HOME Back

Use the

Planning a Trip to Japan?

Share your travel photos with us by hashtagging your images with #visitjapanjp

ปราสาทที่ได้รับการดูแลอนุรักษ์อย่างดีที่สุดในญี่ปุ่น

ปราสาทฮิเมจิเป็นที่รู้จักในฐานะปราสาทนกกระสาขาว โดยที่นี่เป็นทั้งสมบัติชาติญี่ปุ่น และแหล่งมรดกโลก ปราสาทแห่งนี้มีสถานะเป็นหนึ่งในปราสาทดั้งเดิม 12 แห่งของญี่ปุ่นที่ยังคงสภาพอยู่ ทำให้ป้อมปราการของที่นี่เป็นสถานที่ที่ผู้คลั่งไคล้ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นจะพลาดไม่ได้

พลาดไม่ได้

  • ต้นซากุระมากกว่า 1,000 ต้นในบริเวณปราสาท ที่จะผลิดอกในช่วงฤดูใบไม้ผลิของทุกปี
  • ตัวปราสาทสูงเจ็ดชั้นที่มีอายุกว่า 400 ปี
  • สวนโคโกเอ็งสไตล์เอโดะที่แสดงฤดูกาลต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปของญี่ปุ่นอย่างงดงาม

วิธีการเดินทาง

ปราสาทฮิเมจิอยู่ห่างจากทางออกทิศเหนือของสถานีฮิเมจิไปตามถนนโอเตมาเอะโดริเป็นระยะทางหนึ่งกิโลเมตร คุณสามารถเดินจากสถานีไปยังตัวปราสาทได้โดยใช้เวลาประมาณ 15 - 20 นาที หรือขึ้นรถบัสโดยใช้เวลา 5 นาที

ประวัติศาสตร์อายุกว่า 600 ปี

ปราสาทฮิเมจิมีความเก่าแก่กว่า 600 ปี ป้อมปราการชุดแรกสร้างขึ้นในช่วงยุค 1400 เนื่องจากที่นี่ได้รับเลือกให้เป็นจุดยุทธศาสตร์เพื่อใช้ป้องกันทิศตะวันตกของเมืองเกียวโต กลุ่มปราสาทในปัจจุบันสร้างเสร็จในปีพ.ศ. 2452 ภายใต้การควบคุมดูแลของขุนนางไดเมียวที่ชื่อ อิเคดะ เทรุมาซะ กลุ่มปราสาทนี้ประกอบด้วยอาคารมากกว่า 80 หลังเชื่อมต่อกันด้วยเส้นทางต่าง ๆ ที่คดเคี้ยวเหมือนเขาวงกต

บางส่วนเข้าชมได้ฟรี

ประตูโอเตะมงเป็นประตูหลักของปราสาทฮิเมจิ จากประตูนี้คุณสามารถเข้าไปยังพื้นที่ของปราสาทที่เปิดให้เข้าได้ฟรีบางส่วน อย่างตรงกำแพงชั้นนอกลำดับที่สาม หรือที่เรียกว่า ซันโนะมารุ พื้นที่ส่วนนี้ของปราสาทมีสนามหญ้ากว้างที่เต็มไปด้วยต้นซากุระจำนวนมาก ซึ่งเป็นสถานที่ยอดนิยมในการปิกนิกชมดอกซากุระ

อาคารหลัก

เมื่อเดินผ่านประตูฮิชิเข้าไปก็จะเป็นส่วนที่ต้องจ่ายเงินเพื่อเข้าชมปราสาท หลังจากที่ซื้อตั๋วจากบูธขายตั๋วใกล้กับประตู (ตั๋วราคา 1,000 เยน) ผู้มาเยี่ยมชมก็สามารถเดินเข้าตามทางแคบ ๆ ของปราสาทชั้นใน ไปยังอาคารหลักสูงหกชั้นได้

 

 

คุณสามารถเดินขึ้นไปจนถึงชั้นบนสุดของปราสาทได้ ยิ่งคุณเดินขึ้นไป แต่ละชั้นก็จะยิ่งแคบลงเรื่อย ๆ ซึ่งนอกจากป้ายคำอธิบายลักษณะทางสถาปัตยกรรมและประโยชน์ในการป้องกันภัยที่สำคัญของปราสาทแล้ว ภายในก็ไม่ได้ประดับตกแต่งอะไรมาก

ที่ชั้นบนสุดของปราสาทเป็นศาลเจ้าเล็ก ๆ และจุดชมวิวทิวทัศน์ให้ผู้มาเยี่ยมชมได้ทอดสายตามองปราสาทฮิเมจิและเมืองที่อยู่ด้านนอก

นอกจากนี้คุณยังสามารถเดินไปยังกำแพงตะวันตก หรือนิชิโนะมารุที่อยู่ภายในพื้นที่ที่ต้องจ่ายค่าเข้าของปราสาทได้ โดยพื้นที่นี้มีทิวทัศน์ที่งดงามของอาคารหลักของปราสาท

ดอกซากุระ

ในบริเวณปราสาทมีต้นซากุระมากกว่า 1,000 ต้น คุณสามารถชมดอกซากุระจากพื้นที่รอบนอกได้ฟรี แต่ถ้าต้องการชมดอกไม้ตรงพื้นที่ด้านในปราสาทจะต้องเสียค่าเข้าชม

ปฏิเสธไม่ได้ว่าปราสาทแห่งนี้จะงดงามที่สุดในฤดูซากุระผลิบาน ซึ่งเป็นช่วงที่ปราสาทมีคนพลุกพล่านมากที่สุด ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวหลายร้อยคนเดินทางมายังปราสาทแห่งนี้ เพื่อปิกนิกและถ่ายรูปดอกซากุระผลิบาน

หากคุณไม่ชอบคนพลุ่กพล่าน และอยากชมปราสาทอย่างเงียบ ๆ ก็แนะนำให้หลีกเลี่ยงหน้าซากุระ อาจจะมีการจำกัดจำนวนตั๋วเข้าชมอาคารหลักของปราสาทด้วยในช่วงซากุระบาน

สวนในปราสาทฮิเมจิ

โคโคะเอ็ง เป็นสวนญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ข้างปราสาทฮิเมจิ ที่นี่ประกอบด้วยสวน 9 แห่งที่กั้นออกจากกันด้วยกำแพง โดยสวนเหล่านี้ตกแต่งด้วยสไตล์ต่าง ๆ ในยุคเอโดะ สวนแห่งนี้เปิดให้เข้าชมในปีพ.ศ. 2535 เพื่อฉลองการครบรอบหนึ่งร้อยปีของเมืองฮิเมจิ

 

 

ล่องเรือ

ในบรรดาคูน้ำเดิมสามแห่งของปราสาทฮิเมจิ มีเพียงหนึ่งแห่งเท่านั้นที่ยังคงสภาพอย่างสมบูรณ์จนถึงทุกวันนี้ คูน้ำนี้ คือ คูน้ำภายในที่เรียกว่า โกคุโบริ ซึ่งหากคุณมาเที่ยวปราสาทแห่งนี้ในวันเสาร์อาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ ก็จะมีโอกาสได้นั่งเรือไปตามคูน้ำดังกล่าว ค่าล่องเรืออยู่ที่ 1,000 เยนต่อเที่ยว และเรือมีเพียง 10 เที่ยวต่อวัน ในการเดินทางไปยังคูน้ำ คุณจะต้องเข้ามาทางประตูฮิชิ

บูรณะไปเมื่อเร็ว ๆ นี้

หลังจากโครงการที่กินเวลาห้าปีตั้งแต่พ.ศ. 2553 เสร็จสิ้น ปราสาทฮิเมจิจิก็ได้เปิดให้บริการแก่สาธารณะชนอย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2558



* ข้อมูลต่างๆ บนเวบไซต์ อาจมีการเปลี่ยนแปลงสืบเนื่องจากสถานการณ์ COVID-19

คำแนะนำสำหรับคุณ

Himeji castle cherry blossom
ดอกซากุระที่ปราสาทฮิเมจิ
Takeda Castle Ruins
เฮียวโงะ

Please Choose Your Language

Browse the JNTO site in one of multiple languages