วัดชินยะคุชิจิ 新薬師寺

หลังจากจักรพรรดิโชมุมีอาการเจ็บป่วยทางตา จักรพรรดินีโคเมียวผู้เป็นพระมเหสีได้มีพระราชกระแสรับสั่งให้สร้างวัดชินยะคุชิจิขึ้นเพื่อเป็นสถานที่สวดมนต์อธิษฐานให้จักรพรรดิหายจากการเจ็บป่วย

เดินไปทางใต้ของสวนนารา โดยใช้เวลา 5 นาที

หากเดินไปยังวัดชินยะคุชิจิจากสถานีคินเท็ตสึนารา จะใช้เวลาประมาณ 30 นาที หรือจากสถานีนาราจะใช้เวลาเดินประมาณ 40 นาที

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ต้องการเดินเท้า ก็สามารถนั่งรถบัสได้ซึ่งมีให้บริการเป็นประจำจากทั้ง 2 สถานี แล้วไปลงที่ป้ายรถบัสวะริอิชิโจะ

พระพุทธรูปองค์หลักในวัดคือ “ยะคุชิเนียวไร” หรือพระไภษัชยคุรุผู้เป็นบรมครูแห่งยารักษาโรค องค์พระพุทธรูปนั้นมีการแกะสลักอย่างพิถีพิถันจากไม้ท่อนเดียว และเชื่อกันว่ามีพลังในการรักษาโรคได้

รอบองค์พระพุทธรูปนี้คือรูปสลัก “ชินโชริตสึโซ” 12 องค์ หรือที่รู้จักกันว่าเป็นยักษ์เทวดาบริวาร 12 องค์ ซึ่งเป็นผู้พิทักษ์พระพุทธเจ้าแห่งการรักษาและสาวกผู้ติดตามพระพุทธเจ้า รูปสลักเหล่านี้มีชื่อเสียงในเรื่องคุณภาพการแกะสลักที่งดงามจับใจ ย้อนประวัติกลับไปได้ถึงคริสต์ศตวรรษที่ 8 และเชื่อกันว่าเป็นชิ้นงานรูปสลักที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น

มีระฆังที่มีรอยข่วนตั้งอยู่ที่ชินยาคุชิจิซึ่งแต่เดิมแขวนอยู่ในหอระฆังของวัดกังโกจิ ตำนานท้องถิ่นเล่าถึงปีศาจที่ปรากฏตัวทุกคืนในหอระฆัง ประมาณค.ศ. 572-585 และคอยสร้างความเดือดร้อน เย็นวันหนึ่ง เด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังฝึกตนอยู่ที่วัดได้ซ่อนตัวอยู่ในหอระฆังและพร้อมซุ่มโจมตีปีศาจ เมื่อปีศาจปรากฏตัวกลางดึก การต่อสู้ครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้น รอยขีดข่วนบนระฆังกล่าวกันว่าเป็นรอยกรงเล็บที่เหลืออยู่บนระฆังระหว่างการต่อสู้