อะคิตะ ชิราคามิและโอดาเตะ ทะเลสาบใหญ่ในปากปล่องภูเขาไฟ ป่าบีชดึกดำบรรพ์ งานฝีมือและนักล่า ณ ดินแดนห่างไกลของญี่ปุ่น
ทะเลสาบใหญ่ในปากปล่องภูเขาไฟ ป่าบีชดึกดำบรรพ์ งานฝีมือและนักล่า ณ ดินแดนห่างไกลของญี่ปุ่น
ที่นี่มีป่าบีชธรรมชาติที่หลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่แห่งสุดท้ายของโลก มีทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในเกาะฮอนชู งานไม้และวัฒนธรรมการล่าสัตว์แบบดั่งเดิม ทั้งหมดนี้ทำให้ชิราคามิในจังหวัดอะคิตะเป็นจุดหมายที่คู่ควรของนักล่องไพร
เทือกเขาชิราคามิ มีพืชและสัตว์หายากหลากหลายชนิด มีทั้งน้ำตกและสถานที่กางเต็นท์สำหรับผู้ที่ต้องการสำรวจธรรมชาติให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น
ห้ามพลาด
- สำรวจป่าบีชที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
- เยี่ยมชมทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในเกาะฮอนชู
- เรียนรู้วัฒนธรรมแบบดังเดิมของเหล่ามาตากิ นักล่าท้องถิ่น
- ดูช่างฝีมือสร้างสรรค์งานไม้มาเกวัปปะอันโด่งดัง
วิธีการเดินทาง
พื้นที่ชิราคามิในภูมิภาคโทโฮคุทางตอนเหนือของเกาะฮอนชูสามารถเดินทางมาได้ทั้งโดยรถยนต์ เครื่องบิน รถบัส และ รถไฟ จุดเชื่อมรถใหญ่ๆได้แก่สถานีโนะชิโระ สถานีอะคิตะ และสถานีรถบัสยูโนะซาวะ อนเซ็น
การเดินทางด้วยเครื่องบินใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงเศษจากสนามบินฮาเนะดะ โตเกียว ไปถึงสนามบินโอดาเตะโนชิโระ จากนั้นสามารถนั่งแท็กซี่ไปถึงสถานีโนะชิโระโดยใช้เวลา 45 นาที จากที่นั่น ขึ้นรถไฟสายเจอาร์โกโนะไปที่สถานีอะคิตะ ชิราคามิ (35 นาที) สำหรับการเดินทางโดยรถไฟ สามารถขึ้นรถไฟเจอาร์โทโฮคุ ชินกังเซ็นจากสถานีโตเกียวไปยังสถานีอาคิตะ (4 ชั่วโมง) จากนั้นขึ้นรถไฟเจอาร์สายโออุไปยังสถานีฟุตะทสึอิ (60 นาที) และขึ้นรถบัสอาคิตะไปยังยูโนะซาวะ อนเซ็น (30นาที) สำหรับการเดินทางไปยังฝั่งอะโอโมริใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงจากสถานีโตเกียวไปยังสถานีชิน-อะโอโมริโดยรถไฟเจอาร์โทโฮคุ ชินกังเซ็น ตามด้วยขึ้นรถไฟจากสถานีชิน-อะโอโมริไปยังสถานีฮิโรซากิด้วยสายเจอาร์โออุโดยใช้เวลา 40 นาที จากนั้นขึ้นรถบัสจากท่ารถบัสฮิโรซากิไปยังทาชิโระซึ่งใช้เวลา 50 นาที นอกจากนี้คุณยังสามารถเดินทางไปยังฝั่งอะโอโมริได้โดยรถบัสจากสถานีฮิโรซากิไปยังศูนย์บริการนักท่องเที่ยวชิราคามิ ซังชิ
ป่าดึกดำบรรพ์
เทือกเขาชิราคามิ นั้นครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 130,000 เฮกตาร์ของจังหวัดอะโอโมริ และจังหวัดอะคิตะ เป็นแหล่งของพืชพันธุ์นานาชนิดและสัตว์หายากมากมาย ช่วงกลางของเทือกเขาแห่งนี้ได้รับแต่งตั้งให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536
แหล่งพืชและสัตว์หายาก
นอกจากต้นบีชพื้นเมืองแล้ว ป่าดึกดำบรรพ์ยังมีไม้ผลัดใบต้นสูงอื่นอีกหลากหลายชนิด ลองเดินเล่นไปตามเส้นทางเดินป่า คุณอาจจะได้พบกับนกหัวขวานดำ เลียงผาญี่ปุ่น เหยี่ยวภูเขา นกอินทรีทอง ลิงกังญี่ปุ่น และ หมีควาย
น้ำตกสามสาย
สถานที่ที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในเทือกเขาชิราคามิ ก็คือน้ำตกอันมง น้ำตกงดงามสามสายที่ไหลรวมกันเป็นหนึ่ง ไต่ไปตามเส้นทางธรรมชาติผ่านป่าเขียวชอุ่ม ตามแม่น้ำลำธารของน้ำที่ใสดั่งคริสตัลจากหิมะละลาย
ล้วงความลับแห่งชิราคามิ
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเทือกเขาชิราคามิ และวัฒนธรรมท้องถิ่นได้ที่ศูนย์นักท่องเที่ยวเทือกเขาชิราคามิ หรือ ศูนย์มรดกโลกชิราคามิ คุณจะได้ชมงานแสดง 3 มิติ ซึ่งนำเสนอข้อมูลเชิงลึกของพื้นที่แก่นักท่องเที่ยว
ล่องเรือหรือกางเต็นท์พักแรมแนบประกายน้ำของทะเลสาบโทวะดะ
สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งนี้ตั้งอยู่ระหว่างจังหวัดอะโอโมริ และจังหวัดอะคิตะ เป็นทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในเกาะฮอนชูและเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดลำดับที่ 12 ของญี่ปุ่น
คุณสามารถล่องเรือในทะเลสาบ เช่าเรือแคนู หรือกางเต็นท์ในจุดกางเต็นท์เพื่อที่จะได้ใกล้ชิดกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติอันสวยงามมากยิ่งขึ้น จุดกางเต็นท์มีให้เลือกถึง 6 แห่ง 3 แห่งอยู่ใกล้กับทะเลสาบและอีก 3 แห่งค่อนไปทางภูเขาฮักโกดะ
ยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรมการล่าสัตว์แบบดั่งเดิม
ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องมาตากิ ซึ่งเป็นชุมชนของนักล่าแบบดั้งเดิมที่อาศัยอยู่ในป่าชิราคามิซันจิ ระหว่างจังหวัดอะคิตะ และจังหวัดอะโอโมริ ชนเผ่าเหล่านี้อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ บนพื้นที่ภูเขา แต่ในช่วงฤดูหนาวและต้นฤดูใบไม้ผลิ พวกเขาจะอาศัยลึกเข้าไปในป่าเพื่อล่าหมีเหมือนกับที่บรรพบุรุษของพวกเขาได้ทำต่อกันมาหลายชั่วอายุคน
งานไม้สวยงามสง่า
พื้นที่โอดาเตะ มีชื่อเสียงในเรื่องงานไม้มาเกวัปปะ ซึ่งเป็นวิชาช่างไม้ของญี่ปุ่นที่มีจุดเด่นที่ความเบา หรูหรา และลายไม้ที่ตรง ช่างฝีมือของที่นี่ได้ทำการนึ่งและดัดไม้อย่างประณีตให้เป็นรูปร่างที่ลื่นไหลสง่างามมานานกว่า 400 ปี ก่อนที่ชาวบ้านจะเริ่มใช้ทรัพยากรธรรมชาติหลักของพวกเขา หรือก็คือต้นซีดาร ์เพื่อสร้างเป็นของใช้ในชีวิตประจำวัน
* ข้อมูลต่างๆ บนเวบไซต์ อาจมีการเปลี่ยนแปลงสืบเนื่องจากสถานการณ์ COVID-19