่งนี้จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล และจะสวยงามที่สุดในเดือนเมษายนเมื่อดอกวิสทีเรียเบ่งบาน




ประตูโทริอิหินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น
ขณะเข้าชมศาลเจ้าวาเรจิงจะ คุณจะเห็นประตูโทริอิหิน 12 เมตรตั้งตระหง่านอยู่ ประตูนี้ถือเป็นประตูโทริอิหินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ศาลเจ้านี้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แด่ผู้รับใช้ตระกูลดาเตะ คนหนึ่งที่ดูแลบัญชีของเขตนี้


ทุ่งนาที่ไกลสุดหล้า
ยูสุมิซูกาอุระคือนาข้าวที่เป็นขั้นบันไดสวยงามอยู่หลังทะเลสีคราม เพียงขับรถ 30 นาทีเลียบชายฝั่งจากเมืองอุวะจิมะ การใช้พื้นที่ว่างถือเป็นบททดสอบการปรับตัวของมนุษย์ อย่าลืมลิ้มลองอาหารพื้นเมืองรสเด็ดที่ร้าน Dandanjaya บริเวณระเบียง




พระอาทิตย์และทะเล
ทางทิศใต้ของอุวะจิมะคือไอนังซึ่งถือเป็นจุดที่เหมาะสำหรับการว่ายน้ำ ดำน้ำตื้น คายัค ตกปลา หรือวินเซิร์ฟ หากคุณอยากพักผ่อนหย่อนใจดูสัตว์ทะเล แนะนำให้ขึ้นเรือพื้นกระจก ใกล้กับจังหวัดโคจิ ไอนังถือเป็นสถานที่สมบูรณ์แบบที่คุณต้องหยุดแวะก่อนไปต่อ
งดงามจริงๆ
มัตสึโนะ คือ เมืองเงียบๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากอุวะจิมะ คุณจะเห็นหุบเขานาเมะโทโกะอันน่าทึ่ง ป่าดูหนาเต็มไปด้วยต้นไม้เหมือนยุคจูราสสิค มีมอสขึ้นปกคลุมพื้น และแม่น้ำขณะคุณเดินเล่น และมีลิง กวาง เหยี่ยว กบ งู และแม้กระทั่งหมูป่าอาศัยอยู่ในบริเวณเหล่านี้ การเข้าชมนาเมะโทโกะจะทำให้คุณรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย และเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ หากคุณต้องการผจญภัยมากยิ่งขึ้น คุณสามารถเข้าคอร์สกระโดดน้ำตกอันน่าตื้นเต้นได้
ท่องเวลาสู่อดีต
เมืองโอซุเป็นเมืองที่มีมนต์เสน่ห์ แม่น้ำกว้างสีน้ำเงินอมเขียว ภูเขาเขียวชอุ่ม และมีสถาปัตยกรรมพื้นบ้านที่ให้บรรยากาศสงบและทำให้ย้อนนึกถึงอดีต อุจิโกะ มีความแปลกตาคล้ายๆ กันคือมีบ้านโบราณ โรงละครคาบูกิ และถนนที่ปูพื้นด้วยหิน เป็นเมืองที่สวยงามดั่งภาพในฝันจริงๆ ใกล้กับโอซุคือเกาะอะโอชิมะหรือเกาะแมว ซึ่งมีผู้อยู่อาศัยเพียง 10 คนหรือน้อยกว่าแต่มีเพื่อนแมวเหมียวมากกว่า 100 ตัว




รสชาติของนันโย
อุวะจิมะและย่านโดยรอบหรือเรียกว่านันโย ซึ่งมีอาหารทะเลรสเด็ดให้ลิ้มลองมากมาย เมนูไทเมชิในอุวะจิมะเป็นปลาทรายแดงคลุกเคล้ากับน้ำซุปดาชิอุ่นๆ ไข่ดิบ และซีอิ๊วขาว เสิร์ฟบนข้าว จาโกเทนเป็นแผ่นปลาทอดที่ใช้ปลาทั้งตัว ถือเป็นของทานเล่นเบาๆ และอร่อยจนหยุดไม่อยู่ ในพื้นที่ชนบทให้มองหาผลิตภัณฑ์พื้นบ้านสดๆ เช่น ปลาไหลน้ำจืด ไก่ฟ้าป่า เห็ดชิตาเกะ และลูกพีชฉ่ำๆ