ยามานาชิ ภูเขาไฟฟูจิ (ยามานาชิ) สัมผัสกับเส้นทางธุดงค์โบราณไปยังยอดเขา ฟูจิ

ในช่วงสมัยเอโดะ (พ.ศ. 2146 - 2410) สาวกผู้ศรัทธาฟุจิโกะจะเดินธุดงค์จากเอโดะ (ปัจจุบันคือโตเกียว) ไปจนถึงยอดเขา ฟูจิด้วยการเดินเท้า เส้นทางยังคงเป็นที่นิยมมากถึงทุกวันนี้

ภูเขาไฟฟูจิตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยามานาชิ ใกล้กับชายเขตของชิซุโอกะ สามารถเดินทางด้วยรถไฟเจอาร์หรือรถบัสจากสถานีชินจูกุ

ขึ้นรถไฟด่วนเจอาร์สายจูโอ แล้วเปลี่ยนรถที่สถานีโอสึกิ เพื่อไปขึ้นสายฟูจิคิวโคไลน์ซึ่งดำเนินกิจการโดยเอกชน (ไม่รับบัตรเจอาร์เจแปนเรลล์พาส) หรืออีกทางเลือกหนึ่ง คุณสามารถนั่งรถบัสไปยังสถานีคาวากุจิโกะ จากสถานีชินฟูจิ (2 ชั่วโมงกับอีก 15 นาที) หรือสถานีมิชิมะ (1.5 ชั่วโมง) ซึ่งทั้งคู่อยู่บนเส้นทางรถไฟเจอาร์โทไคโดชินคันเซน

สถานีภูเขาไฟฟูจิ (สถานีฟูจิซัง) เป็นสถานีที่ใกล้กับเส้นทางโยชิดะ มากที่สุด เมื่อคุณมาถึง สถานีภูเขาฟูจิ(สถานีฟูจิซัง) หรือสถานีคาวากุจิโกะ คุณสามารถนั่งรถบัสไปยังภูเขา สถานีภูเขาฟูจิที่ 5 คุณยังสามารถไปถึงที่ สถานีภูเขาฟูจิที่ 5 โดยรถบัสจากสถานีรถบัสชินจูกุเอ็กซ์เพรสเวย์บัสเทอร์มินอลในเวลาไม่ถึง 2.5 ชั่วโมง การเดินทางด้วยรถบัสไปยังสถานีคะวะกุจิโกะ ใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง

ทางเข้าประวัติศาสตร์สู่ภูเขาไฟฟูจิ ตั้งอยู่ที่ศาลเจ้าคิตะกุจิ ฮงกู ฟูจิ เซนเก็นจิงจะ ซึ่งเป็นสถานที่ห้ามพลาดสำหรับผู้ที่วางแผนจะปีนภูเขาไฟศักดิ์สิทธิ์ เดินไปอย่างช้าๆ ไปตามทางไปยังศาลเจ้าเพื่อชมตะเกียงหินที่ปกคลุมไปด้วยตะไคร่น้ำตามรายทางของคุณ ประตูอันมหึมา (ฟูจิซังโอโทริ) เป็นเครื่องหมายบ่งบอกถึงการเดินทางออกจากโลกนี้และการมาถึงในโลกแห่งความศักดิ์สิทธิ์ของคุณ

ให้ความสนใจเป็นพิเศษกับต้นสนญี่ปุ่นขนาดใหญ่ที่ล้อมรอบศาลเจ้า ต้นไม้อายุนับพันปีเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันถึงการปฏิบัติตามธรรมเนียมโบราณของการเคารพบูชาภูเขาไฟฟูจิ ทาโร่ เป็นชื่อของต้นไม้ที่ด้านหน้าของศาล ในขณะที่ จิโร่ ฝาแฝดของเขา สามารถมองเห็นได้ที่ด้านหลัง

แม้ว่าจะเป็นไปได้ที่จะเดินตรงจากด้านหลังของศาลเจ้าคิตะกุจิ ฮงกู ฟูจิ เซนเก็นจิงจะ ไปยังยอดเขา ฟูจิ ทางเดินระหว่างศาลเจ้าและอุมากาเอชิซึ่งเป็นทางเข้าสู่เส้นทางเดินป่าโยชิดะ นั้นได้เลือนหายไปตามกาลเวลา แต่ยังคงเป็นไปได้ที่จะเริ่มปีนภูเขาไฟฟูจิจากศาลเจ้า แต่การใช้งาน GPS ในสมาร์ทโฟนของคุณจะขาดเสียไม่ได้เพื่อให้แน่ใจว่าคุณยังอยู่ในเส้นทาง

เมื่อคุณมาถึงที่ทางเข้าสู่อุมากาเอชิ คุณจะได้รับการต้อนรับโดยลิงหินคู่หนึ่งที่คอยเฝ้ารักษาประตู เข้าสู่ที่นี่เพื่อปีนขึ้นไปยัง สถานีภูเขาฟูจิที่ 5 ในความเงียบเสมือนไม่มีสิ่งใดรบกวน สำหรับนักปีนเขาที่กล้าหาญน้อยกว่า มีรถบัสที่เดินทางออกจาก สถานีภูเขาฟูจิ (สถานีฟูจิซัง) ไปยังอุมากาเอชิ ในช่วงฤดูปีนเขา (กรกฎาคมและสิงหาคม) * นักปีนเขาที่มีประสบการณ์ปีนขึ้นภูเขาไฟฟูจินอกฤดูปีนเขาอย่างเป็นทางการ (1 กรกฎาคมถึง 10 กันยายน) จะปีนเขาโดยรับความเสี่ยงด้วยตัวเอง

ในการขึ้นสู่ยอดเขาอย่างสันติของคุณ สถานีภูเขาฟูจิที่ 5 เป็นดั่งเส้นชัย ให้คุณได้ลิ้มรสช่วงเวลาสุดท้ายก่อนที่จะพบรถบัสด่วนหลายสายที่วิ่งมาถึงผ่านเส้นทางฟูจิสุบารุ ตอนนี้คุณสามารถเติมเสบียงสำหรับส่วนที่ท้าทายที่สุดของการปีนเขา จำไว้ว่าคุณจะขึ้นไปเหนือพ้นแนวต้นไม้ ดังนั้นอากาศจะเย็นขึ้นมากโดยเฉพาะตอนกลางคืน คุณจะสามารถเข้าถึงบริการต่างๆ ได้ที่สถานีที่ 5 ดังนั้นอย่าลืมสำรวจรอบๆ ก่อนที่คุณจะขึ้นภูเขาไฟฟูจิต่อไป

ใช้โอกาสนี้ในการส่งโปสการ์ดหรือถามคำถามสุดท้ายจากเจ้าหน้าที่ข้อมูลการท่องเที่ยว ต้องแน่ใจว่าคุณสวมใส่เสื้อผ้าที่อบอุ่น เสื้อกันฝนและรองเท้าบูทปีนเขาอย่างดี เพราะภูเขาฟูจิอาจกลายเป็นสถานที่ที่ไม่เอื้ออาทรเป็นอย่างยิ่งในช่วงที่ฝนตกหนักกระทันหัน

ทุกคืนวันที่ 26 สิงหาคม ในแต่ละปีจะมีการจัดงานจินกะไทไซขึ้นเพื่อป้องกันภูเขาไฟฟูจิจากการระเบิด เทศกาลเก่าแก่ 400 ปีนี้เป็นที่รู้จักในฐานะเทศกาลปิดภูเขา ในงานเทศกาล กองไฟสูง 3 เมตรจะถูกจุดไฟไปตามทางหลวงซึ่งนำไปสู่ฐานของภูเขาไฟฟูจิต่อไป ไฟเหล่านี้เป็นเครื่องถวายแด่ภูเขาไฟฟูจิ เทพเจ้าแห่งไฟ เทศกาลนี้เป็นหนึ่งในเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น

การจัดแสดงบอกเล่าเรื่องราวของภูเขาฟูจิ ว่าภูเขาฟูจิกลายเป็นสถานที่สักการะบูชาและเป็นแรงบันดาลใจทางศิลปะให้กับชาวญี่ปุ่นได้อย่างไร ให้ความสนใจเป็นพิเศษกับรูปจำลอง 3 มิติขนาดเล็กที่แสดงถึงการปีนภูเขาไฟฟูจิในสมัยโบราณ ศูนย์ มีบริการออดิโอไกด์หลายภาษาในภาษาอังกฤษ, จีน, เกาหลี, ไทยและอินโดนีเซีย คุณยังสามารถรับข้อมูลการท่องเที่ยวเกี่ยวกับภูเขาไฟฟูจิและบริเวณโดยรอบได้อีกด้วย