แผนการเดินทาง สำรวจทะเลสาบทั้งห้าแห่งภูเขาไฟฟูจิ พักผ่อนหย่อนใจริมทะเลสาบและชมวิวที่เชิงภูเขาไฟฟูจิ

เพลิดเพลินไปกับการค้างคืนริมทะเลสาบคาวากุจิ ในยามค่ำคืน และสำรวจพื้นที่โดยรอบในยามกลางวัน คุณสามารถชมทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดของ ภูเขาไฟฟูจิได้ตอนเช้า เนื่องจากเมฆหมอกจะเคลื่อนมาบดบังภูเขา เมื่อผ่านช่วงเข้าช่วงกลางวัน ตื่นแต่เช้าหน่อย แล้วมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือของทะเลสาบ เพื่อชมทิวทัศน์ที่สวยที่สุด สถานที่ท่องเที่ยวใกล้ ๆ คือ สวนสนุกฟูจิคิวไฮแลนด์ บ่อน้ำพุร้อนจำนวนมาก ป่าดนตรีคาวากุจิโกะ และพิพิธภัณฑ์อีกหลายแห่ง

ภูเขา เท็นโจตั้งตระหง่านเหนือทะเลสาบคาวากุจิฝั่งตะวันออก และสามารถเดินทางมาถึงได้อย่างง่ายดายด้วยการโดยสารกระเช้าไฟฟ้า ชมทิวทัศน์ภูเขาไฟฟูจิ . นั่งกระเช้าไฟฟ้าระยะทาง 1,000 เมตรไปจนถึงยอดเขา เพื่อดื่มด่ำไปกับทิวทัศน์แบบพาโนราม่า ตลอดทางคุณจะได้เห็นอนุสรณ์จำนวนมาก และภาพต่าง ๆ จากนิทานพื้นบ้านที่เหมาะสำหรับเด็ก ๆ เช่น ภาพกระต่ายแสนฉลาดที่เอาคืนเจ้าทานุกิ (จิ้งจอกแร็คคูน) สุดเจ้าเล่ห์ ไหล่เขาจะงดงามจับตาเป็นพิเศษในช่วงเดือนมิถุนายนและเดือนกรกฎาคม เมื่อไฮเดรนเยียออกดอกอวดสีสันสดใส สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยู่เฉยไม่ได้ ก็สามารถเดินขึ้นเขาจากต้นทางเดินเขาที่จุดเริ่มต้นตั้งอยู่ใกล้กับสถานีกระเช้าไฟฟ้า

อรมุ่งหน้าไปยัง หมู่บ้านน้ำใส โอชิโนะฮัคไค แล้วคุณจะได้ตกตะลึงไปกับบ่อน้ำอันเงียบสงบหลายบ่อที่ล้อมรอบด้วยบ้านที่ของขุนนางญี่ปุ่นหลายหลังที่ได้รับการอนุรักษ์เอาไว้เป็นอย่างดี เนื่องจากที่นี่มีภูเขาไฟฟูจิ เป็นฉากหลัง คุณจะรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองหลุดเข้าไปอยู่ในภาพพิมพ์แบบญี่ปุ่นสุดคลาสสิคของโฮะคุไซ เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของสถานที่แห่งนี้ที่พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งฮันโนะกิ บายาชิ ชิเรียวกัง แล้วเพลิดเพลินไปกับอาหารกลางวันที่แผงขายอาหารริมบ่อน้ำที่มีอยู่มากมาย

เนื่องจากทะเลสาบยะมะนะกะเป็นทะเลสาบที่ใหญ่สุดในบรรดาทะเลสาบทั้งห้าแห่งภูเขาไฟฟูจิ ที่นี่จึงเป็นตัวเลือกที่ดีในการมองหาที่พักยามค่ำคืน โดยโรงแรมและที่พักจำนวนมากตั้งอยู่พื้นที่ นอกจากนี้คุณยังสามารถพบบ่อน้ำพุร้อนหลายแห่งได้ที่ทางทิศตะวันตกของทะเลสาบ ซึ่งบ่อน้ำพุร้อนเหล่านี้จะมีทิวทัศน์อันงดงามของ ภูเขาไฟฟูจิที่ตั้งอยู่ไกล ๆ

หากคุณสนใจการตั้งแคมป์ ตกปลา หรือล่องเรือ ก็ขอแนะนำให้เดินทางไปยังทะเลสาบไซโกะ ที่นี่ก็ยังเป็นแหล่งที่ดีสำหรับการเดินทางท่องไปตามทางเดินขึ้นเขาอันคดเคี้ยวที่พาดผ่านภูเขาต่าง ๆ เมื่อไปตามแนวป่าอาโอกิงาฮาระ คุณก็จะได้พบกับถ้ำสามแห่งที่นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมได้ ถ้ำค้างคาวทะเลสาบไซโกะจะเป็นถ้ำที่ใหญ่ที่สุด โดยมีห้องและอุโมงค์อยู่ในนั้นมากมาย

เช่นเดียวกันกับโอชิโนะฮัคไค อิยาชิโนะซาโตะที่อยู่ทางริมฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของทะเลสาบไซโกะก็ประกอบด้วยบ้านหลังคามุงจากแบบญี่ปุ่นเกือบ 24 หลัง ซึ่งบ้านเหล่านี้ได้รับการปรับปรุงและเปลี่ยนให้เป็นร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก พิพิธภัณฑ์ แหล่งจัดนิทรรศการ และพื้นที่แกลลอรี่ สำรวจหมู่บ้านเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับงานฝีมือพื้นบ้าน ระเบียบปฏิบัติ และวัฒนธรรมของภูมิภาคที่มีความหลากหลาย

ในป่าอาโอกิงาฮาระทางฝั่งทะเลสาบไซโกะจะมีถ้ำสามแห่งที่ได้สร้างทางเดินและบันไดเอาไว้ทำให้คุณสามารถเข้าไปในถ้ำได้โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ หรือคนนำทาง นอกจากถ้ำค้างคาวไซโกะขนาดใหญ่แล้ว ยังมีถ้ำน้ำแข็งนารุซาวะ และถ้าลมฟุกะคุที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชม ตั้งแต่ต้นฤดูหนาวไปจนถึงกลางฤดูใบไม้ผลิ เสาน้ำแข็งขนาดใหญ่จะทำให้ภายในถ้ำน้ำแข็งนารุซาวะมีอากาศเย็นเฉียบ เมื่อหลายศตวรรษก่อน ถ้ำลมฟุกาคุมีไว้สำหรับเก็บน้ำแข็งที่ใช้ภูมิภาค เดินห่างออกมาอีก 15 นาทีก็จะพบกับถ้ำลมฟุกะคุุที่มีความงดงามของบ่อน้ำที่แข็งตัว ซึ่งคล้ายคลึงกับถ้ำก่อนหน้านี้

[ป่าอาโอกิงาฮาระ] (/spot/1335)ที่ทอดตัวอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเชิงเขาใกล้ทะเลสาบไซโกะเป็นป่าที่เติบโตอยู่เหนือที่ราบสูงลาวา โดยมีต้นเฮมล็อกและต้นสนไซเปรสอายุมากกว่า 300 ปีขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก ป่าเขียวชอุ่มแห่งนี้เต็มไปด้วยสัตว์ขนาดเล็กและนกหลายหลายสายพันธุ์ ที่นี่มีทางเดินและทางขึ้นเขาหลายเส้นให้คุณเลือกเดินสำรวจป่าอาโอกิงาฮาระ เนื่องจากป่าแห่งนี้มีต้นไม้ขึ้นอยู่หนาแน่น จึงสามารถหลงทางได้ง่าย โปรดจำไว้ว่าต้องไม่เดินออกนอกเส้นทาง

ทะเลสาบโชจิ เป็นทะเลสาบที่มีขนาดเล็กที่สุดในบรรดาทะเลสาบที่ตั้งอยู่ชายป่าอาโอกิงาฮาระ โดยทะเลสาบแห่งนี้อาจจะมีทิวทัศน์ที่งดงามที่สุดของภูเขาไฟฟูจิ (มองจากริมตลิ่งฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ) พื้นที่ส่วนมากในเขตนี้เป็นธรรมชาติ ทำให้มีโรงแรมไม่กี่แห่งตั้งอยู่ทางฝั่งเหนือเท่านั้น นักท่องเที่ยวที่ชอบการผจญภัยจะเพลิดเพลินไปกับการตั้งแคมป์ และเดินเขา ส่วนนักท่องเที่ยวที่ชอบอะไรสบาย ๆ มากกว่าก็สามารถเช่ากระท่อม หรือ “แกลมปิ้ง” ในกระโจมได้

ทะเลสาบโมโตสุที่อยู่สุดทิศตะวันตกเป็นที่รู้จัก เนื่องจากที่นี่ปรากฏอยู่บนธนบัตร 1,000 เยนของญี่ปุ่น ทะเลสาบแห่งนี้ไม่ได้มีเพียงแค่จุดชมวิวทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือที่มีทิวทัศน์อันงดงามของภูเขาเท่านั้น แต่น้ำใสแจ๋วในทะเลสาบยังเหมาะกับการทำกิจกรรมกลางแจ้ง อย่างการพายเรือคายัค และว่ายน้ำด้วย ตั้งแต่เดือนเมษายน จนถึงเดือนพฤษภาคม คุณจะได้ชมทุ่งดอกทิวลิปอันกว้างใหญ่ผลิดอกสีสันสดใส แต่งแต้มสีชมพูและสีม่วงให้กับ ทิวทัศน์ของภูเขาไฟฟูจิ

ผู้ที่ชื่นชอบความตื่นเต้นจะใช้เวลาทั้งวันเพลิดเพลินไปกับการนั่งรถไฟเหาะหลากหลายแบบได้ที่[สวนสนุกฟูจิคิวไฮแลนด์] (/spot/1332) สวนสนุกแห่งนี้ใช้เวลาเดินทางจากทะเลสาบคาวากุจิโกะ เพียงไม่นาน โดยที่นี่จะมีรถไฟเหาะที่เร็วและชันที่สุดในโลกอยู่หลายเครื่อง รวมถึงยังมีส่วนสวนสนุกธีมอะนิเมะที่เหมาะกับเด็ก ๆ อีกด้วย ที่ตั้งอันยอดเยี่ยมของสวนสนุกแห่งนี้อยู่ที่ฝั่งเหนือของเชิงภูเขาไฟฟูจิ ทำให้ที่นี่เป็นสวนสนุกที่มีความพิเศษอย่างยิ่ง ถึงแม้ว่าสวนสนุกจะมีคนมากในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดยาว แต่คุณก็สามารถซื้อบัตร priority pass หรือ บัตรลัดคิวเพื่อขึ้นรถไฟเหาะให้เร็วขึ้นได้