ยะมะงะตะ โชไน ปีนสามยอดเขาศักดิ์สิทธิ์ ไปพูดคุยกับเกอิชาฝึกหัด และดื่มเหล้าสาเกที่กวาดรางวัลมาแล้ว

ด้วยลักษณะภูมิศาสตร์ซึ่งเป็นที่ราบริมทะเลญี่ปุ่น ภูมิภาคโชไนซึ่งอยู่ระหว่างทะเลและภูเขา ทำให้พื้นที่ส่วนนี้ของยะมะงะตะอุดมสมบูรณ์ด้วยข้าว ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ และประเพณีอันลุ่มลึกมากมาย

ทสึรุกะโอกะและซะคะตะมีสถานที่มากมายที่จะช่วยให้เข้าถึงจิตวิญญาณของคุณ รวมถึงยอดเขาสามแห่งที่เปรียบได้กับช่วงต่าง ๆ ของชีวิต แม่น้ำที่ไหลเอื่อย ผ่านหุบเขา เหล้าสาเกรสเยี่ยมระดับโลกที่โอยามะ และประสบการณ์ทางศิลปะและวัฒนธรรมสุดพิเศษ

การเดินทางไปทสึรุกะโอกะและซะคะตะทำได้โดยนั่งรถไฟ รถบัส และเครื่องบิน

เดินทางไปยังทสึรุกะโอกะโดยขึ้นเจอาร์โจเอตสึ ชินคันเซนจากโตเกียวมายังนีงะตะ จากนั้นต่อรถไฟด่วนพิเศษสายอินาโฮะจากนีงะตะ มาลงที่ทสึรุกะโอกะ

สายการบิน ANA ให้บริการเที่ยวบินจากสนามบินฮาเนะดะ ที่เมืองโตเกียวมาสนามบินโชไน โดยใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง และมีรถบัสที่ให้บริการวิ่งจากสนามบินโชไนไปยังทสึรุกะโอกะและซะคะตะ นอกจากนี้ บริษัทโชไนคตสึยังให้บริการรถบัสเที่ยวกลางคืน โดยวิ่งจากสถานีชินจูกุ โตเกียว อาคิฮาบาระ และอุเอโนะไปยังสถานีทสึรุกะโอกะและซะคะตะ โดยใช้เวลา 8 ชั่วโมง

เดวะ ซังซัน เป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของญี่ปุ่น ประกอบไปด้วยภูเขาศักดิ์สิทธิ์สามลูก ที่ยอดเขาแต่ละลูกมีศาลเจ้าตั้งอยู่ ภูเขาเหล่านี้ผสมผสานความเป็นพุทธและชินโตเข้าไว้ด้วยกัน ภูเขา ฮากุโระแสดงให้เห็นถึงปัจจุบัน และภูเขากัซซันซึ่งเป็นเขาที่สูงที่สุด แสดงให้เห็นถึงอดีต ภูเขา ยูโดโนะที่แสดงถึงอนาคต

ภูเขา เขาฮากุโระมีขนาดเล็กที่สุดและเที่ยวได้ตลอดปีแม้กระทั่งช่วงฤดูหนาวที่มีหิมะตกหนักในภูมิภาคนี้ ที่นี่มีเจดีย์ห้าชั้นซึ่งเป็นสมบัติของชาติและศาลเจ้าที่มีหลังคามุงฟางหนาที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่เหมาะอย่างยิ่งในการตามหาความเงียบสงบ ในขณะที่คุณได้ท่องป่าที่เต็มไปด้วยต้นสนซีดาร์เก่าแก่ที่มีอายุ 350 ถึง 600 ปี

ที่ภูเขา ยูโดโนะ คุณจะไดพบกับการฝึกฝนของพระเคร่งศีลบนภูเขา ซึ่งใส่จีวรสีขาวล้วนที่เรียกว่าชิโระโชโซกุ รวมถึงเข้าร่วมการนั่งสมาธิใต้น้ำตกและเดินบนถ่านร้อน ๆ ได้

ในตัวเมืองทสึรุกะโอกะมีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำคาโมะ ที่มีทั้งฉลาม ปู สิงโตทะเล และอื่น ๆ อีกมากมายให้ได้ชมกัน แต่ดาราดังของจริงก็คือแมงกะพรุนจำนวนนับไม่ถ้วนจนทำให้คาโมะได้รับการบันทึกลงในกินเนสส์บุ๊ค

มีการจัดแสดงแมงกะพรุนกว่า 60 สายพันธุ์ไว้ในแท็งค์ประดับไฟที่ส่องจากด้านหลังทำให้เกิดบรรยากาศแสนสวยและน่าหลงใหล หากคุณอยากลองกินอะไรแปลกใหม ที่นี่ก็มีไอศกรีมแมงกะพรุนขาย

โรงน้ำชาโซมาโระไมโกะแสดงให้เห็นถึงความหรูหราและบรรยากาศในยุคที่ซากาตะได้ต้อนรับเหล่ากะลาสีเรือและพ่อค้าที่เดินทางไปมาระหว่างยะมะงะตะและเกียวโต โรงน้ำชาแห่งนี้มอบประสบการณ์ความเป็นญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมด้วยไมโกะหรือเกอิชาฝึกหัด ซึ่งจะมาร้องและเต้นรำมอบความบันเทิงให้คุณ ไปพร้อมกับการลิ้มลองชาเขียวและขนมหวานวะกาชิของญี่ปุ่น

อย่าลืมแวะย่านหมักเหล้าสาเกอย่างโอยามะในทสึรุกะโอกะซึ่งเป็นบ้านของโรงหมักเหล้าสาเกที่ชนะการประกวดและได้รางวัลมาแล้วกว่าสี่โรง ชิมเหล้าสาเกฟรีที่เทศกาลเหล้าสาเกและโรงเหล้าสาเกใหม่โอยามะในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นเทศกาลเฉลิมฉลองเหล้าสาเกชุดล่าสุดของโรงเหล้าสาเก

พิพิธภัณฑ์ฮนมะ ซึ่งตั้งอยู่ในวิลล่าเก่าแห่งหนึ่ง เป็นห้องแสดงภาพศิลปะหลังช่วงสงครามโลกแห่งแรกของญี่ปุ่น คุณจะได้สัมผัสกับชาเขียวญี่ปุ่นในบรรยากาศญี่ปุ่นดั้งเดิมและชื่นชมผลงานศิลปะที่มีทั้งแบบร่วมสมัยและดั้งเดิมได้

สวนอันสวยงามในพิพิธภัณฑ์ พร้อมด้วยฉากหลังอย่างภูเขาโชไก ที่สวยงามรวมกับภาพวาด ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นสถานที่ที่มีทิวทัศน์งดงามระดับชาติ ด้วยความงามที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างอาคารและธรรมชาติ

นอกจากนี้ยังควรแวะชมพิพิธภัณฑ์ภาพถ่ายเค็น โดมง ที่จัดแสดงภาพถ่ายกว่า 70,000 ภาพของช่างภาพที่โด่งดังจากภาพถ่ายหลังสงครามโลก ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจได้เป็นอย่างดี

ใกล้กับเมืองยุซะมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าสนใจอีกแห่งที่รู้จักกันในชื่อสระมารุ สระแห่งนี้โด่งดังขึ้นเพราะน้ำใสสีมรกตระยิบระยับ

จูโระคุ ระคัง อิวะ (หินสลักรูปพระ) ที่ยุซะเป็นกลุ่มพระพุทธรูปหิน 22 องค์ที่สร้างอุทิศให้กับบุคคลที่หายสาบสูญไปในทะเล ช่างหินท้องถิ่นแกะสลักรูปพระเหล่านี้บนหินริมทะเลที่ยืนออกมาเมื่อ 150 ปีก่อนด้วยแรงกระตุ้นของพระในท้องถิ่น รูปสลักพระเหล่านี้ทอดสายตาไปยังท้องทะเลและภาวนาให้กะลาสีเรือและชาวประมงในตอนเหนือของญี่ปุ่นโชคดีและเดินทางได้อย่างปลอดภัย

ในวันที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง คุณจะสามารถมองเห็นเกาะโทบิชิมะที่อยู่ห่างออกไป 40 กิโลเมตรได้ นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นจุดที่ดีที่สุดของจังหวัดในการดูพระอาทิตย์ตกเหนือทะเลญี่ปุ่น