แผนการเดินทาง เส้นทางซากุระ ภูเขา โยชิโนะ นารา และเกียวโต ชื่นชมต้นซากุระเบ่งบานเต็มต้น สัญลักษณ์ของญี่ปุ่น

ภูเขา โยชิโนะ แหล่งมรดกโลกขององค์กรยูเนสโก เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติที่กว้างขวางใน จังหวัดนารา พื้นที่แห่งนี้เป็นที่รู้จักในนาม "อิจิโมคุ นิ เซ็มปง" ซึ่งหมายถึง "ความหรูหราแห่งการชมต้นซากุระ 1,000 ต้น" แต่จริงๆแล้วที่นี่มีต้นซากุระถึง 30,000 ต้น ทิวทัศน์นี้ปรากฏในวรรณกรรม บทกวี และเพลงญี่ปุ่นอยู่อย่างเนือง ๆ และปัจจุบันก็ยังคงเป็นภาพที่สร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้เยี่ยมชม

คุณจะได้พบศาลเจ้าและวัดวาอารามจำนวนมากบน ภูเขา โยชิโนะ ที่มีอายุกว่าศตวรรษ รวมถึงพระราชวังอิมพีเรียลที่สร้างในศตวรรษที่ 14 และห้องโถงซะโอโดะสูง 34 เมตร โดยบางครั้งคุณอาจเห็นสาวกศาสนาชูเกนโดที่ลึกลับหรือได้ยินเสียงหอยสังข์ที่ก้องกังวานในเนินเขา

ที่สถานีคินเท็ตสึโยชิโนะจะมีบริการกระเช้าลอยฟ้าและรถบัสไปยังส่วนบนของภูเขาในช่วงฤดูดอกซากุระ ตรวจสอบว่ากระเช้าลอยฟ้าเปิดให้ใช้บริการหรือไม่ก่อนออกเดินทาง ในกรณีที่กระเช้าลอยฟ้าปิดให้บริการ รถบัสเสริมจะเปิดให้บริการแทน

เมื่อถึงที่หมายแล้ว ให้หาที่ว่างและนั่งปิกนิกพร้อมกับชมดอกซากุระของคะคิโนะฮะซูชิ หรือข้าวปั้นขนาดพอดีคำโปะด้วยปลาแมคเคอเรล ปลาแซลมอน หรือปลากระพงเล็ก ห่อในใบพลับ

จุดแนะนำสำหรับชมดอกซากุระแห่งนี้เคยเป็นราชสำนักในที่ห่างไกลความเจริญของจักรพรรดิโกะ ไดโงะในศตวรรษที่ 14 ผู้ที่พ่ายแพ้ต่อนักรบตระกูลอาชิคางะและหลบหนีมาที่ภูเขา โยชิโนะ ที่นี่ไม่มีซากปรักหักพังแต่มีเจดีย์ของ วัดคินปุเซนจิ

วัดนี้เป็นศูนย์กลางของศาสนาชุเก็นโดะ ศาสนาลึกลับที่มีต้นกำเนิดในศตวรรษที่ 8 โดยวัดนี้อาจเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีความสำคัญที่สุดบน ภูเขา โยชิโนะ ห้องโถงซะโอ-โดะได้รับการตั้งชื่อตามรูปปั้นทองแดงของซะโอะ กงเก็น ซึ่งเป็นรูปั้นขนาดใหญ่สูงมากกว่า 7 เมตร ซึ่งเป็นรูปเคารพหลักของซะโอ-โดะ

ศาลเจ้าที่เป็นแหล่งมรดกโลกอีกแห่งนี้มีบทบาทสำคัญในตำนาน ศาลเจ้านี้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่จักรพรรดิโกะ ไดโงะในประวัติศาสตร์แห่งโศกนาฏกรรม ชมวิวภูเขารอบ ๆ ที่สวยงามแล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมขุนศึกโทะโยะโทะมิ ฮิเดะโยะชิแห่งศตวรรษที่ 16 จึงเดินทางมาจัดงาน “ชมดอกซากุระ” ที่นี่

เช่นเดียวกันกับ ภูเขา โยชิโนะ เมืองหลวงเก่า นารา เป็นหนึ่งในสถานที่นิยมในการชมดอกซากุระ วัดโทไดจิ ศาลเจ้าคะซุงะ ไทฉะ และวัดโคฟุคุจิรวมตัวกันอยู่ใน สวนสาธารณะนารา

วัดโทไดจิ (หรือรู้จักกันในนามของวัดพระใหญ่) ที่มีพระพุทธรูปสัมฤทธ์์สูง 57 เมตรนี้สร้างขึ้นในตอนต้นศตวรรษที่ 8 โดยจักรพรรดิโชะมู ผู้ที่พยายามกำหนดให้พุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ ถึงแม้วัดโทไดจิในปัจจุบันจะมีขนาดแค่หนึ่งในสามเมื่อเทียบกับของเดิม แต่วัดแห่งนี้ก็ยังคงเป็นสิ่งปลูกสร้างไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ประวัติของ ศาลเจ้าคะซุงะ ไทฉะ สืบสาวกลับไปได้มากกว่าพันปีในฐานะศาลเจ้าที่อุทิศแด่ตระกูลฟูจิวาระ ศาลเจ้าใหญ่นี้เป็นหลักฐานที่แสดงถึงอิทธิพลของตระกูลฟูจิวาระที่สูงส่งเหนือราชสำนัก โคมไฟพิเศษ 3,000 ดวงเรียงรายไปตามเนินเขาจนถึงศาลเจ้า ชื่อศาลเจ้านี้แปลตรงตัวได้ว่า “ศาลเจ้าใบไม้ผลิ” สมกับฉายาจุดชมซากุระที่งดงาม

วัดโคฟุคุจิ เป็นวัดที่ต้องไปเยือนในเมืองนารา เจดีย์ห้าชั้นที่โด่งดังมีต้นกำเนิดในศตวรรษที่ 15 ท่ามกลางสมบัติต่าง ๆ คุณจะพบกับรูปปั้นหกกรสามพักตร์ของเทพอะชุระ หนึ่งในเทพพิทักษ์ของพระพุทธเจ้า

เกียวโตคือเมืองหลวงเก่าและเป็นหนึ่งในเมืองที่เหลือรอดในสงครามโลกครั้งที่ 2 ในสภาพที่ดี ที่นี่เป็นสถานที่สำหรับดื่มด่ำกับสวนวัดที่เงียบสงบ ชมการแสดงละครและการเต้นรำดั้งเดิมที่งดงาม สำรวจเวิร์กช็อปช่างฝีมือ ลิ้มลองอาหารชั้นเลิศ และอื่น ๆ อีกมากมาย

เท็ตสึกากุโนะมิจิหรือ เส้นทางนักปราชญ์ เป็นเส้นทางรื่นรมย์ที่คดเคี้ยวไปตามต้นซากุระเลียบคลองน้ำโดยสามารถเห็นวิวเนินเขาฮิงาชิมายะได้แต่ไกล หลังจากเยี่ยมชม วัดกิงคะคุจิ หรือวัดเงิน จะห่างจากคลองห้านาทด้วยการเดิน ต้นซากุระโซะเมะอิโยชิโนะที่งดงามเป็นจุดยอดนิยมที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว แนะนำให้ลองมาเดินเล่นตอนเช้า ๆ อย่างสงบสุข

เดินออกจากเส้นทางนักปราชญ์ไปเล็กน้อยแล้วคุณจะย่างเข้าเขต วัดนันเซ็นจิ ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นหนึ่งในวัดเซ็นที่สำคัญที่สุดในญี่ปุ่น ประตูไม้ซัมมงขนาดใหญ่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1628 เพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิตในการบุกโจมตีปราสาทโอซาก้า ปีนขึ้นยอดประตูเพื่อชมวิวที่มีสีสันตระการตา

เส้นทางหลังรางน้ำอิฐของวัดนันเซ็นจินำไปสทางลาดเคอาเกะ ผู้เยี่ยมชมสามารถเดินเล่นอย่างอิสระไปตามสถานที่โรแมนติกบนเส้นทางรถไฟร้างกับต้นซากุระบานสองข้างทางเลียบทางน้ำเก่าแก่

หลังจากย่างก้าวผ่านประตูโทริอิใหญ่ยักษ์ คุณอาจสงสัยว่าทำไม ศาลเจ้าเฮอันจิงกู จึงดูแตกต่างจากศาลเจ้าอื่นในเกียวโต ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1895 เพื่อจำลองแบบของวัดโชโดอินจากคริสต์ศตวรรษที่ 8 เมื่อเกียวโตยังเป็นเมืองหลวง (เฮอัน-เคียว) ในฤดูใบไม้ผลิ ศาลเจ้าแห่งนี้มีชื่อเสียงเกี่ยวกับต้นซากุระที่เป็นกิ่งห้อยยาวซึ่งพาดอยู่บนศาลาของศาลเจ้า ทำให้เป็นจุดชมดอกซากุระที่ได้รับความนิยมอย่างสูง

เดินจากศาลเจ้าเฮอันจิงกูุเพื่อพบกับวัดคุโระดะนิบนเนินเขาที่สงบสุขและเลยไปอีกจนถึงวัดชินเนียวโดะที่มีต้นซากุระที่หลากหลายรูปแบบ

วัดคิโยมิสึเดระ ที่มีสถาปัตยกรรมเหนือชั้นบนไหล่เขา ยังมีห้องโถงหลักที่ไม่ควรพลาด รวมถึงโครงเสาหลายต้นที่ค้ำจุนตัววัดที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นตัวอย่างสถาปัตยกรรมป้องกันแผ่นดินไหวยุคแรก ๆ ที่สร้างขึ้นโดยไม่มีการใช้ตะปูสักตัว แนะนำให้คุณเริ่มเดินทางแต่หัววันเนื่องจากการปีนเขาจะใช้เวลาสักประมาณหนึ่ง ซากุระภูเขากลีบดอกสีขาวเป็นพันธุ์ของต้นซากุระที่พบได้มาก ณ ที่แห่งนี้

สวนสาธารณะมารุยะมะ เป็นสถานที่โปรดปรานของชาวเกียวโต ซึ่งหลายร้อยคนมักมาปิกนิกใต้ต้นซากุระในฤดูใบไม้ผลิที่นี่ ที่นี่เป็นสถานที่หยุดพักกลางทางที่สวยงามระหว่างเดินทางไปวัดใกล้ ๆ อย่าง วัดชิโอนิน และวัดโชเรนิน

กิอง เป็นย่านที่เหมาะอย่างยิ่งแก่การเที่ยวกลางคืนโดยเฉพาะบริเวณเลียบแม่น้ำชิราคาวะสุดแสนงดงาม เดินเล่นบนถนนแห่งนี้ แล้วลองมองดูการออกแบบภายในร้านน้ำชาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวฝั่งตรงกันข้าม ชมผู้คนในชุดกิโมโนที่สัญจรบนถนนโรยก้อนกรวด และดื่มด่ำกับดอกไม้บานใต้แสงไฟสลัว นี่เป็นโอกาสดีที่คุณอาจจะพบเห็นเกโกะ (เกอิชา) หลังเลิกงาน

ทะเลสาบที่เชื่อกันว่าเป็นหนึ่งในทะเลสาบที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ทะเลสาบบิวะ ที่มีอายุอย่างน้อยสี่ล้านปีเป็นทะเลสาบที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ ย่านทะเลสาบใน จังหวัดชิงะ มีกิจกรรมให้ทำมากมาย ตั้งแต่เดินทางจากเกาะสู่เกาะ ล่องเรือ ไปจนถึงตั้งแคมป์ คุณสามารถเดินทางจากสถานีเกียวโตไปสถานีโอทสึซึ่งเป็นศูนย์กลางการเดินทางหลักภายใน 10 นาทีด้วยรถไฟสายเจอาร์โทไคโดสำหรับการท่องเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับหรือค้างคืนที่เยี่ยมยอดจากเกียวโต คลองทะเลสาบบิวะเป็นจุดชมวิวซากุระบานยอดนิยม