การผจญภัยเชิงวัฒนธรรมในอิชิคาวาเริ่มต้นขึ้นที่นี่
สถานีรถไฟที่สวยงามแห่งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นเพื่อการสำรวจคานาซาวะ และจังหวัดอิชิคาวา ที่อยู่ใกล้เคียง (ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นที่รู้จักในชื่อคางะ เอจิเซ็น และโนะโตะจนเมื่อเข้าสู่ยุคสมัยใหม่) ชื่อของอาณาจักรอันยิ่งใหญ่เมื่อครั้งโบราณเหล่านี้บางแห่งยังคงหลงเหลืออยู่เป็นชื่อสถานที่และชื่อตระกูล เช่น คาบสมุทรโนะโตะ และคะงะอนเซ็น
สถานีคานาซาวะเริ่มสร้างขึ้นในปี 1898 ได้รับการปรับปรุงครั้งใหญ่ในปี 2005 ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัยด้วยโดมกระจกและเหล็ก และมีประตูไม้แบบประตูโทริอิที่พบในศาลเจ้าญี่ปุ่น คานาซาวะเป็นเมืองหลวงทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจของภูมิภาคโฮคุริคุ
พลาดไม่ได้
- ประตูสึซุมิ-มงที่สวยงามด้านหน้าสถานี
- ไอศครีมแปะทองคำเปลว
- คุณสามารถเดินทางจากสถานีไปยังตลาดโอมิโจได้ในเวลาไม่กี่นาที


วิธีการเดินทาง
เมื่อมีโฮคุริคุ ชินคันเซนจากโตเกียวไปยังคานาซาวะในปี 2015 ทำให้สามารถเดินทางไปยังเมืองนี้ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวมากมายเข้ามาสัมผัสอัญมนีล้ำค่าทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นนี้
คุณสามารถเดินทางไปยังสถานีคานาซาวะได้จากหลายเมืองใหญ่ๆ ในญี่ปุ่น โดยจะใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงครึ่งจากโตเกียวและเกียวโตด้วยรถไฟหัวกระสุนและรถไฟด่วน โปรดดูหน้าหลักของคานาซาวะ สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีเดินทางไปยังสถานีคานาซาวะจากเมืองสำคัญอื่นๆ ในญี่ปุ่น
เกร็ดน่าสนใจ
สถานีคานาซาวะถือเป็นสถานีรถไฟที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น
สถานีแห่งนี้ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกริวโซ ชิราเอะ และสร้างเสร็จในปี 2005
เที่ยวให้ทั่ว
ทันทีที่มาถึงคานาซาวะ คุณจะได้พบสถานีที่ออกแบบอย่างทันสมัยและเรียบง่ายแต่แฝงการตกแต่งด้วยทองและการตกแต่งแบบดั้งเดิม พร้อมพื้นที่กว้างขวางตั้งแต่ทางออกด้านตะวันออกถึงตะวันตก ที่นี่มีทั้งร้านสะดวกซื้อ ATM และย่านขายอาหารที่มีเมนูสุดพิเศษมากมายของคานาซาวะซึ่งบรรจุอาหารอิชิคาวาในกล่องข้าวสีสันสวยงาม
มีศูนย์ข้อมูลสำหรับนักท่องเที่ยวอยู่ตรงกับข้ามประตูตรวจตั๋วของเจอาร์ชินคันเชน แวะหยิบแผนที่และตารางรถบัสได้ที่ศูนย์ข้อมูลสำหรับนักท่องเที่ยว หรือจองไกด์อาสาสมัครในท้องถิ่นสำหรับท่องเที่ยวแบบเต็มวัน (ต้องจองสองสัปดาห์ล่วงหน้า)

ประตูสึซุมิ-มงอันยิ่งใหญ่และสง่างามในสถานีคานาซาวะ
งานออกแบบ สถาปัตยกรรม และพื้นที่สาธารณะ
แม้เคยโดนมองว่าเป็นโครงสร้างแบบสมัยใหม่ที่ไม่ได้น่าสนใจมากนัก แต่สถานีคานาซาวะได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของคานาซาวะ ประตูสึซุมิ-มงอันสง่างามมีแนวคิดการออกแบบที่ดูเหมือนกลองโบราณที่ใช้ในละครโนห์ และสร้างจากต้นสนดักลาสของญี่ปุ่น โดมโมเทนาชิขนาดยักษ์ตรงทางออกด้านตะวันออกไม่เพียงแต่น่าทึ่งเท่านั้น แต่ยังกันฝนและหิมะซึ่งมักตกบ่อยๆ ในภูมิภาคให้แก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย
พื้นที่รอบสถานี
ในสถานีนี้จะมีร้านค้าต่างๆ มากมาย เช่น ภายในศูนย์ช้อปปิ้งเฮียคุบันไก มีร้านขายสินค้าทันสมัยต่างๆ และร้านจำหน่ายสินค้าหัตถกรรมซึ่งใช้ทองคำเปลวตกแต่งและของที่ระลึกต่างๆ
ทองคำเปลวคานาซาวะมีมาตั้งแต่ยุคอะซุจิ โมโมยามะ (1568-1603) ในยุคเมจิ (1868 -1912) มีความรุ่งเรืองด้านอุตสาหกรรมมาก ด้วยเทคโนโลยีชั้นนำ คานาซาวะ จึงกลายเป็นแหล่งผลิตทองคำเปลวที่สำคัญของประเทศ และในปัจจุบันเป็นแหล่งผลิตผลิตแผ่นทอง เงิน และทองเหลืองเกือบ 100% ของญี่ปุ่น อุตสาหกรรมนี้ทำให้คานาซาวะมีความมั่งคั่งอย่างมากในอดีตและยังผูกขาดวงการมาจนถึงทุกวันนี้
มีโรงแรมอยู่ในสถานี และหากเดินจากทางออกด้านตะวันออกเพียงสองนาทีก็๋มีโรงแรมรายใหญ่ คือ โรงแรมANA Crowne Plaza และโรงแรม Nikko Kanazawa Hotel
ระบบขนส่งรอบตัวเมือง
คุณสามารถเดินทางไปชมสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมทั้งหมดในคานาซาวะ ได้โดยทางรถบัสหรือแท็กซี่จากทางออกด้านตะวันออก มีศูนย์ข้อมูลระบบขนส่งอยู่ที่ด้านนอกทางออกฝั่งตะวันออก และคุณสามารถสอบถามวิธีการเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางที่สำคัญๆ ได้ เช่น ปราสาทคานาซาวะ และสวนเคนโรคุเอ็ง รถบัสคานาซาวะลูปบัส และรถบัสคานาซาวะไลท์อัพ ต่างก็สามารถใช้บริการได้ง่ายและสะดวกมาก คุณสามารถเดินจากสถานีไปยังตลาดโอมิโจได้หากอยากยืดเส้นยืดสายสักหน่อย โดยจะใช้เวลา 15 นาที หรือจะขึ้นรถแท็กซี่ก็สะดวกและสามารถไปได้ทุกที่ในใจกลางคานาซาวะด้วยราคาประมาณ 1,000 เยน
มนต์เสน่ห์ของเมืองทั้ง 2 แห่ง
ขณะที่ปราสาทคานาซาวะ อยู่ใกล้ แต่สวนเคนโรคุเอ็ง เป็นดาวเด่นที่สุดของคานาซาวะ เช่นเดียวกับสวนที่สวยงามมากมายในญี่ปุ่น สวนเคนโรคุเอ็งมีบ่อน้ำที่ดูงดงามเหมือนภาพวาด ดอกซากุระและดอกบ๊วยบานในฤดูใบไม้ผลิ กุหลาบพันปี และดอกไอริสในต้นฤดูร้อน และใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงที่มีสีสันทั้งแดงและเหลือง


สวนเคนโรคุเอ็ง
ความลับที่ทำให้สวนเคนโรคุเอ็ง มีความโดดเด่นนั้นอยู่ในชื่อของสวนแห่งนี้ เค็นโรกูเอ็งหมายถึงสวนที่รวมลักษณะหกประการ ที่ได้ชื่อเช่นนี้เนื่องจากมีลักษณะหกประการที่ทำให้สวนแห่งนี้มีภูมิทัศน์ที่สมบูรณ์แบบ คือ โล่งกว้าง สงบเงียบ มีชั้นเชิง เก่าแก่ มีน้ำผ่าน และทัศนียภาพงดงาม
ตลาดโอมิโจมีความอุดมสมบูรณ์ในแบบที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง ทั้งคึกคัก เสียงดัง มีสีสัน และมักแออัดไปด้วยผู้คน ตลาดนี้เป็นตลาดอาหารสดที่ใหญ่ที่สุดในคานาซาวะ


ตลาดโอมิโจ
มีร้านค้าประมาณ 170 แห่ง ส่วนใหญ่จะเชี่ยวชาญในอาหารทะเลและการผลิต แต่คุณจะพบดอกไม้ อุปกรณ์เครื่องครัว และเสื้อผ้าด้วยที่นี่ อย่างไรก็ตามเหตุผลที่คนส่วนใหญ่ชอบมาที่นี่ก็เพื่อซื้ออาหารสด ทำให้มีอีกชื่อหนึ่งว่าครัวของคานาซาวะอีกด้วย คุณอาจอยากต่อรองราคากับเจ้าของร้านเพื่อซื้อปูยักษ์ หอยแครง หรือหอยนางรมยักษ์ แต่หากคุณไม่อยากทานดิบๆ หรือทานในลานย่างในตลาด คุณสามารถแวะร้านอาหารสักแห่งหนึ่งในตลาดโอมิโจ ตลาดนี้มีสองชั้นแต่ปลาสดที่ดีที่สุดจะอยู่ที่ชั้น 1
รื้อฟื้นความทรงจำ
ระหว่างทางไปยังจุดหมายถัดไปหรือระหว่างทางกลับบ้าน อย่าลืมชิมไอศครีมแปะทองคำเปลว ของที่ระลึกยอดนิยมสำหรับนำกลับบ้านจากคานาซาวะ ซึ่งขายที่สถานี ได้แก่ สาเกพื้นบ้าน ขนมหวานแบบญี่ปุ่น ผลิตภัณฑ์ความงามที่ใช้ทองคำเปลว ผ้าเช็ดตัว และเครื่องเขินญี่ปุ่น