ตั๋วสำหรับการผจญภัยของคุณบนเส้นทางที่ไม่มีใครรู้จักในญี่ปุ่น
ไม่มีวิธีการเดินทางใดที่มีความยืดหยุ่นและเป็นอิสระเท่ากับการขับรถด้วยตัวคุณเองขณะท่องเที่ยวในญี่ปุ่น ถึงแม้ว่าพาสสำหรับทางด่วนของญี่ปุ่น (Japan Expressway Pass) (JEP) ได้หยุดการจำหน่ายไปตั้งแต่เดือนธันวาคม ค.ศ. 2023 แต่ยังมีพาสสำหรับทางด่วนในภูมิภาคต่างๆที่สามารถเป็นทางเลือกให้กับนักท่องเที่ยวเพื่อลดความกังวัลเกี่ยวกับราคาและความซับซ้อนในการคำนวนค่าผ่านทางของทางด่วนสายต่างๆ
พาสต่างๆเหล่านี้สามารถซื้อได้เฉพาะนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเท่านั้น โดยสามารถใช้ทางด่วนเส้นหลักสายต่างๆในภูมิภาคที่ระบุไว้ได้อย่างไม่จำกัด ทำให้ง่ายต่อการสำรวจเส้นทางที่ยังไม่มีใครรู้จักและไม่ต้องกังวลกับตารางเวลาของรถไฟ
พาสมีให้เลือกตั้งแต่ระยะเวลา 2 ถึง 14 วัน ครอบคลุมตั้งแต่การพักผ่อนสุดสัปดาห์ไปจนถึงการท่องเที่ยวระยะสั้น การซื้อพาสสำหรับทางด่วน โปรดตรวจสอบว่าบริษัทรถเช่าของคุณสามารถเตรียมพาสที่เหมาะสมกับคุณได้ก่อนดำเนินการจองรถ เมื่อคุณเดินทางมาถึงบริษัทเช่ารถและกรอกเอกสารต่างๆที่เกี่ยวข้องรวมถึงแสดงพาสปอรต์ บริษัทเช่ารถจะมอบบัตร ETC ชนิดพิเศษที่คุณสามารถผ่านด่านเก็บค่าผ่านทางได้แบบอัตโนมัติ ทำให้สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้สะดวกถึงแม้ว่าคุณจะไม่สามารถพูดภาษาญี่ปุ่นได้ก็ตาม
โปรดอ่านข้อมูลที่ระบุไว้ในพาส รวมถึงคำแนะนำพิเศษต่างๆสำหรับการซื้อพาส และข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถเดินทางไปได้โดยใช้พาสเหล่านี้
พาสสำหรับทางด่วนในฮอกไกโด: สำรวจเกาะเหนือสุดของญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ
บริเวณที่สามารถใช้พาสสำหรับทางด่วนในฮอกไกโดครอบคลุมไปถึงเมืองหลวงของจังหวัด ได้แก่ ซัปโปโร 
รวมถึงสกีรีสอร์ต นิเซะโกะ เมืองที่มีทิวทัศน์สวยงามทั้งสองเมือง ได้แก่ โอตารุ และ โอะบิฮิโระ รวมถึงสนามบิน ชิน-ชิโตเสะ และสนามบินอาซาฮิคะวะ นอกจากนี้เมื่อใช้ร่วมกับถนนที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายอื่นๆแล้ว สามารถเดินทางไปได้ถึงเมืองท่า ฮาโกะดาเตะ ราคาสำหรับพาสประเภทนี้ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ต้องการใช้ โปรดตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดได้ที่ ที่นี่
ทะเลสาบโทยะ ความงดงามที่สั่งสมมายาวนานกว่า 100,000 ปี
ทะเลสาบโทยะที่น่าตื่นตะลึง เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติชิโคะสึโทยะ
สามารถเดินทางไปยังทะเลสาบโทยะได้โดยใช้พาสสำหรับทางด่วนในฮอกไกโด ทะเลสาบโทยะ เกิดขึ้นเมื่อกว่า 100,000 ปีก่อนจากการระเบิดของภูเขาไฟ ทุกวันนี้เป็นที่รู้จักเนื่องจากความงดงาม น้ำใสสะอาด และทิวทัศน์ที่ขรุขระเขียวขจี มีกิจกรรมต่างๆให้ทำมากมายเช่น การเดินเขา การตั้งแคมป์ พายเรือแคนู และปั่นจักรยาน รวมถึงนักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมทัศนียภาพขณะนั่งเรือสบายๆข้ามทะเลสาบ หรือขึ้นรถกระเช้าไปยัง ภูเขาอุซุ ที่อยู่ใกล้เคียง ตามด้วยพักผ่อนด้วยการอาบน้ำในเมืองน้ำพุร้อน โทโยโกะ อนเซ็น
โอตารุ จากเมืองที่เคยเป็นเมืองท่าที่เร่งรีบ กลายเป็นเมืองสำหรับการพักผ่อนแสนวิเศษ
แสงตะเกียงแก๊สที่อ่อนโยนประดับอยู่ตามบริเวณริมคลองในยามค่ำคืน
โอตารุ เป็นเมืองริมทะเลของฮอกไกโด ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการค้าขาย จนกระทั่งเส้นทางเดินเรือได้เปลี่ยนแปลงไป บริษัทขนส่งต่างๆเปลี่ยนไปขนถ่ายสินค้าที่ท่าเรืออื่นๆที่มีขนาดใหญ่กว่า แต่แทนที่จะรื้อถอนโกดังสินค้าที่ตั้งอยู่ริมคลองออกไป เมืองโอตารุได้ปรับปรุงพื้นที่เหล่านี้ให้กลายเป็นร้านอาหาร แกลลอรี่ และร้านค้าต่างๆ ช่วยสร้างความมีชีวิตชีวาให้กับพื้นที่และยิ่งมีเสน่ห์มากขึ้นในเวลาเย็น โดยมีการจุดตะเกียงน้ำมันแบบเก่าซึ่งสร้างบรรยากาศที่นุ่มนวลและโรแมนติกให้กับพื้นที่แห่งนี้ โอตารุเป็นชุมชนที่เปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรโดยไม่ลืมเรื่องราวในอดีตของตนเอง
พาสสำหรับทางด่วนในโทโฮคุ: สัมผัสสมบัติล้ำค่าในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ขับรถผ่านภูมิภาคโทโฮคุทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นบนเกาะฮอนชู พาสนี้สามารถใช้ได้ตลอดเส้นทางตั้งแต่จุดเหนือสุดของภูมิภาค ได้แก่ จังหวัด อะโอโมริ ผ่านจังหวัด อิวะเตะ จังหวัด อะคิตะ จังหวัด มิยะงิ จังหวัด ยะมะงะตะ และจังหวัด ฟุคุชิมะ โดยพาสนี้สามารถใช้ได้ครอบคลุมเมืองสำคัญต่างๆ เช่น เซนได และ โมริโอกะ รวมถึงชายฝั่งตะวันตกและชายฝั่งตะวันออกของภูมิภาค โทโฮคุ สำหรับรายละเอียดของพาสชนิดต่างๆและบริษัทเช่ารถที่เข้าร่วมโครงการสามารถค้นหาข้อมูลได้ ที่นี่
รู้จ้กกับเพื่อนขนปุกปุยได้ที่หมู่บ้านหมาป่าซะโอ ในจังหวัดมิยะงิ
สัตว์ที่น่ารักตัวนี้เป็นหนึ่งในสุนัขจิ้งจอกกว่า 100 ตัวของหมู่บ้านแห่งนี้
ที่หมู่บ้านกลางป่าของชิโรอิชิ ในจังหวัดมิยะงิ หมู่บ้านหมาป่าซะโอ เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถทำความรู้จักกับสุนัขจิ้งจอกญี่ปุ่นที่แสนน่ารักจำนวน 8 สายพันธุ์ที่แตกต่างกัน สัตว์ต่างๆสามารถใช้ชีวิตอย่างอิสระตามธรรมชาติในพื้นที่กลางแจ้ง รวมถึงในศาลเจ้าสำหรับสักการะเทพเจ้าอินาริซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งการปลูกข้าวและความเจริญรุ่งเรือง ซึ่งตามตำนานมีสุนัขจิ้งจอกทำหน้าที่เป็นผู้ส่งสาร นักท่องเที่ยวสามารถให้อาหารสุนัขจิ้งจอกภายในพื้นที่ที่กำหนดไว้ และสามารถอุ้มสุนัขจิ้งจอกได้ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่
การผจญภัยบนท้องฟ้าโดยฮักโกดะ โรปเวย์
ฮักโกดะ โรปเวย์ มีทัศนียภาพที่งดงามซึ่งเปลี่ยนไปตามฤดูกาล เครดิตภาพ : ฮักโกดะ โรปเวย์
ฮักโกดะ โรปเวย์ ระยะทางยาว 2.5 กิโลเมตรในอะโอโมริจะพานักท่องเที่ยวขึ้นไปยังยอดเขาของภูเขาทะโมยาชิ ที่ความสูง 1,324 เมตร ซึ่งมองเห็นทิวทัศน์น่าตื่นตาตื่นใจของบึงทะโมยาชิที่แต่งแต้มด้วยสีสันในฤดูใบไม้ร่วง ขาวโพลนด้วยหิมะในฤดูหนาว และเขียวขจีอย่างอ่อนโยนในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินป่าระยะเวลา 1 ชั่วโมงไปตามเส้นทางฮักโกดะ โกลด์ และเส้นทางเดินเขาระยะเวลา 4 ชั่วโมงไปยังซุกายุ อนเซ็น ซึ่งเป็นน้ำพุร้อนจากภูเขา
พาสสำหรับทางด่วนในเซ็นทรัลนิปปอน : สำรวจสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจและอื่นๆอีกมากมาย
พาสสำหรับทางด่วนในเซ็นทรัลนิปปอนครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่ของญี่ปุ่นตั้งแต่ฝั่งตะวันตกของโตเกียวยาวตลอดไปจนถึง เกียวโต และเส้นทางแยกด้านทิศใต้ของเส้นทางหลักครอบคลุมไปถึงพื้นที่รีสอร์ทบนภูเขา ฮาโกเนะ รวมถึงจังหวัด ชิซุโอกะ นาโกย่า และพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ อิเสะ ในขณะที่เส้นทางแยกด้านทิศเหนือครอบคลุมไปถึงเมืองปราสาท มัตสึโมะโตะ ของจังหวัดนะงะโนะ พื้นที่ด้านวัฒนธรรม คานาซาวะ ใน อิชิคะวะ และ ทะเลสาบบิวะ ใน ชิงะ สามารถค้นหาข้อมูลของพาสและรายละเอียดทั้งหมด รวมถึงบริษัทเช่ารถที่เข้าร่วมโครงการได้ ที่นี่ .
ประวัติศาสตร์ 400 ปีของหุบเขาโครังเคและต้นเมเปิล 4,000 ต้น
เส้นทางเดินเขาของหุบเขาโครังเคทอดยาวไปตามแม่น้ำโทโมเอะ ©TOURISM TOYOTA
เมื่อประมาณ 400 ปีก่อน วัดโคจะคุจิ ในจังหวัด ไอจิ เริ่มปลูกต้นเมเปิลตามเส้นทางที่มุ่งหน้าไปยังลานวัดและจากนั้นผู้คนในบริเวณนั้นได้เริ่มต้นทำเช่นเดียวกัน ทำให้พื้นที่บริเวณนั้นกลายเป็นเส้นทางเดินชมหุบเขาริมแม่น้ำที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ด้วยต้นเมเปิลกว่า 4,000 ต้น และ 11 สายพันธุ์ที่แตกต่างกันทำให้ หุบเขาโครังเค สวยงามทุกช่วงเวลาตลอดทั้งปี แต่จะงดงามเป็นพิเศษในฤดูใบไม้ร่วง โดยเฉพาะในช่วงที่มีการประดับไฟพิเศษยามค่ำคืน
หมู่บ้านอนุรักษ์บ้านหลังคามุงจากแบบดั้งเดิมในชิราคาวะโก
ชิราคาวะโกเปิดให้นักท่องเที่ยวพักค้างคืนในบ้านแบบดั้งเดิมที่แสนพิเศษ
ชิราคาวะโก เป็นหมู่บ้านที่ถูกหยุดเวลาไว้ซึ่งตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ภูเขาของ กิฟุ โดยมีสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ได้แก่ “กัชโช-ซุคุริ” ตั้งชื่อตามลักษณะของหลังคามุงจากที่สูงชันซึ่งมีลักษณะคล้ายกับการประสานมือในขณะสวดมนต์ (“กัชโช”) ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นเพื่อป้องกันการละสมตัวของหิมะในพื้นที่ที่มีหิมะตกหนัก นอกจากบ้านเก่าอายุกว่าร้อยปีเหล่านี้ที่ถูกอนุรักษ์ไว้ในพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งแห่งนี้แล้ว ชิราคาวะโกยังมีโรงแรมและบ้านแบบกัชโช-ซุคุริที่เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถพักค้างคืนได้
พาสสำหรับทางด่วนในซันอิน-เซะโตะอุจิ-ชิโกะกุ : ท่องเที่ยวไปพร้อมกับทิวทัศน์ของภูเขาและมหาสมุทรอันบริสุทธิ์
พาสประเภทนี้คลอบคลุมพื้นที่ภูมิภาคซันอินและ เซะโตะอุจิ (ชายฝั่งทางด้านทิศเหนือและทิศใต้ของภูมิภาคทางตะวันตกสุดของเกาะฮอนชู) รวมถึง ชิโกะกุ ซึ่งเป็นเกาะที่เล็กที่สุดในเกาะหลักทั้ง 4 เกาะของญี่ปุ่น เริ่มต้นเส้นทางจากทะคะระซึคะและ โกเบ ในเฮียวโงะ ขยายออกไปทางตะวันตกมุ่งสู่ ชิโมะโนะเซคิ ซึ่งเป็นพื้นที่ปลายสุดของเกาะฮอนชู และลงใต้ผ่าน ฮิโรชิมะ และเข้าสู่ชิโกะกุไปทางตอนใต้ สามารถค้นหาข้อมูลทั้งหมดและบริษัทรถเช่าที่เข้าร่วมโครงการได้ ที่นี่
น้ำพุร้อนคิโนะซะกิ และเส้นทางเดินผ่านโรงอาบน้ำทั้งเจ็ด
โรงแรมแบบดั้งเดิม ร้านอาหารที่ให้บริการอาหารท้องถิ่น และเวิร์คช็อปงานฝีมือที่เรียงรายอยู่ตลอดลำคลองหลักของคิโนะซะกิ ©Toyooka City
ณ พื้นที่ด้านตะวันออกสุดของภูมิภาคซันอิน โรงอาบน้ำพุร้อนของคิโนะซะกิ สามารถดึงดูดผู้มาเยือนตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 ในบริเวณใจกลางของเมืองมีคลองที่มีต้นหลิวเรียงรายและขนาบข้างด้วยโรงแรมและร้านอาหารแบบดั้งเดิม ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเดินเล่นพร้อมกับสวมชุดกิโมโนชนิดน้ำหนักเบาแบบดั้งเดิมที่มีให้บริการสำหรับนักท่องเที่ยว และนักท่องเที่ยวที่พักค้างคืนจะได้รับพาสสำหรับใช้โรงอาบน้ำสาธารณะ 7 แห่งที่กระจายตัวอยู่ในบริเวณใกล้เคียง รวมถึงบ่อแช่เท้าสาธารณะที่เปิดให้บริการสำหรับทุกคน (โปรดทราบว่าโรงแรมบางแห่งไม่มีพาสดังกล่าวให้บริการ ดังนั้นกรุณาตรวจสอบล่วงหน้า)
เนินทรายทตโตริ เกิดขึ้นจากคลื่นและลมเป็นเวลากว่าหนึ่งแสนปี
เนินทรายของจังหวัดทตโตริเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่น่าประทับใจที่สุดของญี่ปุ่น
ในทตโตริ มี เนินทราย ที่สวยงามน่าทึ่งทอดยาว 16 กิโลเมตรเลียบทะเลญี่ปุ่น เกิดขึ้นจากคลื่นที่พัดพาหินแกรนิตมาทับถมกันบริเวณชายฝั่งและลมแรงที่หอบเอาหินเหล่านั้นขึ้นไปตามทางลาดชันเป็นระยะเวลากว่าหนึ่งแสนปี ด้วยความสูงถึง 47 เมตร ทำให้สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆบนเนินทรายนี้ได้ เช่น แซนบอร์ดดิ้ง ขี่จักรยาน คลาสโยคะ และการขี่อูฐ รวมถึงนักท่องเที่ยวที่สนใจด้านศิลปะสามารถร่วมกันสร้างประติมากรรมทรายได้
พาสสำหรับทางด่วนในคิวชู : ผจญภัย น้ำพุร้อน และรีสอร์ทที่มีเอกลักษณ์
พาสสำหรับทางด่วนในคิวชูครอบคลุมพื้นที่เกาะ คิวชู ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น เส้นทางต่างๆครอบคลุมเกือบทั่วพื้นที่ของเกาะ เริ่มต้นจากโมจิและ คิตะคิวชู ทางตอนเหนือ ผ่านไปยัง ซาเซโบะ นางาซากิ และคุมะโมะโตะ ทางตะวันตก และลงมาทาง คะโงะชิมะ และ มิยะซะกิ ทางตอนใต้ รวมไปถึง เบปปุ ทางด้านตะวันออก นอกจากนี้ยังครอบคลุมไปถึงพื้นที่ด้านใน เช่น เส้นทางที่มุ่งไปยัง ยุฟุอิน (จังหวัด โออิตะ และ ดะไซฟุ (จังหวัด ฟุคุโอกะ สามารถค้นหาข้อมูลและรายละเอียดของพาส รวมถึงบริษัทเช่ารถที่ร่วมโครงการได้ ที่นี่
เบปปุ แหล่งแช่น้ำพุร้อน และนรกทั้งเจ็ด
น้ำจากอุมิ จิโกคุ หรือ “นรกทะเล” มีเฉดสีที่โดดเด่นของสีน้ำเงินโคบอลต์
เบปปุ ในจังหวัดโออิตะเป็นหนึ่งในเมืองน้ำพุร้อนที่มีการนำน้ำพุร้อนจากใต้ดินขึ้นมาใช้มากที่สุดในญี่ปุ่น ที่นี่มีไอน้ำพวยพุ่งจากโรงแรมและโรงอาบน้ำมากมายจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของทิวทัศน์เส้นขอบฟ้าของเมืองแห่งนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถนำไอน้ำเหล่านั้นไปใช้ปรุงอาหารประเภทเนื้อสัตว์และผักต่างๆได้ที่ร้านอาหาร “ที่ปรุงอาหารด้วยวิธีนึ่ง” ที่มีอยู่หลายร้าน น้ำพุร้อนของเบปปุนั้นร้อนเกินไปสำหรับการแช่จึงเป็นที่รู้จักในนาม “นรกทั้งเจ็ด ,” ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเพื่อสัมผัสกับพลังที่แท้จริงจากธรรมชาติ
เฮาส์เทนบอช รีสอร์ทที่มาพร้อมกับสวนดอกไม้ตามฤดูกาล พิพิธภัณฑ์ศิลปะ สวนสนุก และอื่นๆ
เฮาส์เทนบอช เปิดให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับบรรยากาศแบบยุโรปภายในประเทศญี่ปุ่น เครดิตภาพ: ©Huis Ten Bosch/J-20916
เฮาส์เทนบอช ในจังหวัดนางาซากิใช้ชื่อเดียวกันกับพระราชวังในเนเธอร์แลนด์ เป็นรีสอร์ทสำหรับพักผ่อนหย่อนใจตามแบบฉบับของราชวงศ์ โดยแบ่งออกเป็นส่วนธีมปาร์คและฮาร์เบอร์โซน ที่เฮาส์เทนบอชยังมีสวนดอกไม้และคลองสำหรับล่องเรือ มีอาคารที่โอ่อ่าเป็นที่ตั้งของทุกๆสิ่งตั้งแต่โรงแรมและพิพิธภัณฑ์ศิลปะไปจนถึงกิจกรรมสันทนาการต่างๆที่ใช้ VR นอกจากนี้ยังมีบริการอาหารค่ำบนเรือ ณ อ่าวโอมุระ ที่อยู่ติดกัน และน้ำพุร้อนที่พร้อมมอบความรู้สึกที่หรูหรา
เคล็ดลับสำคัญสำหรับการขับรถในญี่ปุ่น
ตอนนี้คุณคงรู้สึกอยากจะออกเดินทางไปตามท้องถนนที่เปิดโล่ง แต่มีบางสิ่งที่คุณควรรู้ก่อนที่จะขับรถออกไปท่องเที่ยว การขับรถในญี่ปุ่นจำเป็นต้องมีใบอนุญาตขับขี่สากลซึ่งออกให้โดยองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการขับขี่ยานยานต์จากประเทศของคุณก่อนที่จะเดินทางมายังประเทศญี่ปุ่น และโปรดรับทราบว่า ถึงแม้ว่าใบอนุญาตขับขี่ของคุณจะต้องออกให้โดยประเทศหรือภูมิภาคที่เข้าเป็นภาคีอนุสัญญาการจาราจรทางถนนสากล ปี ค.ศ. 1949 (อนุสัญญาเจนีวา)แล้วก็ตาม แต่นักท่องเที่ยวจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เยอรมัน ฝรั่งเศส เบลเยี่ยม โมนาโค และไต้หวันมี ขั้นตอนที่แตกต่างกัน แต่ข้อจำกัดและขั้นตอนต่างๆมีความแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ ดังนั้นโปรดศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการขอรับใบอนุญาตขับขี่สากลได้ที่ คำแนะนำเกี่ยวกับการเช่ารถ
นอกจากนี้พื้นที่ให้บริการริมทางหลวงและสถานีพักรถต่างๆในญี่ปุ่นพร้อมให้บริการเพื่อความสะดวกสบายอย่างเต็มที่เมื่อคุณต้องการพักผ่อนจากการขับรถ โดยทั่วไปมีบริการจำหน่ายอาหารและของที่ระลึกจากท้องถิ่น บริการข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว ห้องน้ำสะอาดและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมถึงบางแห่งยังมีทิวทัศน์ที่สวยงามให้ได้แวะชมอีกด้วย อย่าลืมแวะพักผ่อนและเพลิดเพลินไปกับบริการต่างๆเหล่านี้
ขณะขับรถในญี่ปุ่นผู้โดยสารทุกคนจำเป็นต้องคาดเข็มขัดนิรภัยและห้ามใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่ต่างๆขณะขับขี่ นอกจากนี้โปรดทราบว่าญี่ปุ่นมีนโยบายห้ามขับขี่ภายใต้อิทธิพลจากแอลกอฮอล และนอกจากในกรณีที่มีการระบุไว้เป็นอื่น บนทางด่วนกำหนดความเร็วไว้ไม่เกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (สำหรับยานพาหนะขนาดทั่วไป : สำหรับยานพาหนะประเภทอื่นๆอาจมีข้อกำหนดที่แตกต่างกัน) ระหว่างการขับขี่บนท้องถนน คุณจะต้องหยุดรถที่จุดตัดกับรางรถไฟทุกแห่ง แม้ว่าไม้กั้นทางจะยกขึ้นหรือในขณะที่ไม่มีรถไฟวิ่งผ่าน เบอร์โทรศัพท์สำหรับแจ้งเหตุฉุกเฉิน ได้แก่ 110 และตู้โทรศัพท์มีให้บริการบนทางด่วนสายหลักตลอดระยะทางทุกๆ 1 กิโลเมตร สำหรับเคล็ดลับเกี่ยวกับกฎจราจรและมารยาทในการขับขี่อื่นๆสามารถค้นหาได้ ที่นี่ รวมทั้งคำอธิบายเกี่ยวกับเครื่องหมายจราจรในญี่ปุ่น นอกจากนี้ คำแนะนำเกี่ยวกับการเช่ารถ จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดกับคุณ เหลือไว้แต่ความทรงจำที่ประทับใจไม่รู้ลืม
ถนนที่เปิดโล่งและท้องฟ้าปลอดโปร่งจะทำให้การท่องเที่ยวของคุณน่าจดจำไม่รู้ลืม
* ข้อมูลต่างๆ บนเวบไซต์ อาจมีการเปลี่ยนแปลงสืบเนื่องจากสถานการณ์ COVID-19
