HOME Back

Use the

Planning a Trip to Japan?

Share your travel photos with us by hashtagging your images with #visitjapanjp

sg083 sg083

คู่มือแนะนำ สัมผัสกับการแข่งซูโม่ สัมผัสกับพลังของกีฬาประจำชาติญี่ปุ่น

ซูโม่คือกีฬาที่คนทั้งชาติหลงใหลคลั่งไคล้ และเป็นประสบการณ์รับชมที่ตราตรึงสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคน อีกทั้งยังเป็นกีฬาที่แม้จะเก่าแก่จนบอกประวัติแน่ชัดได้ยาก แต่ก็ยังคงพิธีการเอาไว้ไม่มีเปลี่ยน

ไม่ว่าจะเป็นวิธีมัดผมอย่างละเอียดซับซ้อนตามแบบดั้งเดิมที่บ่งบอกสถานะนักซูโม่มืออาชีพ ตลอดไปจนถึงผ้าเตี่ยวมาวาชิ เวทีดินอันศักดิ์สิทธิ์ เหล่าผู้ตัดสินที่แต่งกายอย่างมีสีสัน และพิธีกรรมโปรยเกลือลงบนพื้นดินเพื่อความบริสุทธิ์ก่อนที่นักกีฬาจะลงไปต่อสู้ประชันฝีมือ ทั้งหมดนี้ต่างทำให้ซูโม่ไม่เหมือนกีฬาอื่นใด

 

นักกีฬาซูโม่ที่กำลังฝึกซ้อม

 

ต้นกำเนิดซูโม่

ตามความเชื่อดั้งเดิมคือซูโม่เคยเป็นพิธีเต้นระบำเพื่อสร้างความบันเทิงให้เทพเจ้าชินโตในช่วงเทศกาลศาลเจ้า ต่อจากนั้นกีฬาซูโม่รูปแบบเดิมก็พัฒนามีระบบแบบแผนขึ้นมา พร้อมกำหนดเป้าหมายให้นักกีฬาล้มคู่ต่อสู้ของตนให้ได้ กฎกติกาซูโม่ถูกกำหนดในช่วงสมัยเอโดะ (ค.ศ. 1603 ถึง ค.ศ. 1867)

ในช่วงเวลานี้เองซูโม่ได้กลายเป็นกีฬาที่เปิดให้ผู้คนรับชม การแข่งขันซูโม่โดยมากมักจัดตามศาลเจ้าต่าง ๆ จนกระทั่งสนามประลองซูโม่เรียวโกกุแห่งแรกซึ่งมีชื่อว่าเรียวโกกุโคกุกิกัง เปิดให้บริการที่ริมฝั่งแม่น้ำสุมิดะในโตเกียวเมื่อปี 1909 หลายปีหลังสิ้นสุดสงคราม การแข่งขันซูโม่จึงค่อยกระจายไปจัดรอบประเทศอย่างเท่าเทียมกันมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันนี้การแข่งขันซูโม่หรือที่เรียกว่าบาโฉะจะจัดขึ้นทั้งหมด 6 ครั้งในแต่ละปี ได้แก่ที่โอซาก้า ในเดือนมีนาคม นาโกย่า ในเดือนกรกฎาคม และฟุคุโอกะ ในเดือนพฤศจิกายน สลับกันกับการแข่งขันอีก 3 ครั้งที่จัดขึ้นที่โตเกียว

วิธีเอาชนะคู่ต่อสู้

นักกีฬาซูโม่จะเอาชนะได้โดยการใช้เรี่ยวแรงบังคับให้คู่ต่อสู้ก้าวออกนอกเวที หรือทำให้ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายคู่ต่อสู้สัมผัสพื้นดิน นอกเหนือจากฝ่าเท้า ก่อนเริ่มแข่งขันแต่ละครั้งจะต้องมีพิธีกรรมละเอียดซับซ้อนให้ต้องโปรยเกลือเพื่อความบริสุทธิ์ รวมถึงโค้งคำนับคู่ต่อสู้ แล้วจึงค่อยเข้าห้ำหั่นกันและกัน

หลายครั้งการแข่งขันก็สิ้นสุดลงภายในระยะเวลาไม่กี่วินาทีที่นักกีฬาซูโม่ทำลายการทรงตัวของคู่ต่อสู้ได้ตั้งแต่แรก ส่วนครั้งอื่น ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกถ้านักกีฬาซูโม่หรือที่เรียกว่าริกิชิ ทั้งสองฝั่งอาจต่อสู้ชิงความได้เปรียบกันอย่างน่าตื่นตาตื่นใจเป็นเวลาหลายนาที

กีฬาซูโม่มืออาชีพจะแบ่งออกด้วยกันทั้งหมด 6 รุ่น แต่ทั้งนี้ไม่ได้ใช้น้ำหนักเป็นตัวกำหนด ซึ่งหมายความว่าบ่อยครั้งคุณจะมีโอกาสได้ชมการชิงชัยระหว่างนักกีฬาซูโม่ที่มีขนาดร่างกายกำยำใหญ่โตกับคู่ต่อสู้ที่รูปร่างเพรียวและปราดเปรียวกว่า การแบ่งรุ่นนักกีฬาซูโม่ว่าจะปรับขึ้นหรือลงจะเป็นไปตามผลงานที่ปรากฏในการแข่งขัน

 

เรียวโงกุโคกูงิกัง คือสนามแข่งซูโม่หลักในประเทศญี่ปุ่น

 

ตั๋วและการแข่งขัน

สมาคมกีฬาซูโม่แห่งประเทศญี่ปุ่นมีเว็บไซต์ภาษาอังกฤษ ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับบาโฉะที่จะจัดขึ้น รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการซื้อตั๋วเข้าชม ปกติตั๋วเข้าชมที่นั่งเดี่ยวในสนามราคาไม่เกิน 4,000 เยน ส่วนตั๋ว 4 ที่นั่งข้างเวทีจะมีราคาประมาณ 10,000 เยน คุณยังสามารถซื้อตั๋วที่ช่องจำหน่ายตั๋วในวันที่จัดการแข่งขันได้เช่นกัน แต่ว่าที่นั่งมักจะเต็มเกือบทุกวัน ดังนั้นควรซื้อตั๋วเอาไว้ก่อนล่วงหน้า

โตเกียวบาโฉะ

เรียวโงกุโคกูงิกังที่จุผู้ชมได้ 11,098 คน มีธรรมเนียมจัดการแข่งขันช่วงปีใหม่ โดยเริ่มต้นตั้งแต่กลางเดือนมกราคม นอกจากนี้เชื้อพระวงศ์ยังมักจะเข้าชมการแข่งขันที่นี่อีกด้วย อาคารนี้คือสนามกีฬาแห่งเดียวในญี่ปุ่นที่สร้างขึ้นเพื่อจุดประสงค์เฉพาะเจาะจง รวมทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์ซูโม่ ขนาดย่อมด้านใน คุณจะได้เรียนรู้ประวัติกีฬาชนิดนี้ และบุคคลที่มีชื่อเสียงในแวดวงตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา ไม่เพียงเท่านี้ เรียวโงกุ โคะคุงิคันยังจัดการแข่งขันในเดือนพฤษภาคมและกันยายนเช่นเดียวกันกับมกราคม

โอซาก้าบาโฉะ

เอดิองอารีน่าโอซาก้า (โรงยิมเนเซียมจังหวัดโอซาก้า) คือสถานที่จัดการแข่งขันประจำปีในเดือนมีนาคม สนามจุได้ประมาณ 10,000 ที่นั่งแห่งนี้ตั้งอยู่ในย่านนัมบะใจกลางเมืองโอซาก้า เตรียมรับฟังเสียงเชียร์ดังสนั่นให้กำลังใจนักกีฬาซูโม่จากภูมิภาคคันไซทุกคนได้เลยเมื่อคุณมาที่นี่

นาโกย่าบาโฉะ

เดือนกรกฎาคม การแข่งขันจะย้ายไปจัดที่นาโกย่าและดอร์ฟิน อารีน่า (โรงยิมเนเซียมจังหวัดไอจิ) โรงยิมเนเซียมอเนกประสงค์แห่งนี้สามารถจุผู้เข้าชมได้ 7,500 คน ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของปราสาทนาโกย่าอีกด้วย เนื่องจากการแข่งขันจัดขึ้นในเดือนกรกฎาคมที่อากาศร้อนอบอ้าว ร่างกายนักกีฬาซูโม่ที่เข้าแข่งขันในนาโกย่าบาโฉะจึงส่องประกายแวววาวด้วยหยาดเหงื่ออยู่ตลอดเวลา

ฟุคุโอกะบาโฉะ

การแข่งขันครั้งสุดท้ายประจำปีจะจัดขึ้นที่ศูนย์ฟุคุโอกะโคกุไซ ฟุคุโอกะคือเมืองในเขตพื้นที่เกาะคิวชูตอนใต้ของญี่ปุ่น การแข่งขันที่นี่จะจัดขึ้นตลอดระยะเวลา 2 สัปดาห์นับตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน และหากแสดงผลงานออกมาได้ดีที่บาโฉะครั้งนี้ อันดับของนักกีฬาซูโม่จะมีโอกาสก้าวกระโดดขึ้นในช่วงปีใหม่

 

ธงหลากสีพร้อมชื่อของบรรดานักกีฬาซูโม่ที่เข้าร่วมการแข่งขัน

 

กิจกรรมเกี่ยวซูโม่อื่นๆ

เนื่องจากจำนวนการแข่งขันมีค่อนข้างจำกัดโดยเฉพาะอย่างยิ่งนอกกรุงโตเกียว ผู้คนบางส่วนจึงประสบปัญหาในการที่จะเข้าชมบาโฉะ อย่างไรก็ตาม คุณยังสามารถเปิดประสบการณ์รับชมกีฬาเก่าแก่ประเภทนี้ได้ด้วยวิธีอื่น ๆ สมาคมซูโม่บริหารจัดการทัวร์ที่มีให้บริการหลายจุดในประเทศ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมการแข่งขันนัดฝึกซ้อม การสาธิต และการอธิบายท่าต่าง ๆ ที่ใช้ในกีฬาซูโม่ รวมถึงการบรรยายจากนักกีฬาซูโม่บางส่วน กิจกรรมทั้งหมดนี้ครอบคลุมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการตีกลองไทโกะอุจิวะเกะซึ่งใช้ประกอบการแข่งขัน ตลอดไปจนถึงบทเพลงซูโม่พื้นบ้าน สาธิตวิธีจัดทรงผมของนักกีฬาซูโม่ รวมถึงจำลองพิธีกรรมก่อนย่างก้าวเข้าสู่เวทีอันศักดิ์สิทธิ์

ทุก ๆ ปีศาลเจ้าเมจิจิงกู ในโตเกียวจะจัดพิธีกรรมหลายอย่างที่นักกีฬาซูโม่เข้าร่วมและเปิดให้คนทั่วไปเข้าชม รวมถึงการจำลองพิธีเข้าเวทีด้วยเช่นกัน ส่วนอิชชินนากิซูโม่® คือกิจกรรมสุดแปลกที่ให้กลุ่มนักกีฬาซูโม่อุ้มเด็กทารกเอาไว้จนกว่าคนหนึ่งจะร้องไห้ นักกีฬาคนที่อุ้มจึงจะได้ตำแหน่งผู้ชนะไปครอง กิจกรรมที่ว่านี้เป็นสิ่งน่าสนใจที่ได้รับความนิยมในศาลเจ้าและวัดหลายแห่งทั่วประเทศ รวมทั้งวัดเซนโซจิที่อาซากุสะในเดือนเมษายนของแต่ละปี

โรงฝึกซูโม่มากมายหลายแห่งกระจุกตัวรวมกันอยู่ใกล้กับเรียวโงกุโคกูงิกังในโตเกียว รูปลักษณ์ภายนอกของโรงฝึกเหล่านี้คืออาคารธรรมดาที่หลบมุมอยู่ในถนนเส้นรอง พร้อมด้วยแผ่นป้ายเรียบ ๆ ที่เผยถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเบื้องหลังบานประตูที่ปิดไว้ หัวหน้าโรงฝึกจะใช้พื้นที่นี้ในช่วงเช้าเพื่อกำกับนักกีฬาภายใต้การดูแลของตนให้เข้ารับการฝึกฝนสุดเข้มงวดตามที่กำหนด

การเยี่ยมเยือนโรงฝึกซูโม่

แม้ว่านักท่องเที่ยวจะไม่ควรไปที่โรงฝึกเองอย่างไม่เป็นกิจจะลักษณะ แต่สำนักงานตัวแทนการท่องเที่ยวบางแห่งก็สามารถจัดทัวร์สำหรับกลุ่มขนาดเล็กได้ ปกติ นักท่องเที่ยวจะได้รับชมนักกีฬาซูโม่ฝึกซ้อมท่าต่าง ๆ รวมถึงสร้างเสริมพละกำลังและความแข็งแรงของร่างกาย ภายใต้การเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิดของหัวหน้าโรงฝึกที่มักจะเป็นนักกีฬาที่อำลาวงการแล้ว และนักกีฬารุ่นพี่ที่ได้รับความไว้วางใจ

ช่วงฤดูร้อนที่อบอ้าว ร่างกายนักกีฬาซูโม่จะเปียกชุ่มด้วยหยาดเหงื่อ ช่วงฤดูหนาวที่เย็นยะเยือก การออกแรงของพวกเขาก็จะส่งพลังงานออกมาจนฝ้าขึ้นกระจก

 

เต็มอิ่มไปกับจังโกะนาเบะ

 

กินเหมือนนักกีฬาซูโม่

สำหรับใครก็ตามที่อยากบ่มเพาะรูปร่างแบบนักกีฬาซูโม่ อันดับแรกเลยคือให้ไปเยือนภัตตาคารที่เสิร์ฟจังโกะนาเบะ ซึ่งเป็นเมนูที่ประกอบด้วยผัก เนื้อสัตว์ และอาหารทะเลปรุงในหม้อขนาดใหญ่ นักกีฬาซูโม่จะรับประทานจังโกะนาเบะในปริมาณมหาศาล ดังนั้นเมนูนี้จึงเป็นที่มาของรอบเอวพวกเขา คุณจะพบกับภัตตาคารที่เสิร์ฟจังโกะนาเบะโดยเฉพาะได้หลายแห่งในพื้นที่รอบเรียวโงกุโคกูงิกัง แต่ถ้าไม่แน่ใจ สิ่งที่ต้องทำคือแค่เดินตามนักกีฬาซูโม่ผู้หิวโหยหลังการออกกำลังกายตอนเช้าไปเท่านั้นเอง

ความเปลี่ยนแปลงในกีฬาซูโม่

แม้จะมีธรรมเนียมหลายข้อจะอนุรักษ์เอาไว้อย่างเคร่งครัด แต่สัญญาณบอกว่าซูโม่อาจจะกำลังเปิดรับอิทธิพลภายนอก ทุกวันนี้คุณจะพบเห็นนักกีฬาซูโม่หลายคนที่เป็นชาวต่างชาติ ริกิชิบางส่วนในรุ่นอันดับต้น ๆ บ้างก็มาจากมองโกเลีย บัลเกเรีย และบราซิล นอกจากนี้ยังมีการพูดคุยเกี่ยวกับการบรรจุกีฬาซูโม่เข้าเป็นส่วนหนึ่งในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกอีกด้วย

แม้การบรรจุกีฬาซูโม่จะเกิดขึ้นไม่ทันช่วงที่โตเกียวเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาโอลิมปิกในปี 2020 แต่จะถูกนำมาแสดงให้เห็นถึงธรรมเนียมการกีฬาที่ไม่เหมือนใครของญี่ปุ่น

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีสัญญาณบอกเป็นนัยด้วยซ้ำไปว่าผู้หญิงอาจมีสิทธิ์ได้รับบทบาทที่สำคัญมากยิ่งขึ้นในแวดวงกีฬาซูโม่ แต่เนื่องจากในปัจจุบันผู้หญิงยังไม่ได้รับอนุญาตให้แม้แต่จะเหยียบย่างเข้าไปในโดะเฮียว ความเปลี่ยนแปลงในระดับนี้จึงยังแลดูน่าจะต้องใช้เวลาอีกยาวนาน

ข้อมูลทั้งหมดถูกต้อง ณ เดือนมิถุนายนค.ศ. 2020

 

ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาตรวจสอบข้อมูลกับเวบไซต์อย่างเป็นทางการ



* ข้อมูลต่างๆ บนเวบไซต์ อาจมีการเปลี่ยนแปลงสืบเนื่องจากสถานการณ์ COVID-19

คุณอาจจะชอบ...

Please Choose Your Language

Browse the JNTO site in one of multiple languages