คิตะคะตะ 喜多方市

คิตะคะตะในจังหวัดฟุคุชิมะมีน้ำและข้าวอย่างอุดมสมบูรณ์ จึงเป็นที่รู้จักในเรื่องของความชื่นชอบในราเม็ง รวมถึงสาเกชั้นเลิศ

สามารถเดินทางไปคิตะคะตะได้ด้วยรถไฟชินคังเซ็นจากโตเกียว

ให้ขึ้นเจอาร์โทโฮคุ ชินคันเซนจากโตเกียวไปลงที่โคริยามะ เปลี่ยนสายที่นี่เป็นรถไฟด่วนสายเจอาร์บันเน็ตสึ-ไซเซ็นไปลงที่คิตะคะตะ

ทุกสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองอยู่ในระยะที่เดินจากสถานีรถไฟได้อย่างไม่ลำบาก คุณสามารถเช่าจักรยานสักวันแล้วมุ่งหน้าออกไปทางนอกเมืองหน่อยก็ยังได้

อีกทางเลือกหนึ่งก็คือรถบัสคิตะคะตะเซอร์กิตซึ่งวิ่งวนรอบย่านช็อปปิ้งและจุดเที่ยวชมต่าง ๆ 

เดินเที่ยวทั่วศูนย์กลางเมืองชมคุระหรือโกดังญี่ปุ่นโบราณหลายแห่งที่ยังหลงเหลืออยู่ ซึ่งปัจจุบันได้ถูกดัดแปลงเป็นที่พัก ร้านค้า โรงกลั่น และร้านค้าเฉพาะอย่าง โกดังจำนวนมากตั้งอยู่อย่างหนาแน่นในใจกลางเมือง

ที่คิตะคะตะ คุระ โนะ ซาโตะ อาคารและสิ่งก่อสร้างสมัยเอโดะและเมจิที่มีความสำคัญทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ถูกสร้างขึ้นใหม่ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ รวมถึงที่พักอาศัยของครอบครัวพ่อค้าชื่อดังสองตระกูล

ด้วยร้านราเม็งมากกว่า 100 ร้านที่แข่งขันกันทำราเม็งที่ดีที่สุดในคิตะคะตะ คุณจึงมีตัวเลือกให้เลือกไม่หวาดไม่ไหว ราเม็งคิตะคะตะจะใช้เส้นราเม็งหนา แบน บิดงอ เสิร์ฟในน้ำซุปต้มหมูและนิโบชิ (ปลาซาร์ดีนตากแห้ง) และแต่ละร้านก็จะทำในสไตล์ของตัวเอง คนท้องถิ่นแนะนำให้ทานเป็นมื้อเช้าไปเลย

สาเกก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญต่อชีวิตและธุรกิจในคิตะคะตะ เนื่องจากภูมิภาคนี้มีชื่อเสียงในด้านการปลูกข้าวและคุณภาพของข้าว โรงผลิตเหล้าท้องถิ่นหลายแห่งมีบริการทัวร์เที่ยวชมพร้อมชิมสาเก

โดยบางแห่งอาจต้องจองล่วงหน้า แต่บางแห่งก็ไม่จำเป็น จึงควรตรวจสอบข้อมูลว่าที่ใดรับผู้มาเยือนแบบวอล์คอินบ้าง

คิตะคะตะมีประวัติศาสตร์อันยาวนานในด้านเครื่องเคลือบและงานไม้จากต้นพอโลเนีย 

หากสิ่งเหล่านี้ทำให้คุณรู้สึกคันไม้คันมืออยากจะลองทำดูบ้าง ก็สามารถจองเวิร์คช็อปตกแต่งเครื่องเคลือบในร้านเครื่องเคลือบคิโนะโมะโตะได้

ที่จริงแล้ว คุณสามารถเข้าร่วมเวิร์คช็อปทำงานฝีมือและอาหารดั้งเดิม เช่น การย้อมสีลวดลายฉลุ ข้าวตัง และขนมหวานโบราณที่เรียกว่าคินาโกะเนจิริได้ในหลายสถานที่