ดอกวิสทีเรียที่ศาลเจ้าคะสุงะไทฉะ 春日大社の藤

ศาลเจ้าคะสุงะไทฉะ ในจังหวัดนารา มีชีวิตชีวาขึ้นมาในฤดูใบไม้ผลิของทุกปี เมื่อยามที่ต้นวิสเทอเรียมากกว่า 200 ต้นผลิดอกบานสะพรั่งในเดือนพฤษภาคม สัญลักษณ์ประจำศาลเจ้าแห่งนี้คือดอกวิสเทอเรียบานและ “มิคังโกะ” หรือหญิงสาวที่ทำงานอยู่ในศาลเจ้า ซึ่งจะสวมเครื่องประดับศีรษะที่ตกแต่งด้วยดอกไม้สีม่วงงามสง่า

สามารถเดินทางมายังศาลเจ้าคะสุงะไทฉะ ได้โดยนั่งรถบัสหรือเดินเท้า

นั่งรถไฟสายยามาโตจิมาลงที่สถานีเจอาร์นารา หรือนั่งสายนารามาลงที่สถานีคินเท็ตสึนารา จากนั้นต่อรถบัสที่มุ่งหน้าไปทางคะซุงะไทฉะฮนเด็ง ลงรถที่ป้ายรถบัสคะซุงะไทฉะฮนเด็ง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10-15 นาที

นอกจากนี้ยังสามารถนั่งรถบัสซึ่งมุ่งหน้าไปทางชิไนจุงกันโซโตมาวาริในสายรถบัสวนรอบเมืองรอบนอกได้เช่นกัน แล้วมาลงที่คะซุงะไทฉะโอโมเตะซันโด จากนั้นให้เดินต่ออีก 10 นาที

สามารถเดินเท้าจากสถานีคินเท็ตสึนารามาได้เช่นกัน โดยเดินประมาณ 20 นาทีก็จะถึงศาลเจ้า

ดอกวิสเทอเรียมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เนื่องจากเป็นดอกไม้ที่ประดับบนตราประจำตระกูลฟูจิวาระ ซึ่งเป็นตระกูลที่ปกครองประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ปีค.ศ. 710 - ค.ศ. 1160 ตระกูลนี้เคยปกครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของนารา ซึ่งเป็นเมืองหลวงโบราณของญี่ปุ่นก่อนหน้าเกียวโต และยังเป็นผู้สร้างอาคารหลักของศาลเจ้าคะสุงะไทฉะ ขึ้นในปี ค.ศ. 768 ตามคำแนะนำของจักรพรรดินีโชโตะคุ

สถานที่ซึ่งให้ทัศนียภาพของดอกวิสเทอเรียที่งดงามที่สุดคือสวนพฤกษศาสตร์ศาลเจ้าคะซุงะไทฉะมันโย ที่ซึ่งทั้งนักพฤกษศาสตร์และนักท่องเที่ยวทั่วไปจะได้เพลินไปกับต้นวิสเทอเรียมากกว่า 200 ต้น จาก 20 สายพันธุ์

ต้นวิสเทอเรียต้นใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในเขตศาลเจ้ามีชื่อเรียกกันว่า “ซูนาซูริโนะฟูจิ” คาดกันว่ามีอายุกว่า 700 ปีเลยทีเดียว

ต้นไม้ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ต้นนี้ได้ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์มาก่อนหน้านี้แล้ว โดยปรากฏอยู่ในม้วนภาพที่เรียกว่า “คะซุงะกงเก็นเก็งกิ” ซึ่งทางศาลเจ้าได้รับมาในปี ค.ศ. 1309