โรงทำสาเกฮิดะ ทะคะยะมะ 飛騨高山 酒蔵めぐり

ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามของเจแปนแอลป์ เมืองทะคะยะมะจึงเป็นแหล่งรวมของโรงหมักสาเกคุณภาพสูงจำนวนมาก เยี่ยมชมโรงหมักในบริเวณของปราสาทและเลือกซื้อของที่ระลึก

โรงหมักหลายแห่งตั้งอยู่ในบริเวณซันมะจิซึ่งเป็นย่านเมืองเก่าของทะคะยะมะและคุณสามารถเดินทางไปได้อย่างง่ายดายเพียงเดินจากสถานีทะคะยามะ

สถานีที่ใกล้ที่สุดกับโรงหมักนั้นคือสถานีเจอาร์ทะคะยะมะ จากโตเกียว นั่งโทไคโด-ซันโย ชินคันเซนมุ่งหน้าไปยังสถานีชิน-โอซาก้าและลงรถที่สถานีนาโกย่า ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 20 นาที จากสถานีนาโกย่าสู่ทาคายาม่าด้วยรถไฟ หรือ ประมาณ 2 ชั่วโมง 45 นาที ด้วยรถบัส โรงหมักทั้งหมดนั้นอยู่ห่างไปไม่ไกลทางตะวันออกของสถานีเจอาร์ทะคะยะมะ

เมืองทะคะยะมามีโรงหมักสาเก 7 แห่ง ซึ่งล้วนแต่มีประวัติยาวนานมากกว่า 100 ปี กล่าวกันว่าแต่เดิมเคยมีโรงหมักมากึง 56 แห่งในเมืองเมื่อประมาณ 330 ปีก่อน ในช่วงกลางสมัยเอโดะ เหล่าพ่อค้าผู้ร่ำรวยของเมืองทะคะยะมะซึ่งเป็นที่รู้จักในนาม “ดันนะ-ชุ” ได้ริเริ่มการหมักสาเกโดยใช้ข้าวที่ได้รับมาในฐานะเป็นส่วยหรือของกำนัล โดยในเวลานั้นข้าวซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักของการผลิตสาเกถูกใช้ในลักษณะแทนเงิน ดังนั้นส่วยหรือของกำนัลมักถูกจ่ายโดยใช้ข้าว เล่ากันว่าพวกพ่อค้ามักขายข้าวเมื่อราคาตลาดสูง และมักจะขายในรูปของสาเกเมื่อราคาข้าวต่ำเกินไปจนไม่ได้กำไร

โรงหมักเจ็ดแห่งในกลุ่มนี้ตั้งอยู่ใกล้ๆ กัน คุณสามารถสังเกตเห็นโรงหมักเหล่านี้ได้โดยง่ายดายจากลูกบอลไม้ซีดาร์ที่ห้อยอยู่บนประตูและถังหมักสาเกที่อยู่ข้างประตู

แบรนด์ที่เป็นตัวแทนของโรงหมักแห่งนี้ ได้แก่ “ซันชะ” คนท้องถิ่นชื่นชอบเนื่องจากรสชาติเข้ม และชัดเจน ซึ่งยังคงรักษาความอร่อยและความหวานของข้าวที่ใช้เป็นวัตถุดิบไว้ได้ นักท่องเที่ยวสามารถชิมสาเกได้มากกว่า 10 ชนิด หรือแม้แต่จะนำแก้วชิมสาเกกลับไปเป็นของที่ระลึก

เมื่อข้ามถนนถัดออกไป โรงหมักสาเกฟุนะซะกะเป็นโรงหมักรูปแบบใหม่ที่แม้แต่คนที่ไม่รู้จักสาเกเลยก็สามารถสนุกสนานกับมันได้ ณ บริเวณขายสินค้า นักท่องเที่ยวจะได้พบกับสินค้าหลากหลายประเภท รวมถึงเหล้าญี่ปุ่นที่ทำจากบ๊วยหรือส้มยูซุ หรือแม้แต่ขนมหวานและเครื่องสำอางที่ทำจากสาเก  นอกจากนี้อาคารเก่าของโรงหมักสาเกยังได้รับการปรับปรุงให้กลายเป็นร้านอาหารฮิดะบีฟและบาร์สาเก

ณ เนิน “เอะบิซะกะ” ทางลาดซึ่งต่อเนื่องมาจากสี่แยกคะมิ-อิจิโนะมะจิมุ่งสู่บริเวณที่อยู่สูงขึ้น ซึ่งเป็นที่ตั้งของอาคารที่สะดุดตาและสวยงาม ได้แก่ โรงหมักสาเกฮิระเซะ ซึ่งเป็นโรงหมักที่เก่าแก่ที่สุดในทะคะยะมะกล่าวกันว่ามีอายุประมาณ 400 ปี เมื่อพูดถึงโรงหมักสาเกฮิระเซะผู้คนมักนึกถึงเหล้าสาเกแบรนด์ “คุซุดะมะ” ซึ่งมีชื่อเสียงมากในทะคะยะมะ มีผู้ที่ชื่นชอบสาเกคุซุดะมะมากจนมักกล่าวว่า “ฉันจะดื่มเฉพาะสาเกคุซุดะมะเท่านั้น” ในภาษาญี่ปุ่น “คุซุดะมะ” หมายถึงลูกบอลประดับด้วยกระดาษซึ่งมักใช้ในงานรื่นเริงพร้อมกับกระดาษสี ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับ “ปิญญาตา” หรือหมายถึงถุงหอมประดับที่ใส่สมุนไพรและน้ำหอม ดังนั้นด้วยชื่อที่เป็นมงคงนี้ทำให้สาเกคุซุดะมะเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับงานเทศกาลและโอกาสแห่งการเฉลิมฉลอง

ที่คะวะชิริมีวิธีการพิเศษของร้านนี้คือการเก็บผลิตภัณฑ์ไว้เป็นเวลาหลายปีเพื่อยืดกระบวนการหมัก ซึ่งเป็นโรงหมักสาเกเพียงแห่งเดียวของฮิดะ และเป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งของญี่ปุ่นที่มีความเชี่ยวชาญในการบ่มสาเก

ในปัจจุบัน มีบ่อน้ำอยู่ตรงกลางของตัวอาคาร และบ่อน้ำนี้ถูกใช้ในการหมักหนึ่งในสินค้า โดยชื่อทามะโนอิถูกตั้งตามชื่อของบ่อน้ำ

โรงหมักสาเกฮิราตะ เริ่มหมักสาเกในปี 1895 ในคอนเซปต์  “สาเกคือบางสิ่งที่ถูกหมักและทะนุถนอม” ที่นี้มี 3 แบรนด์ใหม่ ได้แก่ “ฮิโระ” “ทะงะยะมะ” และ “โชริวโนะไมอิ” ซึ่งแต่ละแบรนด์ใช้ข้าวสำหรับผลิตสาเกที่แตกต่างกันและมีลักษณะเฉพาะตัว นอกจากนี้ยังมีสาเกหวานที่ผ่านการบ่มเรียกว่า “ซุอิอุ” 

สุดท้าย ได้แก่ โรงหมักสาเกโอะอิตะ

“โอนิโคะโระชิ” เป็นที่รู้จักในฐานะเป็น “สาเกที่มีรสชาติเข้มจนสามารถฆ่าปีศาจได้” เป็นแบรนด์สาเกที่มีชื่อเสียงและแทบจะเป็นตัวแทนของโรงหมักสาเกโอะอิตะ โรงหมักแห่งนี้ได้เริ่มหมักสาเกรสเข้มในเมืองทะคะยะมะมาเกือบ 300 ปี ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งแม่ปี ค.ศ. 1720