สถาบันโชกาซนจูกุ 松下村塾

สถานศึกษาโชคะซนจุคุก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1842 มีขนาดเพียงปูเสื่อทาทามิได้ 8 ผืนเท่านั้น ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกโดยยูเนสโกเนื่องจากมีส่วนสำคัญในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น เมื่อเดินรอบๆ บริเวณด้านนอกของอาคารที่อนุรักษ์ไว้อย่างดีหลังนี้ คุณจะแปลกใจว่าสถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งจุดประกายแนวคิดและความทะเยอทะยานในการเปลี่ยนแปลงประเทศญี่ปุ่นไปสู่อุตสาหกรรมและความเป็นสมัยใหม่

นั่งรถบัสไปยังฮะงิ จากนั้นให้เดินเท้า ปั่นจักรยาน หรือต่อแท็กซี่

จากสถานีชิน-ยะมะงุชิ ให้นั่งรถบัสซูเปอร์ฮะงิโงะแบบต่อเดียวถึงไปยังสถานีเจอาร์สถานีฮิกาชิฮากิ โดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง แล้วเดินเท้าต่ออีก 20 นาที ก็จะไปถึงศาลเจ้าโชอิน อีกวิธีเดินทางคือการเช่าจักรยานใกล้กับสถานี แล้วปั่นไปยังศาลเจ้าโดยจะใช้เวลา 10 นาที หรือนั่งแท็กซี่ต่อเพียง 5 นาที

ซามูไรหนุ่มนาม โยชิดะ โชอิน มองเห็นกองเรือดำอเมริกันแล่นเทียบท่าอ่าวเอโดะในปี ค.ศ. 1853 นำโดยพลเรือจัตวา แมทธิว เพร์รี ซึ่งเรียกร้องให้ญี่ปุ่นเปิดประเทศเพื่อทำการค้า หลังจากปิดประเทศมายาวนานกว่า 220 ปี

กองเรือกลไฟมหึมานี้ไม่เคยปรากฏในญี่ปุ่นมาก่อน และทำให้โชอินประหลาดใจ โชอินรู้ทันทีว่าญี่ปุ่นต้องเปลี่ยนแปลงให้มีความเป็นสมัยใหม่และเรียนรู้จากต่างชาติเพื่อให้สามารถอยู่รอดได้

โชอินถ่ายทอดแนวคิดดังกล่าวให้กับลูกศิษย์ ในปี ค.ศ. 1863 อิโต ฮิโระบุมิ และคณะอีก 4 คนแอบเดินทางไปยังกรุงลอนดอนอย่างผิดกฎหมายเพื่อศึกษาและนำความรู้ที่ได้กลับมาพัฒนาญี่ปุ่น พวกเขาเป็นที่รู้จักกันในนาม “ห้าซามูไรแห่งโชชู” และในภายหลังก็ได้รับตำแหน่งสำคัญๆ ในรัฐบาลยุคเมจิใหม่ (พ.ศ. 2411 - 2455)

คุณสามารถเยี่ยมชมบ้านหลังเก่าของอิโตซึ่งเป็นบ้านมุงหลังคาเล็กๆ และคฤหาสน์ของ อิโต ฮิโระบุมิ ที่เขาพำนักเมื่อทำงานในรัฐบาลได้โดยตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกันกับศาลเจ้าโชอินจินจะ