HOME Back

Use the

Planning a Trip to Japan?

Share your travel photos with us by hashtagging your images with #visitjapanjp

แช่น้ำในอนเซ็นที่ล้อมด้วยต้นไม้เขียวและหุบเขางดงาม

โจซังเคอนเซ็นเป็นเมืองน้ำพุร้อนที่ใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด ณ อุทยานแห่งชาติชิโคสึ-โทยะ ที่มีโรงแรมเรียวกังกว่า 20 แห่ง และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของฮอกไกโด ที่มีผู้มาเยี่ยมเยือนกว่า 1.4 ล้านคนต่อปี พระสงฆ์ชื่อมิซุมิ โจซังได้สร้างสปาบริเวณตอนบนของแม่น้ำใน ค.ศ. 1866 สัมผัสความพิเศษของน้ำที่มีสรรพคุณในการรักษา ท่านได้พาผู้บาดเจ็บและผู้ป่วยมารักษาตัวที่นี่ จากนั้นพื้นที่นี้ก็ค่อย ๆ เป็นที่รู้จัก

พลาดไม่ได้

  • ฤดูใบไม้ร่วงในโจซังเคที่ภูเขาต่าง ๆ และแม่น้ำโทโยฮิระถูกแต่งแต้มด้วยสีของใบไม้ร่วง
  • พายเรือแคนูใต้สะพานนิชิกิ
  • ถ่ายรูปกัปปะหรือพรายน้ำตัวเล็กที่เป็นมาสคอตของโจซังเค

วิธีการเดินทาง

เดินทางไปยังโจซังเคอนเซ็นได้ด้วยรถหรือรถรับส่ง

โรงแรมหลายแห่งมีบริการรถรับส่งจากสถานีซัปโปโร หรือสถานีรถไฟใต้ดินมะโคะมะไน รถบัสสายกัปปะจะวิ่งจากสถานีซัปโปโร สถานีโอโดริ และสถานีซุซุกิโนะไปยังโจซังเคอนเซ็น 13 เที่ยวต่อวัน แต่ต้องทำการจองล่วงหน้า การเดินทางด้วยรถบัสสายนี้ใช้เวลาประมาณ 75 นาที ส่วนการเดินทางโดยรถยนต์จะใช้เวลาประมาณ 40 นาที

 

 

แช่น้ำเพื่อคืนความอ่อนเยาว์และเพิ่มความสดชื่น

น้ำในสปาประกอบด้วยแร่ธาตุหลากหลายชนิด ทั้งโซเดียมคลอไรด์ กำมะถัน และโซเดียมไบคาร์บอเนต น้ำพุร้อนชนิดนี้เป็นหนึ่งในน้ำพุที่เป็นที่นิยมที่สุดในญี่ปุ่น เนื่องจากดีต่อผิว ภาวะอ่อนแรง แผลโดนบาด แผลจากไฟไหม้น้ำร้อนลวก ช่วยคลายความอ่อนล้า และอื่น ๆ อีกมากมาย สอบถามชาวบ้านว่าบ่อน้ำพุร้อนแบบใดที่เหมาะสำหรับสภาพร่างกายของคุณมากที่สุด และอย่าลืมว่าบ่อส่วนใหญ่จะแยกชายหญิง แวะแช่น้ำสักครู่ หรือจองที่พักในเรียวคังโบราณสักแห่งเพื่อการผ่อนคลายอย่างสูงสุด

 

 

ช่วงที่มีสีสันที่สุดของปี

โจซังเคอนเซ็นล้อมรอบด้วยภูเขาหลายลูก เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วงจึงสวยงามมาก ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับการชมใบไม้เปลี่ยนสีในฮอกไกโด ใบไม้สีแดงเริ่มเปลื่ยนสีในไม่กี่สัปดาห์ต่อมา โดยบริเวณทางตอนกลางและใต้ของญี่ปุ่นเวลาที่เหมาะสมสำหรับชมใบไม้เปลี่ยนสีได้แก่ช่วงกลางเดือนตุลาคม

 

 

ฤดูที่วิวสวยที่สุด

ถึงแม้ใบไม้เปลี่ยนสีจะดึงดูดคนได้มาก แต่โจซังเคอนเซ็นก็เป็นที่นิยมตลอดทั้งปี ควรมาถึงโจซังเคอนเซ็นประมาณ 10 โมงเช้า หากตั้งใจจะทำกิจกรรมอื่น ๆ ลองค้างคืนหากมีโอกาส และจากนั้นค่อยขึ้นรถบัสกลับไปซัปโปโรที่จะออกตอน 5 โมงเย็นของทุกๆวัน

 

 

มาสคอตสุดเจ้าเล่ห์แห่งโจซังเค

สัญลักษณ์และผู้ปกปักษ์รักษาโจซังเคคือพรายน้ำที่เรียกว่ากัปปะ หรือสัตว์ประหลาดหน้าตาน่ารักในจิตนาการซึ่งมีลักษณะคล้ายกับฮ็อบก็อบลินที่มีจานอยู่บนหัว ตำนานของกัปปะยังคงมีอยู่ในบ่อน้ำพุร้อนของรีสอร์ทแห่งนี้ ซึ่งรูปปั้นสัตว์ประหลาดนี้มีให้เห็นอยู่ทั่วไป และมีรูปปั้นราชากัปปะด้วย

ตามตำนาน มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งได้มาตกปลาที่ริมแม่น้ำและหายตัวไป ปีต่อมาเด็กหนุ่มคนนั้นได้ไปเข้าฝันพ่อของเขาและบอกว่า "ตอนนี้ผมมีความสุขอยู่กับภรรยากัปปะและลูกของผม" ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีใครจมน้ำแถวริมแม่น้ำนั้นอีกเลย คุณสามารถซื้อของที่ระลึกและของเล่นได้ที่ร้านค้าแถวนั้น

ผ่อนคลายหลังจากเล่นสกีมาทั้งวัน

ไม่ไกลจากโจซังเคอนเซ็นจะเป็นซัปโปโร โคคุไซ สกีรีสอร์ท รีสอร์ทแห่งนี้มีพื้นที่สกีที่ยอดเยี่ยม สำหรับผู้ที่เริ่มหัดเล่นไปจนถึงผู้เล่นที่ชำนาญแล้ว ทั้งยังมีสนามหิมะสำหรับเล่นเลื่อนหิมะและนั่งห่วงยางไถลลงจากเนินหิมะ รวมไปถึงทิวทัศน์แบบพาโนรามาแสนงดงามของเมืองโอตารุและทะเลญี่ปุ่นในวันแดดจ้า สกีรีสอร์ทแห่งนี้อยู่แห่งจากตัวเมืองซัปโปโร 90 นาที หลังจากเล่นสกีและสโนว์บอร์ดเสร็จแล้วก็ไปผ่อนคลายต่อที่บ่อน้ำพุร้อนในโจซังเค

เดินขึ้นเข้าเพื่อดูวิวพาโรนามา ที่กว้างกว่าเดิม

รอบโจซังเคมีจุดชมทิวทัศน์อื่น ๆ อยู่มากมาย ทั้งเขื่อนโฮเฮเคียว เขื่อนโจซังเค และสวนสาธารณะโจซังเก็นเซ็นที่ตั้งอยู่ที่ใจกลางเมือง เพลิดเพลินไปกับการแช่อนเซ็นเท้าฟรีในป่า หรือเดินเล่นบนทางเดินเลียบแม่น้ำโทโยฮิระที่มีน้ำร้อนผุดขึ้นมาจากก้นแม่น้ำ ส่วนภูเขา

 



* ข้อมูลต่างๆ บนเวบไซต์ อาจมีการเปลี่ยนแปลงสืบเนื่องจากสถานการณ์ COVID-19

คำแนะนำสำหรับคุณ

sapporo kokusai ski resort
ซัปโปโรโคกูไซสกีรีสอร์ท
Around Sapporo
ซัปโปโรและพื้นที่โดยรอบ

Please Choose Your Language

Browse the JNTO site in one of multiple languages