มิยากิ เมืองเซ็นได กลิ่นอายแห่งประวัติศาสตร์ซามูไรในเมืองอันทันสมัย
กลิ่นอายแห่งประวัติศาสตร์ซามูไรในเมืองอันทันสมัย
เซ็นไดเป็นเมืองหลวงของจังหวัดมิยากิ และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น ทำให้เซนไดเป็นเมืองที่เหมาะแก่การเป็นฐานในการทำความรู้จักโทโฮคุ ใจกลางเมืองเป็นแหล่งร้านค้า มีร้านอาหารและแหล่งช็อปปิ้งให้เที่ยวมากมาย ในขณะที่ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับซามูไรได้ถูกแสดงที่โบราณสถานและสถาปัตยกรรมสำคัญที่ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์เป็นอย่างดี มาร่วมกันหลงใหลไปกับมนต์เสน่ห์ความงามและประวัติศาสตร์ของเซ็นได
พลาดไม่ได้
- ขึ้นรถบัสชมเมืองลูเปิลที่จะพาคุณไปเพลิดเพลินกับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่าง ๆ
- ลองลิ้นวัวย่าง หรือกิวทัง อาหารจานเด็ดประจำเมือง
- ชมสถาปัตยกรรมชั้นครูที่สร้างขึ้นด้วยฝีมือของดาเตะ มาซามูเนะ ขุนนางศักดินาผู้ก่อตั้งเมืองนี้
วิธีการเดินทาง
เดินทางจากโตเกียวมาเซ็นไดได้อย่างง่ายดายด้วยรถไฟชินคังเซ็นหรือรถบัสไฮเวย์ ไม่ว่าจะรถไฟชินคังเซ็นสายโทโฮคุหรือสายอะคิตะที่วิ่งจากโตเกียวก็สามารถพาคุณไปถึงสถานีเซนไดได้ภายในเวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่ง
รถบัสไฮเวย์ให้บริการทั้งในช่วงกลางวันและกลางคืนจากสถานีโตเกียว และสถานีชินจูกุ โดยใช้เวลา ตั้งแต่ห้าถึงเจ็ดชั่วโมง
เกร็ดน่าสนใจ
เซ็นไดเป็นที่รู้จักในฐานะ “เมืองแห่งต้นไม้”
เซ็นไดเป็นเมืองหลักที่อยู่ใกล้จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ค.ศ. 2011
เมืองนี้ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1600 โดยขุนนางศักดินาท่านหนึ่งที่ทรงอำนาจที่สุดในญี่ปุ่น
เมืองที่อยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างกลมกลืน
เซ็นไดเป็นเมืองสีเขียวริมทะเลในอ้อมอกของภูเขา แม่น้ำฮิโรเซะที่ไหลผ่านใจกลางเมือง ทำให้เป็นตัวแบ่งเมืองออกเป็นฝั่งธุรกิจวุ่นวายและฝั่งที่เป็นที่ตั้งปราสาทหลังเก่า ไกลออกไปจากตัวเมืองก็มีสถานที่เล่นสกีที่ภูเขาอิซูมิงาทาเกะ และบ่อน้ำพุร้อนที่อะคิอุ และซากูนาม
ถนนสายหลักมีต้นไม้สีเขียวปกคลุมเรียงรายเป็นแนว ซึ่งในช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองและมีการประดับไฟอย่างสวยงามในฤดูหนาว ชาวเมืองเซนไดภูมิใจกับชื่อเล่น “เมืองแห่งต้นไม้” ของตนเป็นอย่างยิ่ง
เทศกาลยอดนิยมของเซ็นได
ลงวันที่ไว้ในปฏิทินของคุณเลยว่าเดือนกรกฎาคมจะมีเทศกาลเซนไดทานาบาตะ ซึ่งจะมีสายรุ้งสีสันสดใสประดับประดาไว้ทั่วเมือง ในเดือนกันยายน บนท้องถนนจะมีนักดนตรีนับร้อยคนจะมารวมตัวกันสร้างเสียงดนตรีกับ โจเซ็นจิ สตรีท แจ๊ส เฟสติวัล ณ เซนได ต่อมาในเดือนตุลาคมจะมีเทศกาลดั้งเดิมคือเทศกาลเต้นโยซาโกอิ และช่วงหลังของเดือนธันวาคมจะมีขบวนแห่เพเจนท์ออฟสตาร์ไลท์พร้อมการประดับไฟในช่วงฤดูหนาว
“มังกรตาเดียว” คือใคร?
หนึ่งในขุนนางศักดินาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดระหว่างช่วงสงครามกลางเมืองในศตวรรษที่ 16 ดาเตะ มาซามูเนะได้ก่อตั้งเมืองเซนไดขึ้นในปี ค.ศ. 1600 ดาเตะ มาซามูเนะอพยพจากทางตอนเหนือของจังหวัดมิยากิมาอยู่ที่เซ็นไดเพื่อรวบรวมดินแดนของตนให้เป็นปึกแผ่นเดียวกัน ทั้งมิตรและศัตรูต่างขนานนามเขาว่า “มังกรตาเดียว” ชื่อเล่นนี้เขาได้มาจากอาการเจ็บป่วยในวัยเด็กที่ส่งผลให้เขาสูญเสียตาขวา
คุณจะสัมผัสถึงมาซามูเนะได้ทั่วเมืองเซนได ไม่ว่าจะเป็นรูปปั้น หรือสถาปัตยกรรมต่าง ๆ มาทำความรู้จักบุคคลที่น่าประทับใจท่านนี้ที่พิพิธภัณฑ์เมืองเซนได ซึ่งมีการจัดแสดงชุดเกราะสีนิลและหมวกซามูไรสุดอลังการของเขาเอาไว้ กล่าวกันว่าชุดเกราะสีนิลนี้เป็นแรงบันดาลใจให้แก่ชุดเกราะของดาร์ทเวเดอร์ในภาพยนตร์สตาร์วอร์สด้วย
ที่ไหนก็ไปถึงด้วยรถลูเปิล
ใช้บริการรถบัสนำเที่ยวลูเปิลเพื่อท่องเที่ยวไปตามสถานที่ยอดนิยมต่าง ๆ โดยให้บริการตั้งแต่เวลา 9.00 น. จนถึง 16.00 น. และมีเสียงประกาศหลายภาษาสำหรับให้ข้อมูลท่องเที่ยวตลอดเส้นทาง
อย่าพลาดชมสถาปัตยกรรมรูปแบบอาซูจิ-โมโมยามะสีดำทองอันแสนวิจิตรบรรจงที่ศาลเจ้าโอซากิฮะชิมังกูซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 รวมถึงสุสานซุยโฮเดนอันเป็นสถานที่พักผ่อนสุดท้ายของดาเตะ มาซามูเนะ ศาลเจ้าแห่งนี้แสดงถึงความหรูหราของหัวหน้าซามูไร
ปราสาทอะโอบะและโบราณสถานที่อยู่ในเส้นทางเดินรถลูเปิลก็เหมาะสำหรับการแวะเที่ยวเช่นกัน หลังจากเที่ยวรอบเมืองแล้ว อย่าลืมไปชิมร้านอาหารใกล้ ๆ และดื่มด่ำกับทิวทัศน์ที่สวยที่สุดในเมือง
ช็อปกระจายไม่มีหยุด
ตามล่าของช็อปราคาโดนใจขาช็อปโดยขึ้นรถบัสไปที่อิซุมิพรีเมียมเอาท์เล็ท หรือนั่งรถไฟสายเซ็นเซกิ 18 นาทีไปลงที่สถานีนากาโนะซากาเอะเพื่อสัมผัสประสบการณ์ในมิตสึอิเอาท์เล็ทพาร์ค ศูนย์ช็อปปิ้งเอาท์เล็ทที่ใหญ่ที่สุดในโทโฮคุด้วยร้านค้ากว่า 120 ร้าน หากต้องการเลือกซื้องานฝีมือพื้นบ้านรวมถึงตุ๊กตาโคเกชิ ขอเชิญที่ชิมานูกิใกล้ ๆ สถานีเซนได
อาหารจานเด็ดประจำโทโฮคุ
ลิ้นวัวย่างหรือกิวทังเป็นอาหารจานเด็ดเมืองนี้ที่คนรักเนื้อต้องลิ้มลอง บริเวณรอบสถานีมีร้านเนื้อย่างและกิวทังอยู่หลายร้าน หากคุณไม่อยากทานเนื้อ ซุนดะ หรือถั่วเขียวบดรสหวานฉ่ำก็เป็นของหวานยอดนิยมอีกอย่างหนึ่งของที่นี่ โดยเอาซุนดะราดบนขนมอื่น ๆ ได้ทุกอย่างตั้งแต่แป้งโมจิไปจนถึงไอศกรีมพาร์เฟ่ต์
ปิดท้ายวันด้วยอาหารดี ๆ หรือเครื่องดื่มในโคกูบุนโช ย่านท่องเที่ยวกลางคืนของเซ็นไดที่เต็มไปด้วยบาร์และร้านอาหารกว่า 2,500 ร้าน
เซ็นไดยังเป็นต้นกำเนิดของแฮมเบอร์เกอร์สไตล์ญี่ปุ่น ย่านโคคุบุนโจเป็นที่ตั้งของบาร์และคลับ มีร้านแซนด์วิชโฮโซยะตั้งอยู่ เชื่อกันว่าที่นี่อาจจะเป็นร้านแฮมเบอร์เกอร์ที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ที่ทุกวันนี้ก็ยังคงเสิร์ฟแฮมเบอร์เกอร์สไตล์อเมริกาแบบดั้งเดิมอยู่
* ข้อมูลต่างๆ บนเวบไซต์ อาจมีการเปลี่ยนแปลงสืบเนื่องจากสถานการณ์ COVID-19