แผนการเดินทาง ผ่อนคลายในคิวชูกลาง วิวภูเขาไฟ วัฒนธรรมการขี่ม้า ย่านชนบทที่เงียบสงบ และน้ำพุร้อนระดับโลก
การเดินทางสู่ใจกลางคิวชู ตั้งแต่ภูเขาไฟในคุมะโมโตะจนถึงบ่อน้ำพุร้อนในโออิตะ
ไฮไลท์
- ส่องภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอย่างภูเขาอะโซะ
- นั่งรถม้าลากชมวิวภูเขายุฟุ-ดาเกะ
- ผ่อนคลายในน้ำพุร้อนที่ฮิตะและยุฟุอินอนเซ็น
วิธีการเดินทาง
มีเที่ยวบินให้บริการจากสนามบินฮาเนดะในโตเกียวไปยังสถานีอาโซะคุมะโมโตะ (1 ชั่วโมง 45 นาที) จากสนามบินอาโสะคุมาโมโตะให้ขึ้นรถบัส (Airport Liner) ไปยังสถานีฮิโกะอตสึ (ประมาณ 15 นาที) และจากนั้นให้ขึ้นสายฮิโกะสายหลักไปยังสถานีอาโสะ (ประมาณ 50 นาที) เปลี่ยนสายไปขึ้นรถบัสที่สถานีอาโซะ เพื่อมุ่งหน้าไปยังสายคิวชูซันโกะเคร์เตอร์ ซึ่งจะใช้เวลา 35 นาที
ภูเขาอาโสะเป็นภูเขาที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สุดลูกหนึ่งของโลก วัดจากทางทิศตะวันออกไปยังทิศตะวันตก 18 กม. และจากเหนือไปใต้ 25 กม. ขึ้นยอดเขาและชะโงกดูปากปล่องภูเขาไฟที่เต็มไปด้วยไอน้ำและฟองจากของเหลวและก๊าซที่เดือดจัด
คุณสามารถนั่งรถรับส่งจากสถานีภูเขาไฟอาโสะไปยังปากปล่องภูเขาไฟโดยใช้เวลา 5 นาที
เดินทางสองชั่วโมงไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของภูเขา อะโซะก็จะถึงเมืองบ่อน้ำพุร้อนเก่าแก่แห่งยุฟุอิน ที่นี่มีผู้เยี่ยมชมถึงสี่ล้านคนต่อปีและคนท้องถิ่นเองก็พยายามรักษามนตร์เสน่ห์ของเมืองแห่งนี้ไว้อย่างสุดความสามารถ นอกจากการแช่น้ำผ่อนคลายในบ่อน้ำพุร้อนแล้ว คุณยังสามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์และแกลเลอรีต่าง ๆ ได้
7 นาที
เดินไปตามถนนสายหลักของยุฟุอินหรือถนนยูโนะสึโบะไคโดะเพื่อดูงานหัตถกรรมท้องถิ่น เช่น เครื่องแก้วกับเครื่องปั้นดินเผา ขนมหวาน และซีอิ๊ว ลองขึ้นรถม้าในตอนบ่ายเพื่อไปสำรวจถนนชนบทรอบ ๆ ที่อยู่ตามรอบนอกของ ภูเขา ยุฟุ 
11 นาที
ขึ้นรถไฟเจอาร์สายคิวไดจากสถานียุฟุอินไปยังเมืองน้ำพุร้อนฮิตะที่อยู่ไม่ไกล สำหรับการเดินทางที่แสนผ่อนคลายและหรูหรา ให้ขึ้นรถไฟด่วนสายยุฟุอินโนะโมริ ที่ภายในขบวนตกแต่งด้วยไม้ และมีตู้รถที่ให้บริการบุฟเฟต์และซาลอนอีกด้วย ภาพทิวทัศน์อันงดงามของย่านชนบททำให้การเดินทางครั้งนี้มีบรรยากาศที่สงบและผ่อนคลาย
เมืองที่มีเสน่ห์แบบเก่า ๆ อย่างฮิตะตั้งอยู่บนทางแยกสายหลักในคิวชู โดยเมืองนี้เฟื่องฟูขึ้นในยุคเอโดะ (ค.ศ.1603 - ค.ศ. 1867) อันแสนรุ่งเรือง และเมืองฮิตะก็ยังคงเสน่ห์เหล่านั้นไว้จนถึงทุกวันนี้ เนื่องจากอุตสาหกรรมไม้ซีดาร์ในเมืองนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ที่เมืองแห่งนี้จึงนำไม้ชนิดนี้เป็นวัตถุดิบผลิตรองเท้าเกี๊ยะญี่ปุ่นหรือเกตะ และเครื่องเขินต่าง ๆ พักค้างแรมในฮิตะอย่างผ่อนคลายได้ที่บ่อน้ำพุร้อน เมื่อพระอาทิตย์ตก ก็ได้เวลาเพลิดเพลินกับการล่องเรือดินเนอร์ครูซบนเรือล่องแม่น้ำแบบญี่ปุ่น
เดินเที่ยวไปตามถนนแคบ ๆ อย่างมาเมดะ ที่จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองหายตัวไปอยู่ในอีกยุคหนึ่ง พื้นที่ส่วนมากในเขตศูนย์กลางเมืองฮิตะแห่งนี้ยังคงบรรยากาศแบบยุคเอโดะ โดยมีอาคารส่วนราชการหลังเก่า ๆ และบ้านแบบดั้งเดิมหลายหลังที่ถูกดัดแปลงเป็นคาเฟ่และพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่
เมืองแห่งนี้ได้เก็บรักษาตุ๊กตาฮินะเก่าแก่ หรือตุ๊กตาทำมือแบบญี่ปุ่นที่ใช้ในการฉลองเทศกาลฮินะในวันที่ 3 มีนาคมไว้จำนวนมาก และนี่ถือเป็นหลักฐานพิสูจน์ถึงความมั่งคั่งของฮิตะในยุคเอโดะ ตุ๊กตาเหล่านี้จัดแสดงไว้ที่ฮิโรเซะชิเรียวกัง พิพิธภัณฑ์ที่ถูกสร้างไว้ในโกดังของพ่อค้าเก่า ตุ๊กตาฮินะจะถูกนำมาจัดแสดงเพิ่มเติม โดยมีการจัดวางอย่างประณีตไว้ที่พื้นที่ประมาณ 15 แห่งทั่วเมือง ก่อนจะถึงช่วงเทศกาลเป็นระยะเวลาสองถึงสามสัปดาห์
ร่วมชมงานเฉลิมฉลองสุดยิ่งใหญ่ในฤดูร้อนอย่างเทศกาลกิองแห่งเมืองฮิตะที่จัดขึ้นในวันเสาร์และอาทิตย์หลังสัปดาห์ที่สามของเดือนกรกฎาคมไปพร้อม ๆ กับชาวบ้านในท้องถิ่น ในช่วงเทศกาลนี้ จะมีขบวนแห่ลากเกี้ยวที่ตกแต่งอย่างหรูหราผ่านตัวเมือง
ร่วมชมวิธีการจับปลาแบบดั้งเดิมที่เรียกว่าอุไค (การจับปลาด้วยนกกาน้ำ) ซึ่งนกกาน้ำจะถูกปล่อยให้ไปจับปลาอายุที่เติบโตอยู่ในแม่น้ำหลายสายในฮิตะ ฤดูการจับปลาแบบอุไคจะกินระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคมไปจนถึงปลายเดือนตุลาคม และจุดที่เหมาะกับการชมการจับปลาด้วยวิธีนี้มากที่สุด คือ ตามแนวแม่น้ำมิกุมะ ในช่วงนี้ร้านอาหารหลายแห่งในพื้นที่จะจัดเตรียมอาหารที่ทำจากปลาอายุไว้ให้บริการมากมาย อย่าพลาดที่จะลองรับประทาน
