©Kamakura City Tourist Association
ยืนพิจารณาชีวิตและทุกสรรพสิ่งในพระพุทธรูป
พระใหญ่แห่งเมืองคามาคุระสีทองสัมฤทธิ์นี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 และเป็นพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ที่สูงที่สุดเป็นอันดับสองของญี่ปุ่น พระพุทธรูปเป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวมาชื่นชมมากที่สุดในพื้นที่คันโต
พลาดไม่ได้
- รองเท้าแตะสานขนาด 1.8 เมตรของพระพุทธรูป
- ห้องโถงคังเก็ตสึโดจากกรุงโซลศตวรรษที่ 15
- บริจาคเงินเล็กน้อยและสำรวจภายในพระใหญ่
วิธีการเดินทาง
คุณสามารถเดินทางจากโตเกียวไปสักการะพระใหญ่แห่งเมืองคามาคุระแบบไปเช้าเย็นกลับได้
ขึ้นรถไฟสายโชนันชินจูกุจากสถานีเจอาร์ชินจูกุในโตเกียวไปลงสถานีเจอาร์คามาคุระ จากนั้นให้เปลี่ยนสายไปขึ้นรถไฟฟ้าเอโนชิมะที่มุ่งหน้าไปฟูจิซาวะและลงที่สถานีฮะเซะ
ใช้เวลาเดินจากสถานีไปพระใหญ่เพียง 7 นาทีเท่านั้น ที่ถนนจะมีป้ายบอกทางอย่างละเอียด
©Kamakura City Tourist Association
กลางแจ้ง
พระพุทธรูปสูง 11.3 เมตรและหนัก 121 ตัน เป็นพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์นิกายสุขาวดีและมีความสูงเป็นรองแค่พระใหญ่ของวัดโทไดจิในนารา
พระใหญ่นี้เคยประดิษฐานอยู่ในวัดหลังจากหล่อเสร็จในศตวรรษที่ 13 เช่นเดียวกันกับองค์ที่อยู่ในนารา อย่างไรก็ตาม ในศตวรรษที่ 14 และ 15 ห้องโถงวัดได้พังลงอยู่บ่อยครั้งเนื่องจากพายุไต้ฝุ่น สึนามิ และแผ่นดินไหว ดังนั้น ในปี พ.ศ. 2041 ผู้ดูแลนิกายสุขาวดีจึงรู้สึกปลงและปล่อยให้พระพุทธรูปอยู่กลางแจ้ง
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พระพุทธรูปองค์นี้ก็ได้ตั้งอยู่เป็นสัญลักษณ์ที่น่าเลื่อมใสของคามาคุระ
©Kamakura City Tourist Association
สุขาวดี
พระใหญ่แห่งเมืองคามาคุระตั้งอยู่ในพื้นที่วัดโคโตกุอินซึ่งเป็นวัดพุทธนิกายสุขาวดี นิกายนี้มุ่งเน้นการละทางโลก ดังนั้น พระใหญ่องค์นี้จีงเป็นที่ศรัทธาของทุกคนไม่ว่าจะเป็นนักบุญหรือคนบาป คนรวยหรือคนจน คนหนุ่มสาวหรือคนแก่ เพื่อชี้นำทุกคนสู่ทางสว่าง
©Kamakura City Tourist Association
สวมวาราโซริและเตรียมใจออกเดินทาง
จุดไฮไลท์ของการมาเยี่ยมเยียน ณ ที่แห่งนี้คือการเข้าไปยืนอยู่ในพระใหญ่เพื่อฟังเสียงที่เบาบางจากโลกภายนอก
ด้านขวาของพระใหญ่จะมีรองเท้าแตะสานวาราโซริความยาวขนาด 1.8 เมตรแขวนไว้อยู่คู่หนึ่ง แต่เดิมเป็นผลงานของเด็ก ๆ ในปี พ.ศ. 2494 โดยหวังว่าพระพุทธรูปจะใช้รองเท้าไปเดินรอบญี่ปุ่น ซึ่งเหล่าเด็ก ๆ ในชมรมจะสานรองเท้าใหม่ขึ้นทุก ๆ สามปี
ทางเข้าเทพพิทักษ์
จุดที่น่าสนใจอื่น ๆ ก็จะมีประตูนิโอมงอันเป็นทางเข้าที่เต็มไปด้วยสีสันซึ่งมีเทพพิทักษ์สององค์คอยคุ้มครองวัดอยู่
หลังพระพุทธรูปก็จะเป็นห้องโถงคังเก็ตสึโดซึ่งเคยเป็นพระราชวังในกรุงโซลศตวรรษที่ 15 ก่อนที่จะถูกย้ายมาที่โตเกียว จากนั้นจึงถูกย้ายมาที่คะมะคุระ ในนั้นจะมีภาพคันนงโบซัตสึหรือเทพเจ้าแห่งความเมตตาที่วาดขึ้นในยุคเอโดะ (พ.ศ. 2146 - 2410)
วัดโคโตกุอินอำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวที่พิการ โดยมีเส้นทางสำหรับคนพิการซึ่งมีป้ายบอกทางอยู่ชัดเจน ตั๋วเข้าชมวัดโคโตกุอินสนนราคา 300 เยนและบวกเพิ่มอีก 20 เยนสำหรับค่าเข้าไปในพระพุทธรูป
เผื่อเวลาชมพระใหญ่แห่งเมืองคามาคุระและสมบัติอื่น ๆ ที่วัดโคโตกุอินไว้สัก 30 นาที เพื่อจะได้ไม่ต้องรีบร้อนเกินไป แต่ในช่วงฤดูกุหลาบพันปีบานและวันหยุดราชการอาจเสียเวลามากขึ้น เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวแออัด