อิวาเตะ ชายฝั่งอิวาเตะ เปิดประสบการณ์เที่ยวสำรวจแนวชายฝั่งที่สมบุกสมบันและยังเป็นธรรมชาติของอิวาเตะ

พื้นที่ชายฝั่งของอิวาเตะมีมนต์ขลังในแบบลึกลับ ทั้งจากสภาพแวดล้อมโดยธรรมชาติที่เต็มไปด้วยการก่อตัวของโขนหินในรูปทรงต่าง ๆ และบรรดาเมืองที่ประสบภัยพิบัติจากแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อปี ค.ศ. 2011 คุณไม่ควรพลาดโอกาสเที่ยวสำรวจบริเวณชายฝั่งอิวาเตะ เพราะเปี่ยมเสน่ห์ทั้งด้วยชายหาด ตลอดไปจนถึงถ้ำน่าพิศวง

คุณสามารถไปเยือนแถบชายฝั่งอิวาเตะได้โดยอาศัยรถไฟหรือรถบัสจากเมืองต่าง ๆ ในอิวาเตะ อาทิ โมริโอกะ ฮานะมาคิ และอิจิโนะเซกิ ส่วนจุดที่มีตัวเลือกให้คุณใช้บริการครบครันที่สุดคือสถานีโมริโอกะ

พื้นที่ชายฝั่งของอิวาเตะขึ้นชื่อมากที่สุดในเรื่องการก่อตัวของโขดหินที่แปลกตาไม่เหมือนใคร เมื่อไปถึงคิตายามาซากิในทาโนะฮาตะ คุณจะพบกับโขดหินรูปร่างโดดเด่นทั้งหลาย พร้อมด้วยหน้าผาอุโนะสุยาว 200 เมตรที่โผล่พ้นขึ้นมาจากมหาสมุทร นอกจากนี้คุณยังสามารถเดินทอดน่องไปตามเส้นทางที่มีให้เลือกมากมายในคิตายามาซากิ หรือจะล่องเรือชมทิวทัศน์หน้าผาจากทางฝั่งทะเลก็ได้เช่นกัน

ในถ้ำริวเซนโด มีทะเลสาบน้ำใสใต้ดินสามแห่งและค้างคาวสายพันธุ์ต่าง ๆมากมาย ทั้งยังมีน้ำแร่บริสุทธิ์จากผืนทะเลสาบบรรจุขวดขายที่ร้านค้าภายในถ้ำอีกด้วย บางครั้งเหล่าค้างคาวจะบินผ่านศีรษะของคุณไป แต่ปกติแล้วพวกมันจะหลบซ่อนอยู่ท่ามกลางหมู่มวลหินย้อยที่ก่อตัวขึ้นมาในถ้ำ

ย่านทาโรบริเวณตอนเหนือของมิยาโกะได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงจากสึนามิเมื่อปี ค.ศ. 2011 โดยโรงแรมทาโรคังโคก็ได้แปรสภาพกลายเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อระลึกถึงภัยพิบัติในครั้งนั้น เพราะคลื่นน้ำได้กวาดทำลายโรงแรมไปถึง 4 ชั้นจากจำนวนทั้งหมด 6 ชั้น คุณสามารถใช้บริการไกด์นำชมได้ที่พิพิธภัณฑ์ หรือจะเดินสำรวจพื้นที่ภายในด้วยตัวเองก็ได้เช่นกัน

หลังท่องไปตามแนวชายฝั่งได้ครึ่งทาง คุณก็จะพบกับชายหาดโจโดงาฮามะ พื้นที่จุดนี้เป็นเวิ้งน้ำที่แยกตัวเข้ามาและมีกระแสคลื่นที่เงียบสงบ จึงเหมาะสำหรับลงไปว่ายน้ำเล่น ไม่เพียงเท่านั้น เนื่องจากชายหาดแห่งนี้มีความงามตามธรรมชาติ พร้อมทั้งรายล้อมด้วยโขดหินที่โผล่พ้นน้ำ ผู้คนเปรียบเป็น “แดนสุขาวดี” หรือ สรวงสวรรค์ตามความเชื่อทางพระพุทธศาสนา ส่วนสถานที่น่าสนใจที่ได้รับความนิยมสูงสุดแห่งหนึ่งในละแวกใกล้เคียงกันก็คือถ้ำสีฟ้าที่สวยสดงดงาม คุณสามารถนั่งเรือตกปลาขนาดเล็กเพื่อเข้าไปเยี่ยมชมพื้นที่ภายในได้เช่นเดียวกับที่ถ้ำในทะเลสีฟ้าอันโด่งดังแห่งเกาะคาปรี

คามาอิชิตั้งอยู่ในแถบพื้นที่ริมชายฝั่งของอิวาเตะระหว่างเมืองมิยาโกะและเมืองโอฟุนาโตะ ทั้งยังเป็นจุดรวมตัวสำหรับกีฬารักบี้มาเป็นเวลาหลายปี ในวันหยุดสุดสัปดาห์บางช่วง คุณจะมีโอกาสได้ดูทีมรักบี้เซมิโปรท้องถิ่นอย่างคามาอิชิซีเวฟส์ลงเล่น นอกจากนี้ เพราะคามาอิชิได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในเมืองเจ้าภาพจัดการแข่งขันรักบี้ชิงแชมป์โลกในปี ค.ศ. 2019 ซึ่งมีแฟนกีฬารักบี้จำนวนมากมาเยือน

กาลเวลาที่ผ่านพ้นไปได้ขัดเกลากรวดหินบนผืนชายฝั่งโกอิชิ ดังนั้นกรวดหินทั้งหลายเหล่านี้จึงมีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับหมากที่ใช้เล่นในกีฬาญี่ปุ่นซึ่งเรียกว่าโกะ พื้นที่ชายฝั่งทางตอนใต้เองก็แทบไม่ต่างจากตอนเหนือตรงที่มีโขดหินก่อตัวเป็นรูปร่างโดดเด่นไม่เหมือนใครในหลาย ๆ จุดเช่นเดียวกัน ดังนั้นคุณจึงไม่ควรพลาดโอกาสในการเปิดประสบการณ์รับฟังเสียงคลื่นทะเลที่พัดถาโถมเข้าสู่คามินาริอิวะจนดังสนั่นหวั่นไหว

ห่างจากชายฝั่งโกอิชิไม่ไกลออกไปทางตอนใต้คือริคุเซ็นตาคาตะ แม้ว่าภัยสึนามิเมื่อปี ค.ศ. 2011 แทบจะถล่มเมืองแห่งนี้จนราบเป็นหน้ากลอง แต่ต้นส้นต้นหนึ่งกลับยังคงตั้งตระหง่านเสียอย่างนั้น อย่างไรก็ตาม น่าเสียดายที่ต้นส้นต้นดังกล่าวล้มตายลงในปี ค.ศ. 2012 เนื่องจากภาวะน้ำเกลือเป็นพิษ จึงได้มีการนำต้นสนจำลองมาตั้งแทนที่เพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนความหวัง คุณจะพบต้นส้นจำลองได้ในบริเวณใกล้ ๆ ชายหาด

นอกจากนี้ตามพื้นที่ชายฝั่งของอิวาเตะยังมีซูชิที่สดอร่อยมากที่สุดส่วนหนึ่งของญี่ปุ่นให้คุณได้ลิ้มรส ลองแวะเยือนร้านค้ามากมายที่มีให้เลือกตามชายหาดซังริกุหรือทาโนะฮาตะ หรือจะไปที่ตลาดปลาในมิยาโกะเพื่อเพลิดเพลินไปกับหอยเม่น หอยเป๋าฮื้อ และปลาซัมมะที่สดตรงจากทะเลก็ได้เช่นกัน

พิพิธภัณฑ์อำพันคุจิตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่รอบนอกของเมืองคุจิ ทั้งยังเป็นจุดที่คุณสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติของฟอสซิลยางเรซินสุดพิเศษนี้ ดูศิลปะอำพัน และเที่ยวชมโรงผลิตเครื่องประดับ รวมถึงสิ่งที่ขาดไปไม่ได้อย่างการเลือกซื้ออำพันเป็นของที่ระลึก

มีเวิร์คซ็อปให้เข้าร่วมที่พิพิธภัณฑ์ รวมถึงการขุดอำพันกลางแจ้งหรือการทำเครื่องประดับด้วยตัวคุณเอง